กลยุทธการตั้งราคาที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง
การตั้งราคาถือว่าเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จในการขายได้เลย แถมยังเป็นศาสตร์ที่ล้ำลึกอีกด้วย บางทีการตั้งราคาที่ต่ำเกินไป ทั้งๆ ที่สินค้าดี กลับกลายเป็นทำให้ลูกค้ามองว่าคุณภาพอาจจะต่ำเกินไป หรือขายไปก็ไม่คุ้มค่า และการตั้งราคาที่สูงเกินไปก็อาจทำให้ลูกค้าหายหัว หรือว่าซื้อมาแล้วกลับรู้สึกไม่คุ้มค้า ดังนั้นมาดูกันว่ามีกลยุทธการตั้งราคาอะไรบ้างที่สามารถนำไปปรับใช้กับสิ่งที่คุณขาย ดังนี้
1. Cost-Plus Pricing
เป็นเบสิคการตั้งราคาที่สุดแล้ว วิธีการก็ง่ายๆ คือดีดต้นทุนไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ ค่าแรง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ฯลฯ เป็นสารตั้งต้น จากนั้นก็บวกราคาเพิ่มเป็นผลกำไรที่คุณต้องการ เช่น ทุนทั้งหมด 120 บาท ตั้งราคาขาย 150 บาท อย่างนี้คือมีกำไรขั้นต้น 30 บาท เป็นต้น
2. Value-Based Pricing
วิธีนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าตั้งราคาตามคุณค่าที่คุณประเมินแล้วว่าลูกค้าจะได้รับ คุณค่าที่ว่านั้นไม่ใช่แค่คุณสมบัติหรือคุณภาพสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับ “คุณค่าทางใจ” ซึ่งการตั้งราคาด้วยกลยุทธนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานฝีมือ งาน High-End สินค้าหรูหราแบบใช้อารมณ์ซื้อ เช่น ถ้าคุณเปิดบริษัทรับออกแบบบ้านแล้วมั่นใจว่าฝีมือคุณขั้นเทพ คุณสามารถบวกราคาได้สูงขึ้นไปอีกตามฝีมือ เป็นต้น
3. Competitive Pricing
ถ้าปกติคุณขายสินค้าที่มีคู่แข่งในตลาดอยู่เพียบ ทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป ไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ หรือเน้นคุณค่าได้มากนัก กลยุทธนี้เป็นวิธีที่ดีด้วยการทำราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ถ้าคุณทำราคาต้นทุนได้ต่ำ คุณสามารถใช้วิธีนี้ตัดราคาคู่แข่งด้วยการขายถูกกว่าเพื่อเปลี่ยนใจลูกค้าได้เลย
4. Penetration Pricing
เป็นการตั้งราคาให้ตอนแรกต่ำๆ ไว้เพื่อเจาะตลาดหรือเปิดซิง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ชาวบ้านรู้จักก่อน พอเริ่มติดลมบนแล้วค่อยเอาคืนด้วยการขึ้นราคาทีหลัง เอาส่วนแบ่งตลาดไว้ก่อน เหมาะมากสำหรับการทำธุรกิจเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งด้วยความน่าสะพรึงกลัว ที่เห็นชัดๆ ก็พวก Grab, Shopee, Lazada, etc. ช่วงมาแรกๆ
5. Skimming Pricing
วิธีนี้ตรงข้ามกับ Penetration Pricing แบบสุดขั้ว ซึ่งคุณจะตั้งราคาให้สูงไว้ก่อนเพราะสถานการณ์ยังไม่มีคู่แข่งมากนักและคุณมาเจ้าแรกๆ พอคุณขายจนได้กำไรอิ่มๆ แล้ว คู่แข่งเริ่มเข้ามาจึงค่อยๆ ลดราคาลงเพื่อให้แข่งขันกับตลาดได้ หรือพอลูกค้าเริ่มเฉยๆ ก็ลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายมากขึ้น
Comments
0 comments