Social Proof ปิดการขาย ถ้าใครไม่รู้ต้องลองเดี๋ยวนี้

Social Proof สำหรับใครที่ไม่รู้จัก มันคือหนึ่งในเทคนิคขั้นเทพในการสร้างความน่าเชื่อถือ ไปตลอดจนปิดการขายได้แบบ “ไม่ต้องขาย” เลยด้วยซ้ำครับ

แปลง่ายๆ ก็คือการมีหลักฐานทางสังคม (ธุรกิจที่คุณทำ) หรือหลักฐานกับลูกค้าว่าสิ่งที่คุณขายนั้นเจ๋งจริง บอกได้เลยว่ายิ่งมีเยอะก็ยิ่งขายง่ายครับ และนี่คือสิ่งที่คุณต้องลองใช้วิธีนี้ปิดการขาย ดังนี้เลย

1. ทำ Testimonial

เป็นวิธีที่ทำครั้งเดียวแต่ยิงนกได้หลายตัว วิธีคือนำลูกค้าที่ชอบคุณมากๆ เป็นลูกค้ารายใหญ่หรือมีชื่อเสียงยิ่งดี เอามาทำบทสัมภาษณ์วีดีโอหรือมีรูปภาพประกอบบทสัมภาษณ์ว่าใช้คุณแล้วดียังไง ทำดีเดียวสามารถไปเปิดซ้ำได้หลายที่ เช่น สไลด์ เว็บไซต์ ยูทูป เฟซบุ้คบริษัท ฯลฯ

2. ทำ Case Study

เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ขายสินค้าแนวๆ โซลูชั่นหรืองานโครงการใหญ่ๆ แพงๆ จงขอความร่วมมือลูกค้าในการทำ Case Study ซึ่งคล้ายๆ กรณีศึกษาว่าก่อนใช้คุณมีปัญหาอะไร และคุณใช้วิธีการอะไรแก้ปัญหา จากนั้นก็สรุปผลลัพธ์ที่ได้ที่มักจะดีงามอยู่แล้ว ดีมากเวลาไปขายลูกค้าที่คล้ายกับเคสที่ทำ

3. เปิดโอกาสให้มีการรีวิว

โดยเฉพาะบนโซเชี่ยลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เฟซบุ้ค ช็อปปี้ ลาซาด้า กูเกิ้ล ฯลฯ ที่จะมีหมวดรีวิว จงอย่ากลัวที่จะมีคนด่า (ฮา) และจงกล้าที่จะรับการรีวิวระดับ 5 ดาว ถ้าคิดว่าแน่จริง ถ้าธุรกิจคุณดาวเยอะก็นั่งกระดิกเท้ารอลูกค้าใหม่ได้เลย

4. ใช้ Influencer

คือหาพรีเซนเตอร์มาช่วยพูดแทนคุณนี่แหละครับ ระดับโลกเขาก็ทำกัน ยิ่งเป็นคนดัง ตรงกลุ่มเป้าหมายก็ยิ่งส่งเสียงได้ไกลกว่าคุณมากๆ เพียงแต่อินฟลูฯ ต้องลงทุนซึ่งมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความดัง ธุรกิจระดับโลกจึงไม่เคยขาดพรีเซนเตอร์หรืออินฟลูฯ ในการทำการตลาด ไม่งั้นอาจจะถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดได้

5. มีใบ Cert การันตี

ใบเซอร์ฯ (Certificated) เอาไว้สร้างความน่าเชื่อถือว่าคุณเก่งจริง เช่น โรงงานคุณมี ISO 27001 มี GMT มีรางวัลการันตีระดับโลก มีโล่ห์เชิดชูเกียรติ ฯลฯ หรือแม้แต่ตัวคุณเองที่อาจจะไปจบสูงๆ มา สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยทำให้ธุรกิจคุณดูดีขึ้นไปอีก

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts