สไตล์ของ ‘ความเป็นผู้นำ’ ของคุณเป็นแบบไหน
พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจอีกครั้งเกี่ยวกับ ‘ความเป็นผู้นำ’ (Leadership) ที่ผมมักจะเน้นย้ำเสมอในช่วงเวลานี้ เพราะนี่คือทักษะการทำงานที่คุณต้องมีไม่ว่าคุณจะเป็นแค่เด็กจบใหม่หรือเป็นเจ้าของบริษัทผู้มากประสบการณ์ ทักษะความเป็นผู้นำจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเหลาให้ “แหลมคม” อยู่เสมอ
หัวข้อในวันนี้จะเป็นเรื่องราวที่ผมอยากให้พวกคุณกลับไปถามตัวเองว่าคุณเป็นผู้นำแบบไหน เพื่อให้เข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของความเป็นผู้นำในแต่ละแบบ ผมจะขอเน้นย้ำว่าคุณจะได้เข้าใจ “ด้านมืด” (Dark Side) ของตัวเองหรือเข้าใจหัวหน้าคนปัจจุบันของคุณว่าทำไมพวกเขาถึงมีนิสัยหรือทำอะไรแบบนี้กับคุณ
นี่คือแหล่งความรู้ระดับโลกที่ผมได้จากรั้วศศินทร์โดยศาสตราจารย์ที่ปรึกษาองค์กรระดับโลก เรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจตัวตนของผมเองและพัฒนาขึ้นเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมขึ้นอีกระดับเลยล่ะครับ มาอ่านตามกันเลยครับ
1. Fight: ผู้นำสายไฝว้ เกิดมาเป็นลูกพี่ใหญ่ เรียกข้าว่า “Boss”
ผู้นำสายนี้ ถ้านึกภาพไม่ออกให้ออกจงลองนึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลกอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) อดีตตำนานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่มีบุคลิกสไตล์ลูกพี่อย่างแท้จริง มีความเป็นผู้นำสูง กระตุ้นทีมได้ดี เร่าร้อน พร้อมที่จะไฝว้เพื่อลูกน้องยามที่มีคนอื่นมาวิจารณ์ทีมของตัวเอง มีลักษณะความเป็นลูกพี่สูงมาก แต่ท่านเซอร์ฯ เองก็มีชื่อเสียงเรื่องการเป็น “ไดร์เป่าผม” ที่พร้อมจะด่าลูกทีมอย่างรุนแรงยามที่นักเตะของตนเองเล่นไม่ดี พอโดนว้ากใส่ปุ๊บ ครึ่งหลังเล่นดีอย่างกับคนละทีมเพราะฝีปากของแกเลยล่ะครับ (ฮา)
ข้อดีของผู้นำสไตล์นี้
– โฟกัสที่เนื้องาน การทำงานสูง
– เป็นคนเลือดร้อน มีพลังงานสูง
– มีแพชชั่นในงานที่ทำ ชอบที่จะกระตุ้นทีมและผลักดันทีมให้ทำงานจนสำเร็จ
– ได้รับการนับถือและยกย่องจากลูกน้อง
– ชอบที่จะเป็นผู้นำและยืนด้านหน้าลูกน้องเสมอ เวลาเจอปัญหาอะไรจะพร้อมไฝว้เพื่อปกป้องทีม เวลาลูกน้องทำงานผิดพลาดก็จะออกตัวรับแทนลูกทีมแบบลูกพี่
ด้านมืดของผู้นำสาย Fight
– เวลามีปัญหาหรือไม่ได้ดั่งใจความก้าวร้าวและจุดเดือดต่ำจะเป็นชนวนขับเคลื่อนให้พวกเขา “ระเบิด” ใส่ลูกน้อง
– มีปัญหากับการควบคุมอารมณ์โดยเฉพาะความโกรธ
– พร้อมด่าลูกน้องและอาจใช้คำพูดหยาบคาย รุนแรง ขึ้นกูขึ้นมึง
– วิจารณ์ลูกน้องโดยลืมนึกถึงจิตใจว่าพวกเขาจะอ่อนไหวแค่ไหน
– สร้าง “ความกลัว” ความเกลียดชัง ปลูกฝังวัฒนธรรมการ “โทษคนอื่น” ในตัวลูกน้อง เพราะลูกน้องกลัวความผิดเกินเหตุเนื่องจากกลัวคุณด่าอย่างรุนแรง
2. Flight: ผู้นำสายมิตรภาพ
ผู้นำสไตล์นี้จะมีความ “เป็นกันเอง” กับลูกน้องมากๆ ชอบที่จะใช้เวลากับลูกน้องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของลูกน้องและคิดเสมอก่อนพูดว่าลูกน้องจะรู้สึกอย่างไร เหมือนจะดูดีใช่ไหมครับกับผู้นำสไตล์นี้
ข้อดีของผู้นำสไตล์นี้
– โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ทำงานกันแบบพี่ๆ น้องๆ
-เป็นคนอบอุ่น เข้าถึงง่าย กว้างขวาง
– โฟกัสไปที่การพบปะทั้งในทีมงานของตัวเอง เช่น การประชุมทีมขาย และการพบปะระหว่างทีมอื่นเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันให้ดีขึ้น
– เป็นคนชอบริเริ่มการกระทำที่ทำให้ทีมเกิดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ
– ชอบปาร์ตี้หรือทานข้าวกับลูกน้องร่วมกัน แม้แต่วันหยุดก็จะนัดลูกน้องไปทำกิจกรรมต่างๆ
ด้านมืดของผู้นำสาย Flight
– จริงๆ แล้วพวกเขากลัวลูกน้องไม่นับถือหรือเกลียดขี้หน้า จึงพยายามรักษาความสัมพันธ์ให้ดีเอาไว้
– ขาดความมั่นใจอย่างรุนแรงเวลารู้สึกว่าลูกน้องไม่เคารพ เช่น โดนเอาไปนินทา พูดลับหลัง
– เมื่อรู้ว่าใครไม่ชอบก็จะพยายาม “สร้างการเมือง” ด้วยการรวมคนที่เชื่อถือได้และลดความสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้า เช่น ป้อนงานให้ลูกรักมากกว่าลูกชัง เป็นต้น นี่คือที่มาของคำว่าบางคนเลียนายจนได้ดี จริงๆ แล้วมาจากการเชื่อมั่นและเชื่อใจผู้นำสไตล์นี้ แต่ลูกชังที่เลียไม่เป็นมักจะเป็นพวกไม่จริงใจ ชอบลับหลังกับเจ้านายสไตล์นี้
– สร้างระบบลูกรักและเลิกสนใจลูกชัง ควบคุมความสัมพันธ์ (Manipulative) จนบ่อยครั้งลูกชังอยู่ไม่ได้จนต้องลาออกไปเอง เชือดนิ่ม
– เวลามีความขัดแย้งมักจะไม่เคลียร์ตรงๆ เล่นการเมืองให้เจ็บทีหลังสะใจกว่า (โหดสัสเลยล่ะครับ)
3. Freeze: ผู้นำสายนิ่ง
ผู้นำสไตล์นี้ถ้านึกอะไรไม่ออกให้ลองนึกถึงตัวละครสายลับชื่อก้องโลกอย่างเจมส์ บอนด์ 007 ดูนะครับ ซึ่งเขามีความสุขุม นิ่ง ระเบิดจะลงกี่ลูกก็ไม่ร้องโวยวาย เวลาสถานการณ์ไม่เป็นใจก็จะคิดวิธีแก้ไขปัญหาอยู่เสมอและเอาตัวรอดได้ด้วยตนเอง พูดๆ ไปแล้วสายนี้ดูเท่ห์จริงๆ เลย (ฮา)
ข้อดีของผู้นำสไตล์นี้
– ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ไม่วู่วาม
– เป็นคนนิ่งๆ คูลๆ ติสท์ๆ แลดูน่าค้นหา
– เป็นคนที่ชอบแก้ปัญหาด้วยตนเอง
– มีความมั่นคงและเป็นเหตุเป็นผล เวลาเมนส์มาก็ยังนิ่งไม่แปรปรวน (ฮา) เจอเหตุการณ์แย่ๆ ก็ยังนิ่งและแก้ไขได้ดี
ด้านมืดของผู้นำสาย Freeze
– เป็นคนเย็นชาจนแลดูไร้อารมณ์
– ลูกน้องรู้สึกว่าห่างและไม่กล้าที่จะเข้าหา
– เวลามีปัญหามักแก้ไขคนเดียว เมื่อแก้ไขไม่ได้ก็จะเสียความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างมาก
– ขาดคอนเนคชั่นที่ดีที่จะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นเพราะห่างกับคนอื่นมากเกินไป
– แสดงอารมณ์ไม่เก่งในยามที่ต้องใช้อารมณ์กระตุ้นทีมงาน เช่น กระตุ้นทีมขาย พูดปลุกใจ ฯลฯ
จากเรื่องนี้จะทำให้คุณเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของผู้นำในแต่ละสไตล์นะครับ เรื่องนิสัยหรือสันดานมันแก้กันยาก แต่การรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของผู้นำแต่ละแบบจะทำให้คุณเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้ครับ
Comments
0 comments