แพ้บ้างก็ดี

ความพ่ายแพ้ ล้มเหลว ล้วนเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากเจอ

แต่ก็อย่างที่ตำราคนรวยหลายๆ เล่มเค้าบอกกันแหละครับว่าถ้าไม่เคยล้มเหลว ก็ย่อมไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จ ภาษาฝรั่งใช้คำว่า “No Pain No Gain”

ซึ่งก็จริงนะครับ ขนาดออกกำลังกาย ถ้าไม่เจ็บปวดกล้ามเนื้อถึงขีดสุด กล้ามเนื้อไม่มีทางโตขึ้นแน่นอน

และนี่คือเหตุผลที่ทำไมผมถึงบอกคุณว่า “แพ้บ้างก็ดี”

1. เพื่อกลับมาปรับปรุงให้ดีขึ้น

มีข้อดีที่สุดของความพ่ายแพ้หรือการโดนลูกค้าปฎิเสธก็คือการถามไปตรงๆ ว่าเพราะอะไรถึงไม่ซื้อหรือเลือกเจ้าอื่นแบบจริงใจ รับรองได้ว่ามีเหตุผลดีๆ ที่เอาไปปรับปรุงงานของคุณให้ดีขึ้น เช่น ราคา คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีค่าในครั้งต่อไปแน่นอน

2. เพื่อกลับมาปรับปรุงแผนการขายให้เจ๋งกว่าเดิม

แผนการขายหรือกลยุทธที่ดีล้วนสะท้อนออกมาด้วยผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน แต่ถ้าผลลัพธ์กลับล้มเหลว ขายไม่ได้ คุณอาจจะเจอช่องโหว่บางอย่างในระบบที่ออกแบบมาก็ได้ครับ เช่น การตั้งราคาที่ไม่ตอบโจทย์ตลาด ช่องทางการขายที่ไม่ตรงกลุ่ม สินค้าไม่ตรงตามความต้องการในตอนนี้ เป็นต้น

3. เพื่อสร้างสภาพจิตใจให้แข็งแกร่ง

สงครามธุรกิจก็คือโลกของทุนนิยมขนานแท้ ผู้แข็งแกร่งกับผู้ที่ปรับตัวได้เร็วเท่านั้นที่เป็นผู้อยู่รอด มันไม่มีคำว่าปราณี ดังนั้นการเจ็บแล้วจำก็คือคน เจ็บแล้วทนคือควาย แต่เจ็บแล้วท้าท้ายคือคนสำเร็จครับ พูดตรงๆ เลยมันธรรมดามากๆ สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครไม่เคยโดนปฎิเสธครับ

4. เพื่อขจัดข้อโต้แย้งให้หมดไป

บางทีสินค้าดี นำเสนอดี แต่มาตกม้าตายเพราะขจัดข้อโต้แย้งในใจลูกค้าได้ก็มีถมเถไปครับ เหตุผลหรือข้ออ้างของลูกค้าก็มีหลายๆ แบบ เช่น ราคา คุณภาพ คู่เทียบ ความไม่แน่ใจ ฯลฯ ดังนั้นคุณจะได้เรียนรู้การขจัดข้อโต้แย้งตามเหตุผลต่างๆ และนำมาสร้างสคริปการขายใหม่ๆ ได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น

5. เพื่อใช้มันเป็นพลังด้านมืด

เหมือนการ์ตูนเด็กชายที่พระเอกมักมีพลังด้านมืดเวลาโดนอัดหนักๆ เกือบโดนฆ่าตาย หรือโดนดูถูกเหยียดหยามก็มักจะปล่อยพลังแฝงซึ่งเป็นพลังแห่งความแค้น พลังนี้มีอำนาจมากมายนัก ทำให้คุณทำงานได้เหนือความคาดหมายเพื่อเอาชนะให้ได้ แต่จงคุมพลังนี้ให้ดีเพราะไม่งั้นมันจะควบคุมคุณเอง

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts