เหตุผลที่นักขายแบบ “Born to be” นั้นไม่มีจริง

สมัยผมเป็นเด็กมักมีผู้ใหญ่รอบตัวบอกว่าการจะเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จต้อง “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้” เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นก็เชื่อนะเพราะว่าตัวเองเป็นคนที่กล้าแสดงออก ยิ้มแย้ม พูดเก่ง เพื่อนเยอะ เฟรนลี่ อะไรทำนองนี้ คนรอบตัวจึงบอกว่าผมมีคุณสมบัติที่ดีมากๆ ในการเป็นนักขาย แต่ปรากฎว่าตอนจบใหม่ทำงานตำแหน่งนักขายกลับ “ล้มเหลวไม่เป็นท่า” แถมตอนที่ไปทำงานบริษัทอเมริกันก็โดนฝรั่งตอกหน้าว่านักขายแบบ Born to be นั้นไม่มีจริง ซึ่งนี่คือเหตุผลที่วันนี้ผมก็บอกเลยว่าทุกคนเป็นนักขายได้ ดังนี้

1. ทักษะการขายสามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้

เชื่อเถอะว่าคนที่ใช้สกิลการขายจากความกล้า นิสัย หรือตัวตนของตัวเองแต่ไม่ได้เรียนรู้หลักการที่ถูกต้องก็เปรียบได้กับ “มวยวัด” ซึ่งต่อยแม่นก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่จะทำอะไรผิดพลาดแบบไม่รู้ตัวและหลอกตัวเองว่าทำดีแล้ว ทักษะการขายจึงควรเรียนรู้แบบถูกต้องผ่านกูรูหรือหลักสูตรที่ได้มาตรฐานซึ่งมีอยู่เต็มอินเทอร์เน็ตและคุณสามารถเอาไปทดลองกับของจริงได้แบบไม่รู้จบ ทำถูกวิธีย่อมประหยัดเวลาและทำให้ลูกค้าประทับใจมากกว่ามวยวัดอยู่แล้ว

2. นักขายไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ

ความหลากหลายต่างหากที่ทำให้อุปนิสัยหรือตัวตนที่ไม่เหมือนกันของแต่ละคนสามารถเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จในวงการที่แตกต่างได้ คือผมไม่ปฎิเสธครับว่านักขายฮาร์ดเซลล์ ขี้โม้ ตอแหล เขาก็มีที่ยืนเหมือนกัน แต่นักขายจอมสุขุม ต้องใช้ความน่าเชื่อถือสูง ใช้ความเชี่ยวชาญอย่างมากในการขายเช่นที่ปรึกษาหรือการขายเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงก็เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมของคนที่เงียบขรึม พูดน้อย ใช้สมองในการขายเช่นกันครับ

3. ตลาดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

สมัยก่อนไม่แปลกใจที่นักขายจอมโม้ ใช้สายสัมพันธ์ที่ดี พูดเก่ง อยู่กับลูกค้าได้นานๆ มักเป็นภาพจำว่าประสบความสำเร็จเพราะยุคนั้นไม่มีอินเทอร์เน็ต ลูกค้าจึงไม่มีทางเลือกมากนัก (ลองนึกถึงเซลล์ขายประกัน) แต่สมัยนี้ลูกค้าเช็คได้หมดว่าราคาเท่าไหร่ ผลงานก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร จับต้องได้มากแค่ไหน นักขายจอมขี้โม้จึงแทบไม่มีที่ยืน แถมบางสินค้าระดับรถไฟฟ้ายังซื้อออนไลน์ได้แบบไม่ต้องมีนักขายเลยครับ คิดดู

4. นักขายยุคนี้ทำงานกันเป็นทีม

โดยเฉพาะธุรกิจ B2B หรือ B2C ระดับสูงที่แบ่งหน้าที่ชัดเจนระหว่างผู้เชี่ยวชาญที่สนับสนุนนักขายในด้านเทคนิคต่างๆ หรือมีทีมคอยทำการสาธิต เดโม่ ทดสอบสินค้า ดังนั้นจึงไม่มีแล้วที่นักขายต้องทำงานแบบฉายเดี่ยว ซึ่งมีข้อผิดพลาดมากจึงทำให้นักขายสมัยก่อนต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการแถ (ฮา) ผลก็คือขาดความน่าเชื่อถือและกลายเป็นนักขายที่ตอแหล กะล่อน หมกเม็ด ยังไงล่ะครับ

5. ความท้าทายและแรงขับดัน

งานขายเป็นงานที่ท้าทาย ดังนั้นคนที่รักความท้าทายและมีแรงขับดันเรื่อง “ความอยากรวย” จึงมีทัศนคติที่ดีและอาชีพนี้เปิดรับบุคคลแบบนั้นไม่ว่าเขาจะเป็นใคร มาจากไหน เรียนมาด้านไหน ขอแค่อยากรวยและอยากท้าทายตนเองก็เป็นนักขายที่ดีได้แล้วครับ ไม่มีใครมันเก่งมาตั้งแต่เกิดโว้ย ลบออกจากสมองไปซะเรื่องนักขายต้อง Born to Be อ่ะ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts