ขายตัวเองก่อนดีไหม
ว่ากันว่าใครๆ ก็สามารถขายของได้ครับ ถ้าคุณแนะนำสินค้าดี พรีเซนต์พอใช้ได้ พูดจาภาษาคนรู้เรื่อง ซึ่งก็นะ ถ้ามันจริงอย่างที่ใครเขาว่า ป่านนี้ทุกคนรวยกันหมดแล้วครับ ซึ่งก็ขอบอกเลยว่าสินค้าจะเทพแค่ไหน แต่ถ้าลูกค้ายังไม่มั่นใจ ไม่เชื่อใจหรือไว้วางใจ คุณมีโอกาสปิดการขายได้น้อยมากๆ เลยครับ
ในทางกลับกัน คุณมักจะเห็นเสมอว่าทำไมคนอื่นก็ไม่ได้มีลีลาอะไรมาก พูดก็น้อย ท่าทางดูนิ่งๆ มีรอยยิ้มพอสมควร แต่เขากลับขายสินค้าโดยเฉพาะของมูลค่าสูงได้เป็นอย่างดี ลูกค้ายินดีที่จะมอบเงินซื้อให้พวกเขาได้แบบง่ายดาย ซึ่งเรื่องนี้แหละที่มีเคล็ดลับก่อนขายของก็คือ “ขายตัวเอง” ให้ลูกค้าไว้ใจก่อนนั่นเอง
จึงขอมอบเทคนิคการขายตัวเองขั้นเทพที่คุณสามารถลงมือทำได้ทันที รับรองว่าลูกค้าจดจำกับไว้ใจคุณได้มากขึ้นแน่นอนครับ
1. นึกถึง 3 สิ่ง ที่แสดงความเป็นคุณที่เจ๋งที่สุดก่อนเสมอ
เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและบ่งบอกความเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดี เพียงแต่มันต้องเป็นอะไรที่ดูดี เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และไม่เวอร์จนเกินไป ลองเอาคีย์เวิร์ดเจ๋งๆ ของผมไปพิจารณาก่อน ดังนี้ครับ
– เชี่ยวชาญด้านการขาย การตลาด ธุรกิจ
– ทำงานด้านการเป็นที่ปรึกษาแบบมืออาชีพ
– เป็นคนที่ทำงานได้ไวและมีความละเอียด
– เป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของสินค้าแบบมือโปร
– มีงานอดิเรกเกี่ยวกับสัตว์ กีฬา หรือเป็น Content Creator
– ฯลฯ (หลีกเลี่ยงอะไรที่มันวัดผลไม่ได้ เช่น เป็นคนจริงใจ เป็นคนหล่อ เป็นคนสวย ฯลฯ)
2. สร้างข้อความการขายตัวเองแบบเดียวกับ Trailer หนัง
ย้อนกลับไปก่อนช่วงโควิด เรามักจะไปโรงหนังและติดตาม “ตัวอย่างหนัง” (Trailer) ซึ่งแค่ดูประมาณ 3 นาทีก็มันส์แล้วล่ะครับ เหตุผลคือการทำ Trailer มันต้องคัดแต่ฉากมันส์ๆ ไฮไลท์เร้าใจ เอาแบบเน้นๆ ซัก 3-4 ซีน อะไรประมาณนี้ คุณจึงเอาหลักการนี้มาทำ Trailer ขายตัวเองจากคีย์เวิร์ด ดังนี้
ตัวอย่าง คุณเป็นพนักงานขาย
Trailer ขายตัวเอง: “ขอแนะนำตัว ผมแพนนะครับ จากบริษัท xyz จำกัด ซึ่งตัวผมเองนั้นเป็นนักขายและเป็นที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านประโยชน์ทางธุรกิจของลูกค้าหลายแห่ง นอกจากนี้ยังเป็นนักกอล์ฟตัวยงด้วยครับ”
ตัวอย่างนี้ใช้คีย์เวิร์ด 3 อย่าง คือเป็นนักขายที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ และเป็นนักกอล์ฟตัวยง การบอกว่าเป็นนักกอล์ฟจะทำให้ลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจรู้ตัวตนของคุณเหมือนกัน ซึ่งจะดีมากถ้าคุณทราบมาก่อนว่าลูกค้าก็ตีกอล์ฟ เป็นต้นครับ
Comments
0 comments
