สหรัฐขึ้นภาษีไทยเยอะมาก นักขาย B2B ตาดำๆ ชาวไทย ได้รับผลกระทบอย่างไร

เมื่อสหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยในอัตราที่สูงมาก นักขาย B2B (Business-to-Business) ในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในหลายด้านดังนี้:

1. ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น:

  • ภาษีที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นโดยตรง
  • นักขาย B2B ที่ขายสินค้าให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง

2. ความสามารถในการแข่งขันลดลง:

  • เมื่อราคาสินค้าไทยสูงขึ้น ลูกค้า B2B ในสหรัฐฯ อาจหันไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งในประเทศอื่น ๆ ที่มีต้นทุนต่ำกว่า หรือจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ เอง
  • นักขาย B2B ไทยอาจต้องลดราคาสินค้าของตนเองเพื่อรักษาลูกค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไร

3. ปริมาณการสั่งซื้อลดลง:

  • ลูกค้า B2B ในสหรัฐฯ อาจลดปริมาณการสั่งซื้อสินค้าจากไทยเนื่องจากราคาสูงขึ้น หรืออาจชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์
  • นักขาย B2B ไทยอาจประสบปัญหาในการรักษาระดับยอดขายเดิม

4. ความสัมพันธ์กับลูกค้าเสี่ยง:

  • การขึ้นราคาอาจสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า B2B ในสหรัฐฯ ที่เคยซื้อสินค้าจากไทยเป็นประจำ
  • นักขาย B2B ไทยอาจต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและเจรจาเงื่อนไขใหม่

5. ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน:

  • ธุรกิจ B2B ที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่
  • ผู้ผลิตวัตถุดิบ ชิ้นส่วน หรือสินค้าขั้นกลางในไทยที่ส่งออกไปยังผู้ผลิตในสหรัฐฯ อาจมียอดขายลดลง

6. ความไม่แน่นอนทางธุรกิจ:

  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอย่างกะทันหันสร้างความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจและการวางแผนระยะยาวสำหรับนักขาย B2B

7. โอกาสทางธุรกิจใหม่:

  • ในอีกด้านหนึ่ง นักขาย B2B อาจต้องมองหาตลาดใหม่ ๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา เช่น ตลาดในเอเชีย หรือภายในประเทศ
  • อาจเกิดโอกาสในการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หรือสินค้าเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีมากนัก

สินค้าไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาก (อ้างอิงจากข่าว):

  • โทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบ
  • ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ยางรถยนต์
  • เซมิคอนดักเตอร์
  • หม้อแปลงไฟฟ้า
  • ชิ้นส่วนอุปกรณ์การพิมพ์
  • ชิ้นส่วนรถยนต์
  • อัญมณีและเครื่องประดับ
  • เครื่องปรับอากาศ
  • กล้องถ่ายรูป
  • เครื่องพรินเตอร์
  • วัตถุดิบอาหารสัตว์
  • แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
  • ข้าว
  • ตู้เย็น

มาตรการรับมือที่นักขาย B2B อาจพิจารณา:

  • เจรจากับลูกค้า: เพื่อแบ่งเบาภาระภาษี หรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขทางการค้า
  • หาแหล่งวัตถุดิบใหม่: เพื่อลดต้นทุนการผลิต
  • พัฒนาสินค้าใหม่: ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง หรือมีความต้องการเฉพาะในตลาดอื่น ๆ
  • ขยายตลาด: ไปยังประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพ: ในกระบวนการผลิตและโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนโดยรวม
  • ติดตามสถานการณ์: และปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

โดยสรุป การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับนักขาย B2B ไทยที่ทำธุรกิจกับสหรัฐอเมริกา พวกเขาจำเป็นต้องปรับตัวและหาแนวทางในการลดผลกระทบและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อความอยู่รอดและความเติบโตของธุรกิจ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts