ขายตัวเองก่อนขายสินค้า
คุณคงเคยได้ยินเรื่องนี้กันอยู่บ่อยๆ ยังไงก็อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ เพราะว่าผมเองก็ยังเห็นว่าหลายๆ คนยังไม่เข้าใจคำว่าขายตัวเองกันอย่างลึกซึ้ง หลายๆ คนเข้าใจผิดว่าการขายตัวเองคือการที่ต้องพูดเก่ง มีอารมณ์ขัน สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างอะไรอย่างนั้นเพียงแค่นั้น
ขืนการขายตัวเองเป็นอะไรแบบที่ “มนุษย์ที่เปี่ยมไปด้วยมุกตลก” สามารถทำได้และทำให้หลายๆ คนชื่นชอบ เป็นแบบนี้คนที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด นิ่งๆ สุขุม ก็ขายตัวเองไม่ได้งั้นสิครับ จริงอยู่ที่ในตำราจีบสาวมักบอกว่าผู้หญิงชอบคนตลก แต่ก็แปลกดีที่คนไม่ตลกก็สามารถจีบสาวได้ตามปกติครับ
ดังนั้นมาดูวิธีการขายตัวเองเพื่อให้ลูกค้าเปิดใจและซื้อคุณตั้งแต่แรกพบหรือไว้วางใจที่จะบอกโจทย์กับความต้องการเพื่อให้คุณได้ไปต่อกันเลยครับ
1. แต่งตัวดี ทรงผมดี เนื้อตัวหอม มีชัยไปกว่าครึ่ง
เบสิคสุดๆ สำหรับเรื่องนี้ เพราะคุณสามารถทำได้ตั้งแต่ออกจากบ้านเลยล่ะครับ การแต่งกายคงไม่ต้องสอนนะครับว่าควรแต่งแบบไหน ถ้าเป็นนักขายที่มียูนิฟอร์มบริษัทก็ควรแต่งตัวให้เรียบร้อย รองเท้าต้องสะอาด เล็บมือห้ามดำเด็ดขาด และที่สำคัญคือเหล่าคนสูบบุหรี่ควรล้างมือให้สะอาดกับใช้ลูกอมดับกลิ่นปากเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะเจ้ากลิ่นบุหรี่นี่แหละที่ทำลายการขายตัวเองไปตั้งแต่แรกเลยก็ว่าได้
2. มาก่อนเวลาเสมอ
เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตลอดมานั่นก็คือการมาก่อนเวลาซัก 15 นาที ไม่ใช่แค่ลูกค้าเท่านั้นนะครับ แม้แต่เพื่อน แฟน คนรอบข้าง ฯลฯ ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละครับ เพราะว่ายุคนี้คนตรงต่อเวลาแบบคนญี่ปุ่น เยอรมันนั้นมันหายาก คุณจึงต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องนี้ยังไงล่ะครับ เชื่อเถอะว่าแค่นี้ก็เหนือกว่านักขายคนอื่นมากๆ เลย
3. ตอนมอบนามบัตรควรมอบแบบสองมือสไตล์คนญี่ปุ่น
สำหรับการขายแบบองค์กร (B2B) เมื่อเจอหน้าลูกค้าเป็นครั้งแรก ควรเตรียมนามบัตรและอย่าลืมหรือหมดเป็นอันขาด เพราะนี่คือมารยาททางธุรกิจที่ลูกค้ามองคุณตั้งแต่หัวจรดเท้า วิธีการมอบนามบัตรเองก็เช่นกัน ถ้าคุณทำงานบริษัทญี่ปุ่นก็จะรู้ว่าคนญี่ปุ่นมอบนามบัตรแบบสองมือจับ หันชื่อคุณเข้าหาลูกค้าและอ่านชื่อคุณให้เขาฟังพร้อมกับตำแหน่ง (อย่าลืมแนะนำทีมงานด้วย) และเมื่อรับนามบัตรลูกค้ามาแล้วก็จงอ่านชื่อจริงของเขาหรือขอถามชื่อเล่นแล้วเขียนลงนามบัตร พร้อมกับวางนามบัตรตามลำดับบนโต๊ะประชุม
4. ก่อนหลับหูหลับตานำเสนอ จงบอกพวกเขาให้ชัดว่าคุณมีประโยชน์อะไรแก่พวกเขาบ้าง
นักขายส่วนใหญ่มักจะตายในเรื่องนี้ นั่นก็คือคิดว่ารีบนำเสนอเลยจะดีกว่าเพื่อรีบปิดการขายให้เร็วที่สุด ทางที่ดีคือคุณควรแนะนำตัวและออกตัวก่อนว่าคุณมีประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างไรในแง่ของบุคคล เช่น คุณออกตัวว่าคุณจะนำเสนอสิ่งที่ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุดและใช้เวลาไม่นาน หรือคุณยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าเพื่อประหยัดเวลาในการนำเสนอ จากนั้นก็เริ่มเป็นฝ่ายถามคำถามเพื่อเก็บข้อมูล จากนั้นเวลานำเสนอก็ถามลูกค้าไปด้วยเพื่อทบทวนความเข้าใจหรือตอบคำถามต่างๆ ครับ
5. นำเสนอผลลัพธ์หรือผลงานที่น่าเชื่อถือ
เป็นสิ่งสำคัญหลังจากนำเสนอสินค้าหรือบริการไปแล้วก็คือผลงานประกอบนี่เองครับ ยิ่งคุณจัดเตรียมผลงานที่ลูกค้าดูแล้วเข้าใจง่ายภายในภาพเดียวก็จะเยี่ยมมากๆ เช่น คุณเป็นเซลล์ขายรถและมีรูปรวบรวมการขายรถให้กับลูกค้าเพื่อโชว์ว่าคุณมีลูกค้าดูแลเยอะและน่าเชื่อถือ จึงทำให้ขายดี หรือลูกค้าองค์กรที่ต้องการผลลัพธ์เชิงตัวเลขว่าสามารถสร้างประสิทธิภาพเชิงธุรกิจให้พวกเขาได้อย่างไรพร้อมกับรูปภาพประกอบจากสถานที่จริงหรือมีข้อมูลจริงที่คนดูมั่นใจว่าคุณไม่ได้โมเมแน่ๆ รับรองว่าหล่อโคตรๆ
6. ส่งข้อมูลหรืองานภายใน 1 วันไม่ก็เร็วที่สุด
สปีดคือวิธีสร้างความแตกต่างและขายตัวเองว่าคุณเป็นนักขายที่ตอบสนองเร็ว อย่างนี้ลูกค้าก็ยิ่งไว้วางใจว่าเวลามีปัญหา คุณก็จะตอบสนองไวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องขอหรือข้อมูลที่ต้องส่งอะไรก็ตามแต่ ควรส่งให้เสร็จภายใน 1 วันจะดีมากที่สุด หรือภายในเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้ถ้าคุณไม่ติดอะไรครับ อย่าลืมตรวจทานความละเอียดก่อนส่งข้อมูลทุกครั้งนะครับ
7. เวลามีปัญหาก็อยู่แก้ปัญหาจนถึงที่สุด ไม่หายหัว
เป็นความรับผิดชอบที่คุณไม่ต้องกลัวนะครับว่าตอนมีปัญหา ลูกค้าจะเกลียดคุณหรือไม่ซื้อคุณ คุณต้องรู้ก่อนว่าไม่มีอะไรในโลกที่ไม่เคยมีปัญหา แบรนด์ระดับโลกเจอมาหมดแล้ว แต่ที่ยังรักษาลูกค้าให้จงรักภักดีมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว บอกช่วงเวลาได้ว่าจะแก้จบเมื่อไหร่ สาเหตุมาจากอะไร พร้อมกับวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก รับรองว่าคุณขายตัวเองได้อีกนานเท่านานเลยครับ
Comments
0 comments