ปิดการขาย พัง เพราะคำพูดเดียว
เชื่อหรือไม่ครับว่าเหตุผลอันดับหนึ่งที่ทำให้คุณขายของไม่ได้ก็คือ “คำพูด” ของคุณอย่างเดียวครับ คนพูดดี ต่อให้ของห่วยก็ยังขายได้ แต่คนพูดไม่เข้าหูเมื่อไหร่ ต่อให้ของดีแค่ไหนก็ขายของไม่ได้ครับ
และนี่คือคำพูดที่คุณไม่ควรพูดเด็ดขาดเลยนะครับ
1. นี่คือนโยบายของบริษัท…
อย่างนี้ก็เหมือนถีบลูกค้าไปอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย ฟังดูก็เหมือนไม่มีอะไรผิด แต่คุณต้องระวังมากๆ นะครับ เพราะว่ามันเหมือนเป็นคำปฎิเสธง่ายๆ ที่ทำให้ลูกค้าเรียกร้องอะไรไม่ได้อีก ลองเก็บทรงและปรับคำพูดว่าเดี๋ยวผมจะช่วยอย่างเต็มที่แล้วบอกคำตอบทีหลังว่าทำให้ไม่ได้ยังดูดีกว่าครับ
2. ไม่
คำว่าไม่นั้นสามารถพูดได้ในสถานการณ์เดียวก็คือ ทำให้ไม่ได้ คุณสมบัติทำไม่ได้ หรือข้อเสนอใดๆ ที่ไม่สามารถทำได้ นอกนั้นคือไม่ควรพูดคำว่าไม่หรือปฎิเสธลูกค้า โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในฐานะเซลล์หรือในฐานะนักธุรกิจ เพราะนี่คือคำพูดที่ถีบลูกค้าออกไปไกลๆ ครับ
3. ทำให้ไม่ได้
ก็ต้องระวังเพราะคำพูดนี้มันเป็นการปฎิเสธและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาได้เลย มีวิธีเลี่ยงคำนี้โดยเฉพาะตอนที่โดนต่อราคาก็คือ “ผมจะพยายามคุยกับหัวหน้าให้ได้ครับ” แล้วค่อยมาบอกทีหลังว่าสามารถทำได้ อย่างนี้จะดูดีกว่ามาก
4. ไม่รู้
ก็คือคำโง่ๆ ที่คนบางคนชอบพูด (ฮา) คำนี้มันดูโง่มากครับเพราะลูกค้าคาดหวังว่าคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าคุณเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่รู้จริงๆ คุณลองเปลี่ยนเป็นคำว่า “ตรงนี้ผมไม่ทราบและเกรงว่าจะผิด แต่เดี๋ยวผมจะหาคำตอบมาให้ได้ครับ” ก็จะดูดีขึ้นมา การไม่รู้ต้องระวังมากๆ ในการขายสินค้าที่เทคนิคสูงๆ หรือเจอลูกค้าแนวๆ ลองภูมิแล้วคุณดันรู้น้อยกว่าพวกเขา
5. ไม่ใช่หน้าที่ผม หรือ ผมไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้
อันนี้เจอกันบ่อยสำหรับการบริการหลังการขาย เช่น เซลล์ขายรถห่วยๆ ที่ลูกค้าบอกว่ารถเสียแล้ว “โยน” ให้กับฝ่ายหลังขายว่ามันเป็นหน้าที่ของฝ่ายนั้นครับ ไม่ใช่ผม ซึ่งมันแย่ตรงที่คุณเป็นตัวแทนของบริษัทแต่ดันโยนหน้าที่ให้คนอื่น แทนที่จะรับเคสแล้วรีบแก้ไข คำคำนี้ห่วยมากๆ เห็นด้วยกับผมมั้ยครับ
Comments
0 comments