เป็นนักขายองค์กรใหญ่หรือว่าองค์กรเล็กดีนะ

ใกล้เข้าสู่ฤดูแห่งการ “เปลี่ยนงาน” ซึ่งก็มักจะเป็นช่วงรับโบนัสเรียบร้อยแล้ว ใครที่สนใจอยากจะเปลี่ยนสายงานเป็นนักขายหรือเป็นเด็กจบใหม่ที่กำลังสนใจในเรื่องนี้ บทความนี้ผมไม่อยากให้คุณพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ขอบอกเลยว่าอาชีพ Salesperson บริษัทใหญ่ ชื่อดัง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีทั้งหมดเสมอไป หรือบริษัทเล็กเองซึ่งขึ้นชื่อว่า “ขนาดเล็ก” แต่ก็มีดีไม่แพ้ใครเหมือนกัน ผมเองเคยผ่านงานขายทั้งบริษัทระดับโลก สตาร์ทอัพ และทำ SME ของตัวเองมาแล้วจึงตีแผ่ให้คุณได้แบบถึงกึ๋น ดังนี้

บริษัทใหญ่ บริษัทมหาชน บริษัทระดับโลก

ข้อดี

1. ทรัพยากรและทีมงานสนับสนุนแบบจุใจ

ทรัพยากรนั้นไล่ตั้งแต่บรรดาทีมงานที่ครบครัน สถานที่ทำงานสุดแสนจะสบาย เดินทางสะดวก แถมยังมีโปรแกรมฝึกอบรมที่ครบครัน มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยการขายดีๆ อีกต่างหาก เช่น ระบบ CRM, เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือพวกสื่อการนำเสนอรูปแบบต่างๆ แถมยังมีทีมการตลาดคอยสนับสนุนการหาลีดลูกค้าใหม่อีกต่างหาก ทำงานง่ายโคตรๆ สวัสดิการก็มักจะดีเลิศ ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ เต็มเหนี่ยว

2. ชื่อเสียงของบริษัท

แน่นอนว่าการเป็นตัวแทนบริษัทดังย่อมทำให้เข้าถึงลูกค้าง่ายกว่าบริษัทโนเนม ยิ่งถ้าบริษัทคุณเป็นเจ้าตลาดหรือเป็นผู้ขายลำดับต้นๆ แล้วล่ะก็ หวานเจี๊ยบ ผลก็คือเข้าไปขายได้แบบโคตรง่าย จิ้มโทรศัพท์ตรงหาลูกค้าเขาก็ยังยอมรับนัดเพราะชื่อเสียงบริษัทของคุณดังนี่แหละครับ ความน่าเชื่อถือตอนเริ่มต้นขายจึงช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นมากๆ

3. ความก้าวหน้าในสายงาน

ยอมรับว่ามาจากบริษัทดังและทำผลงานได้ดีย่อมทำให้การย้ายงานไปทำกับบริษัทแบบเดียวกันนั้นง่ายกว่ามาก โอกาสเรื่องความก้าวหน้ากับเงินเดือนจึงสูงกว่าคนที่เป็นนักขายบริษัทเล็ก ซึ่งฝีมือหรือทักษะการขายอาจจะไม่ต่างกันมากนัก แต่คนมาจากบริษัทดังย่อมมีภาษีที่ดีกว่า หรือไม่ก็โอกาสเติบโตภายในองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งเห็นเส้นทางชัดเจน มีตำแหน่งให้ลงมากมายถ้าฝีมือหรือวุฒิของคุณถึงน่ะนะ

4. โอกาสในการสร้างเครือข่าย คอนเนคชั่น ระดับสูง

เพราะคุณอยู่ในบริษัทที่เป็นผู้นำตลาดและเป็นบริษัทขนาดใหญ่ การได้ทำงานร่วมกับคนในและคนนอกย่อมเปิดโอกาสให้คุณรู้จักบุคคลระดับสูงทั้งในและนอกวงการ หรือการขายโปรเจคใหญ่ๆ หลักสิบล้าน ร้อยล้าน มักได้เจอกับลูกค้าระดับ C-Level หรือ CEO เลยด้วยซ้ำ ระยะยาวของคุณจึงสร้างคอนเนคชั่นขั้นเทพเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพและเอาไว้ใช้ทำธุรกิจในอนาคตเลยก็ยังได้

ข้อเสีย

1. ความไม่ยืดหยุ่นการทำงานตามระบบองค์กร

เนื่องจากมีแผนกอยู่มากมาย มีหัวหน้าอยู่บนหัว ทำให้การทำงานต้องทำตามระบบ มีลำดับชั้นในการขออนุมัติเรื่องต่างๆ อยู่หลายขั้น เอาตรงๆ เลย คือบริษัทใหญ่เวลาทำโปรเจคกว่าจะส่งงานได้มักจะโคตรช้าเลย เรื่องนี้มักเป็นผลลบที่ทำให้ลูกค้าบ่นนักขายบริษัทใหญ่เพราะความล่าช้า ทั้งๆ ที่คุณไม่ตั้งใจให้มันช้าด้วยซ้ำครับ

2. อิสรภาพในการทำงานที่น้อย

เพราะต้องทำตามนโยบายบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ KPI ที่ถูกสั่งการมาจากเบื้องบนหรือไม่ก็บริษัทแม่ การนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ในการขายหรือความคิดสร้างสรรค์ตามใจนึกย่อมยากมากที่จะผ่านการอนุมัติ หรือไม่ก็ต้องมีคนเห็นด้วยทุกฝ่าย เอาแค่เจ้านายก็ยากที่จะเห็นด้วย (เพราะถูกสั่งการมาอีกที) ทำให้เกิดข้อจำกัดในการขายด้วยวิธีที่แปลกใหม่หรือทำอะไรนอกตำราไม่ค่อยได้

3. การแข่งขันภายในทีมที่สูง เป็นลูกรักได้ยากกว่า

องค์กรใหญ่ที่มีนักขายเยอะย่อมเกิดการแย่งชิงตำแหน่งท็อปเซลส์ ซึ่งก็มีเงื่อนไขที่ยากขึ้นไปอีกเพราะคนที่มาก่อนกับอยู่มานานมักมี “แต้มบุญ” สูงกว่า หรือได้ดู Key Account มาก่อนคุณ การมาทีหลังและก้าวไปเป็นที่หนึ่งจึงยากมาก นอกจากนี้การหาลูกค้าใหม่เพื่อเติมแต้มบุญอาจใช้การไม่ได้กับบริษัทใหญ่เพราะคุณเองก็เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว ฐานลูกค้าจึงมีเยอะและที่เหลือก็คือลูกค้ารายเล็กๆ ซึ่งกว่าจะทำยอดได้เทียบเท่า Key Account ก็อาจจะต้องพึ่งดวงเลยด้วยซ้ำ สิ่งนี้แหละที่เรียกว่า “เป็นหางราชสีห์”

4. ค่าคอมมิชชั่นไม่เยอะ

จริงอยู่ที่ฐานเงินเดือนอาจจะสูงแต่ระบบการจ่ายผลประโยชน์ค่าคอมมิชชั่นจะไม่สูงมากนักหรือมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก บางบริษัทไม่จ่ายเลยด้วยซ้ำ เหตุผลก็คือบริษัทดังและมีชื่อเสียงด้วยตัวธุรกิจเองอยู่แล้ว นักขายจึงเป็นแค่ “เบี้ย” ตัวนึง ไม่ใช่ “ขุน” พูดตรงๆ คือระบบการขายที่ดีเลิศ คุณเก่งก็จริงแต่เสียคุณไปก็ไม่กระทบเพราะสามารถจ้างนักขายใหม่ สเปคสูง มาปั้นเข้าระบบเมื่อไหร่ก็ได้ นักขายบริษัทดังหลายๆ คนยังไม่มีปัญญาจับค่าคอมมิชชั่นหลักแสนทั้งชีวิตเลยด้วยซ้ำครับ

╔═══════════╗

การขายยุค AI และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นแบบนี้ ติดตามกูนี่แหละเซลล์ร้อยล้านแบบวีดีโอได้ใน YouTube- คอนเทนต์วีดีโอด้วยความรู้ระดับโลกตลอด 365 วัน ที่นี่ YouTube.com/@sales100million

╚═══════════╝

บริษัทขนาดเล็ก ธุรกิจ SME และ Startup

ข้อดี

1. ความยืดหยุ่น

ส่วนใหญ่บริษัท SME ขนาดเล็กคือบริษัทที่กำลังโต ดังนั้นคุณจึงมีอิสระในการสร้างกลยุทธการขายที่ทำยังไงก็ได้ให้ “จับหนูได้ก็พอ” โดยเฉพาะโอกาสในการล่าลูกค้าใหม่แบบอิสระ ถ้าไม่เหยียบตีนใครก็สามารถลุยได้เลย เจ้านายจะรักคุณมากและไม่ได้มีข้อจำกัดในการขายอะไรกับคุณมากมาย ขอให้คุณทำผลลัพธ์ให้เห็นพอแล้ว

2. ความใกล้ชิดภายในทีมโดยเฉพาะกับเจ้าของบริษัท

ถ้าอยู่บริษัทใหญ่บางทีไหว้ CEO เขายังจำหน้าไม่ได้เลยครับ ความเหลื่อมล้ำมันเยอะเกินไป แต่กับบริษัทเล็กนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าการทำงานจะโคตรมีทีมเวิร์ก โดยเฉพาะกับเจ้าของบริษัทที่พร้อมจะลงไปช่วยคุณขายของ ปิดการขาย เติบโตไปด้วยกัน ผลงานเข้าตาจึงเป็นลูกรักเจ้าของบริษัทแบบง่ายโคตรๆ

3. ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ไว

เนื่องจากลำดับชั้นของคนบนหัวนั้นแทบไม่มี เผลอๆ ต่อสายตรงกับนาย จะขอร้องให้ทำหรืออนุมัติอะไรก็สื่อสารไปตรงๆ ได้เลย เช่น ขอส่วนลดพิเศษให้ลูกค้า ขอให้มีการรับชำระแบบให้เครดิต ฯลฯ โดยเฉพาะเรื่องด่วนที่ลูกค้าขอมา จงเดินไปบอกเจ้านาย รับรองว่าเร็วทุกเรื่องแน่นอน

4. ได้ทำงานที่หลากหลาย

เป็นนักขายบริษัทใหญ่ต้องทำงานตาม KPI กับนโยบายบริษัทเท่านั้น แต่กับบริษัท SME หรือ Startup จะได้ทำอะไรเยอะมาก เช่น ได้ช่วยงาน HR ในการสัมภาษณ์พนักงานขายใหม่ ได้มีส่วนร่วมกับงานด้านการตลาดในการจัดบูท ออกบูท หรือหาลีดออนไลน์ เป็นต้น

5. ค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าเพราะการแข่งขันภายในทีมน้อยกว่า

โอกาสได้ค่าคอมมิชชั่นต้องมายากเงื่อนไขหลายๆ อย่างก็จริง เช่น บริษัทคุณมีสินค้าและบริการที่โดดเด่นถึงแม้จะเป็นบริษัทเล็ก หรือระบบการจ่ายค่าคอมมิชชั่นนั้นเข้าใจง่าย ได้ไม่ยาก มาจากยอดขาย เป็นต้น ซึ่งถ้าเข้าเงื่อนไขนี้ คุณอยู่มาก่อนหรือทีมขายมีไม่เยอะ การสร้างแต้มบุญก่อนชาวบ้านและได้ Key Account จึงมีประโยชน์มาก ยิ่งอยู่ไปนานๆ บริษัทเติบโต จับ Key Account อยู่ยิ่งทำงานสบาย เผลอๆ ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่อีกต่อไปแล้ว นอนเก็บเงินไปวันๆ ก็ยังได้

╔═══════════╗

การขายยุค AI และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นแบบนี้ ติดตามกูนี่แหละเซลล์ร้อยล้านแบบวีดีโอได้ใน YouTube- คอนเทนต์วีดีโอด้วยความรู้ระดับโลกตลอด 365 วัน ที่นี่ YouTube.com/@sales100million

╚═══════════╝

ข้อเสีย

1. ทรัพยากรและการสนับสนุนแบบจำกัดจำเขี่ย

บริษัทอาจจะมีขีดจำกัดเรื่องสินค้า การให้บริการ ทีมงาน หรือสิ่งสนับสนุนการทำงานของคุณ ทำให้การทำงานและการขายอาจจะไม่ราบรื่นมากนัก สวัสดิการบางที่นั้นไม่มีอีกต่างหาก ไม่ต้องพูดถึงโปรแกรมการฝึกอบรมอะไรทั้งนั้นนะครับ ส่วนใหญ่เน้นตัวใครตัวมันไปก่อน

2. ความยากในการขายธุรกิจที่ลูกค้าไม่รู้จัก

บริษัทเล็ก เปิดใหม่ หรือ SME ที่ทำธุรกิจไม่นานมักไม่ค่อยมีแต้มบุญเรื่องผลงานที่ผ่านมา ลูกค้าไม่รู้จักอีกต่างหาก ทำให้การขายและความน่าเชื่อถือในช่วงแรกนั้นยากมาก ยากตั้งแต่โทรทำนัดเลยด้วยซ้ำครับ กว่าจะเปิดลูกค้าใหม่จึงเลือดตาแทบกระเด็น นักขายที่มีประสบการณ์ดู Key Account ไม่มีทางปรับตัวได้เลยเพราะอยู่ SME ต้องหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา

3. โอกาสก้าวหน้าในสายงานที่ด้อยกว่าบริษัทใหญ่

ถ้าคุณฝันว่าอยากไปอยู่กูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ ปตท. เอสซีจี ฯลฯ โดยส่งใบสมัครไปแต่ไม่มีผลงานกับบริษัทขนาดใหญ่มาก่อน ขอบอกเลยว่าโคตรยาก เพราะบริษัทเหล่านี้มักต้องการคนที่ทำงานบริษัทใหญ่เหมือนกันมากกว่า ผลก็คือเสียโอกาสในการทำงานกับบริษัทใหญ่ สวัสดิการดี เงินเดือนสูง

ติดตามกูนี่แหละเซลล์ร้อยล้านได้ที่
Website – sales100million.com
Blockdit – blockdit.com/sales100million
Facebook – facebook.com/sales100million
Instagram – instagram.com/sales100million
YouTube – youtube.com/@sales100million
TikTok – tiktok.com/@sales100million
LinkedIn – linkedin.com/company/sales100million

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts