สาเหตุที่ระบบ CRM ทำให้ทีมขายของคุณทำงานได้ดีขึ้น
เรื่องของระบบ CRM นั้นถูกพูดถึงตั้งแต่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ประมาณ 15 ปีที่แล้วเห็นจะได้ (ดักแก่เลย) แต่เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ยังมีผู้บริหารฝ่ายขายหรือแม้แต่เจ้าของกิจการรุ่นเดอะ “ยังไม่ให้และไม่เห็น” ความสำคัญของระบบ CRM แถมยังไม่เชื่อว่า CRM จะทำให้ทีมขายของพวกเขาทำงานดีขึ้น ดังนั้นผมจึงข้อกระทุ้งด้วยบทความนี้อีกครั้งว่าทำไม CRM ถึงจำเป็นต้องมีและทำให้คุณกับทีมขายมียอดที่ดีขึ้นได้อย่างไร ตรงนี้เลย
1. เป็นระบบที่รวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับลูกค้าและการซื้อขายเข้าสู่ศูนย์กลาง
ลองคิดดูว่ามันสำคัญขนาดไหนที่คุณจะดึงข้อมูลการซื้อขายกับลูกค้าคนสำคัญเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เอาแค่ลูกค้าชื่ออะไร เบอร์โทร ตำแหน่งระดับสูง หรือประวัติการซื้อขายที่ผ่านมา ถึงตรงนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนการขายใหม่ก่อนเข้าพบลูกค้า หรือเมื่อมีพนักงานลาออกไป ข้อมูลพวกนี้จะถูกส่งต่อเป็นมรดกให้กับนักขายใหม่ได้แบบไร้รอยต่อและเรียนรู้ประวัติที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็ว
2. เป็นระบบการจัดการลีดลูกค้าใหม่ที่ยอดเยี่ยม
CRM ที่ดีจะรับข้อมูลที่หลายฝ่ายป้อนเข้ามาเกี่ยวกับลีดลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะจากฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย จะดีแค่ไหนถ้าคุณรู้ว่าลีดที่เข้ามานั้น มาจากช่องทางไหน เช่น เฟซบุ้ค เว็ปไซต์ ออกบูท ฯลฯ และแต่ละลีดมีความร้อนแรงหรือลูกค้ามีความต้องการสูง เป็นคนสำคัญมากแค่ไหน เอาแค่เรื่องนี้ก็ช่วยคุณลดเวลาในการคัดเลือกลีดและโฟกัสการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เป็นระบบการติดตามงานที่มีประสิทธิภาพ
CRM จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้งฝั่งผู้จัดการและตัวพนักงานเอง เพื่อให้ตัวนักขายสามารถเขียนบันทึกการติดตามงาน สร้างตารางเวลา หรือมีระบบการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล์ มือถือ ซึ่งสามารถระบุรายละเอียดการติดตามงาน ทำให้พวกเขาไม่ลืมซึ่งเอาตรงๆ การลืมเนี่ยแหละที่ทำให้พวกเขาพลาดดีลดีๆ ไป ส่วนคุณก็สามารถติดตามผลการตามงานของทีมขายแบบช่วยการทำงานเป็นทีมได้ดี
4. มีคุณสมบัติในการทำงานแทนทีมขายแบบอัตโนมัติ ลดเวลาทีมขายได้มาก
ระบบ CRM ที่ดีส่วนใหญ่จะมีระบบการทำงานแบบอัตโนมัติในรูปแบบงานที่ซ้ำๆ ซากๆ เช่น ส่งอีเมลหาลูกค้าอย่างสม่ำเสมอแทนพนักงานขาย ส่งแคมเปญด้านการตลาดให้ลูกค้าที่แบ่งตามเกรด ฯลฯ แทนที่จะมานั่งเขียนเองทุกฉบับ เสียเวลา ก็ตั้งค่าให้ CRM ทำแทนได้
5. มีระบบวิเคราะห์การขายอย่างเต็มรูปแบบ **สำคัญมากๆ
เชื่อเถอะว่าถ้าคุณมัวแต่งมสูตร Excel สร้างกราฟต่างๆ เอาแค่จัดอันดับท็อปเซลล์แบบกราฟรูปพายหรือแบบแท่ง คุณใช้เวลาเป็นชั่วโมงแน่ๆ นี่ยังไม่รวมกราฟเรื่องยอดขายแบ่งตามเขต แบ่งตามกลุ่มลูกค้า แบ่งตามสินค้าและบริการ หรือกราฟในรูปแบบต่างๆ ที่คุณอยากรู้ ชาตินี้เผลอๆ ทำยังไงก็ไม่เสร็จ แต่ CRM ที่ดีมันจะสร้างกราฟหรือสรุปผลวิเคราะห์การขายให้คุณแบบอัตโนมัติภายในพริบตาเลยล่ะครับ
6. สามารถสื่อสารกับลูกค้าผ่าน CRM ได้เลย
โดยเฉพาะในรูปแบบอีเมล ส่วนใหญ่ระบบ CRM จะเชื่อมต่อกับระบบเมลอย่าง Outlook และ Gmail ดังนั้นเวลาคุณสร้างตารางนัดลูกค้าผ่าน CRM ผลคือมันจะยิงอีเมลทำนัดไปหาลูกค้าตามเมลที่คุณกรอกได้เลย ซึ่งมันจะลดเวลาการทำงานที่ซ้ำซ้อนเป็นอย่างมาก
7. เพิ่มผู้ใช้ได้ง่ายและจ่ายตามจำนวนผู้ใช้จริง
เมื่อถึงเวลาที่รับนักขายเข้ามาใหม่ หรือมีนักขายลาออก CRM ยุคนี้จ่ายเงินตามค่าหัวของผู้ใช้งาน หมายความว่าองค์กรเล็กก็สามารถใช้ CRM ในราคาที่ถูกกว่าองค์กรใหญ่ ทำให้การเข้าถึงระบบดีๆ ก็มีความเท่าเทียมกัน
8. ช่วยทีมขายวางแผนการขายเพิ่มและรักษายอดกับลูกค้าได้ดี
เนื่องจากมันวิเคราะห์ข้อมูลตามจริงว่าลูกค้าแต่ละราย โดยเฉพาะลูกค้าระดับ Key Account หรือพวกขาใหญ่ว่าพวกเขาซื้ออะไร ซื้อเท่าไหร่ สินค้าชนิดใด ทำให้คุณวางแผนขายเพิ่ม ขายสินค้าใหม่ ตามพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายได้ดีขึ้น ผลก็คืออัตราการรักษายอดซื้อซ้ำและขายเพิ่มได้นั้นเพิ่มขึ้น
9. ประหยัดเวลาและใช้งานง่ายกว่า Excel แน่นอน
คุณจะไม่ใช้ระบบ CRM ก็ได้ครับ เพราะใช้ Excel มันทำงานได้เหมือนกัน เพียงแต่องค์กรและพนักงานขายของคุณต้อง “โคตรขยัน” กรอกข้อมูลอย่างครบถ้วน ตัวคุณเองก็ต้องตรวจไปป์ไลน์ทุกแถวแบบไม่มีข้อแม้ เอาแค่เรื่องนี้ผมว่าถ้าพนักงานคุณเลือกได้ก็คงลาออกไปทำกับองค์กรที่มีระบบดีๆ มากกว่าแล้วครับ ผลก็คือคุณจะเหลือแต่นักขายกระจอกที่ยอมทำๆ ไปเพราะไม่มีทางไปทำงานที่อื่นได้นั่นเอง
Comments
0 comments