ไม่กล้าโทรหาลูกค้าใหม่ ควรทำอย่างไรดี

เชื่อไหมครับว่าขนาดนักขายประสบการณ์สูงเป็นสิบๆ ปีอย่างผมเอง และเรียกตัวเองได้ว่าเป็น “เซียนโคลด์คอลล์” คนหนึ่งในประเทศนี้ แถมเป็นคนแรกๆ ที่กล้าโทรมือถือโดยได้เบอร์จากลิ้งก์อิน (LinkedIn) หาระดับ C-Level ผมเองก่อนหน้านี้เกิดอาการ “ปอดแหก” ไม่กล้าโทรหาลูกค้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คุณเองก็เคยเจอช่วงเวลาไม่กล้าโทรหาลูกค้าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมมีทางออกแบบง่ายๆ จากเซียนโคลด์คอลล์ ดังนี้ครับ

1. เปลี่ยนสถานที่โทรทำนัด

บางทีการจมอยู่กับบรรยากาศเดิมๆ อาจทำให้คุณไม่มีอารมณ์โทรก็เป็นได้ โดยเฉพาะภายในสำนักงานที่วุ่นวาย เสียงดัง ทำให้คุณใช้เสียงและแสดงภาษากายได้ไม่เต็มที่ วิธีแก้คือเปลี่ยนสถานที่โทรหาที่เงียบสงบ แนะนำว่าเป็นร้านกาแฟที่มีที่นั่งด้านนอก ปลอดคน ตรงนั้นจะทำให้คุณใช้เสียงได้เต็มที่ แนะนำอีกนิดว่าขอให้มีเน็ตด้วยนะครับ จะได้ส่งเมลนัดได้ทันที หรือถ้าออกนอกออฟฟิศไม่ได้ก็ลองหาห้องประชุมว่างๆ เวลาปลอดคน แล้วเข้าไปนั่งโทรเลย รับรองเวิร์คครับ

2. ลองเปลี่ยนเวลาโทรหาเป็นช่วงที่ลูกค้ามักอู้งาน

บางทีอาจเป็นเพราะคุณโดนปฎิเสธบ่อยๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าลูกค้าไม่ว่าง ลองเปลี่ยนเวลาโทรเป็นช่วงที่ลูกค้ามักอู้งาน เวลาดีๆ เลยคือตอนเข้างานแต่ยังไม่ถึงสิบโมง หรือช่วงหลังพักเที่ยงไม่นาน อีกช่วงเวลานึงคือตอนใกล้เลิกงาน สามช่วงเวลานี้ลูกค้ามักว่างและติดประชุมครับ ส่วนเวลาที่ไม่ควรโทรก็คือ 10 โมงและบ่าย 2 ซึ่งลูกค้ามักติดประชุมครับ

3. เปลี่ยนไมนด์เซ็ตด้วยการดูคลิปจาก The Wolf of Wall Street

เป็นภาพยนตร์ชื่อดังกับฉากขายปากกาอันลือลั่น มีสองสามคลิปที่พูดถึงตอนที่พระเอกกระตุ้นทีมขายด้วยคำว่าถ้าคุณเป็นหนี้บัตรเครดิต ดี จงกดปุ่มโทรซะ ถ้าคุณโดนแฟนดูถูกว่าเป็นพวกกระจอก ดี จงกดปุ่มโทรซะ ซึ่งคำพูดในหนังมันโดนมากๆ จนทำให้คุณกล้าพอที่จะเอาชนะใจตัวเองและเปิดโอกาสไปสู่การแก้ปัญหาด้วยการเป็นคนรวย ขอบอกว่าอารมณ์มาเต็ม ผมเปิดทุกครั้งเวลาปอดแหกและก็ฮึกเหิมทุกที

ติดตามคลิปกระตุ้นการขายและกดปุ่มโทรศัพท์ที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=QiNzUF3FZlY&t=65s

เทคนิค Cold-Call ที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=eTva4y-Unx0

4. ปรับสคริปการโทรใหม่

ยุคนี้พูดยืดเยื้อมันเสียเวลาลูกค้า เอาตรงๆ เลยคือมันต้องเร็วและเข้าเรื่องเลยว่าคุณโทรมาแล้วมีประโยชน์อะไร “ที่โดนที่สุด” คือลูกค้าฟังแล้วว้าว ผมแนะนำสคริปต์ขั้นเทพแบบนี้นะครับ

  • แนะนำตัว: เอาแค่ชื่อ ตำแหน่ง บริษัท และบริษัทคุณทำอะไรเจ๋งๆ แค่นี้พอ
  • ประโยชน์ที่ลูกค้าได้: เอาแบบสินค้าหรือบริการที่เทพที่สุดของคุณนำ และบอกเขาว่าคุณจะทำประโยชน์อะไรให้เขาได้มากที่สุดจากสิ่งที่คุณขาย
  • Call-to-Action: อาจเป็นการถามว่าลูกค้าดูเรื่องนี้หรือสนใจหรือไม่ จากนั้นขอทำนัดเลย

ตัวอย่าง:

คุณ Manop สวัสดีครับ

ผมแพน เป็น CEO ของทางบริษัท Silverlake Consulting ซึ่งบริษัทผมเก่งเรื่อง Digital Marketing มากๆ และตอนนี้ทำโซลูชั่น Digital Marketing CRM กับ Omni Channel ครับ

จึงคิดว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจของทาง Carabao Group ในการรับลีดทุกช่องทางและ convert ให้เป็นลูกค้ากับเก็บข้อมูลด้วยระบบ CRM นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่น Influencer Marketing ด้วยครับ พอร์ทเยอะมาก ยอดขายเพิ่มขึ้นแน่นอน

ในส่วนของประโยชน์เรื่องนี้ ผมขอเข้าไปนำเสนอทางทีมฯ ได้มั้ยครับ ใช้เวลาไม่นาน

5. อย่าลืมติดตามผล

การ Cold-Call มันต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจ ดังนั้นโดนปฎิเสธในตอนแรกก็ไม่เป็นไร วางแผนโทรใหม่โดยทิ้งเวลาซัก 2-3 วัน ไม่น่าเกลียดแถมยังเป็นมืออาชีพ รับรองว่าครั้งต่อไปลูกค้าคุยต่อหรือรับนัดแน่นอนครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts