ทำไมทำธุรกิจถึงไม่ควรเป็นแค่ “หุ้นลม” หรือ “หุ้นลงแรง”
คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะหลายคนอาจจะมองข้ามความสำคัญของการลงทุนที่แท้จริงในการทำธุรกิจ
เหตุผลที่ธุรกิจไม่ควรเป็นแค่ “หุ้นลม” หรือ “หุ้นลงแรง” มีดังนี้
- ความรับผิดชอบ: หุ้นลมหรือหุ้นลงแรง หมายถึงการที่ผู้ถือหุ้นไม่ได้ลงทุนเงินหรือทรัพย์สินใดๆ แต่ได้รับหุ้นมาฟรีๆ ซึ่งอาจเกิดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อื่นๆ การทำธุรกิจแบบนี้ขาดความรับผิดชอบต่อธุรกิจ เพราะผู้ถือหุ้นไม่ได้มีส่วนร่วมในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง
- การขาดแรงจูงใจ: ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ลงทุนมักจะขาดแรงจูงใจในการทำงานและพัฒนาธุรกิจ เพราะพวกเขาไม่ได้มีส่วนได้เสียในผลกำไรหรือขาดทุนของธุรกิจ ทำให้การตัดสินใจต่างๆ อาจไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท
- ความเสี่ยงต่อการล้มเหลว: ธุรกิจที่ขาดทุนส่วนร่วมจากผู้ถือหุ้น มักจะขาดสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินงานและขยายธุรกิจ เมื่อเกิดปัญหาหรือวิกฤตขึ้น ธุรกิจเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงต่อการล้มเหลวสูง
- ปัญหาในการบริหารจัดการ: การมีผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ลงทุนจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในการบริหารจัดการธุรกิจ เพราะแต่ละคนอาจมีเป้าหมายและผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน
- ภาพลักษณ์ของบริษัท: ธุรกิจที่ประกอบด้วยหุ้นลมหรือหุ้นลงแรง อาจถูกมองว่าขาดความน่าเชื่อถือและความมั่นคง ทำให้ยากต่อการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่และพันธมิตรทางธุรกิจ
ธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ควรเป็นธุรกิจที่ผู้ถือหุ้นทุกคนมีส่วนร่วมในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง ทั้งในด้านเงินทุน ทรัพยากร และความรู้ความสามารถ การมีผู้ถือหุ้นที่หลากหลายและมีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
สรุปแล้ว การทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องอาศัยพื้นฐานที่มั่นคง ซึ่งรวมถึงการมีผู้ถือหุ้นที่ลงทุนอย่างจริงจังและมีความรับผิดชอบต่อธุรกิจ
Comments
0 comments