วิธีการขายแบบ “ตกยุค” ที่คุณไม่ควรทำเป็นอันขาด
ยุคนี้เป็นยุค Digital Transformation แบบเต็มขั้น ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็มีเครื่องมีคอยช่วยเหลือให้คุณขายได้แบบเสร็จสรรพ ไล่ตั้งแต่โปรแกรม CRM, การใช้โซเชี่ยลมีเดียช่วยขาย การทำวีดีโอคอนเทนต์ต่างๆ ฯลฯ ดังนั้นคงต้องขอย้ำอีกครั้งว่าการขายด้วยวิธีใดๆ ก็ตามแบบ “ตกยุค” จะเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำโดยอันขาด เพราะมันเสียเวลา เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ยังมีคนขายของแบบผิดวิธีกันอยู่เลยครับ มาดูกันว่ามีวิธีขายอะไรกันบ้าง ดังนี้
1. การขายแบบ Cold-Calling
โดยเฉพาะการขาย B2C ที่เน้นโทรหาคนที่ไม่รู้จัก ถ้าคุณไม่ได้เป็นตัวแทนจากต้นสังกัดที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคาร ค่ายมือถือ บริษัทประกัน ฯลฯ คุณแทบจะไม่มีทางขายของใดๆ ผ่านทางโทรศัพท์ได้เลย ยิ่งยุคนี้เป็นยุค Call Center อาละวาดหนัก คนก็ยิ่งระวังตัวกันมาก มันจึงไม่ค่อยเวิร์ค แต่การขาย B2B ก็ยังโอเคอยู่ถ้าคุณดีลกับฝ่ายจัดซื้อเป็นหลัก กระหน่ำโทรไปเรื่อยๆ ยังไงก็ทำนัดและขายได้แน่นอนครับ หรือลองเปลี่ยนมาใช้ Chat-Calling ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียอย่าง LinkedIn จะดีกว่า
2. ขายของด้วยวิธีกดดันและตื๊อ
เมื่อก่อนอาจจะเวิร์คเพราะคนสมัยก่อนขี้เกรงใจ แต่ยุคนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ ถ้าขายคนยุค Gen-Y ลงมา รับรองว่าโดนไล่ตะเพิดแน่นอน ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ไม่ต้องพูดถึง สำหรับการขายแบบ B2B นั้นก็ไม่ต้องพูดถึง เผลอๆ จะโดนเชิญออกจากห้องและลูกค้าไม่รับโทรศัพท์อีกต่อไป
3. ไม่ใช้โซเชี่ยลมีเดียในการช่วยขายของ
สำหรับการขายแบบ B2C ถ้าคุณไม่มีช่องทางโซเชี่ยล หน้าร้านออนไลน์ คอนเทนท์ดีๆ ผ่านทางเฟซบุ้ค ไอจี ยูทูป ติ๊กต่อก ฯลฯ บอกเลยว่าเจ๊งครับ รีวิวไม่มีบนกูเกิ้ลก็เตรียมโบกมือลา ส่วนการขายแบบ B2B เองก็เช่นกัน เชื่อหรือไม่ว่าองค์กรใหม่ๆ ที่ว่องไวต่อโซเชี่ยลมีเดีย มีแนวโน้มจะแย่งลูกค้าบริษัทโบราณที่ขายมานานแต่ไม่สนใจโซเชี่ยลได้เยอะเลย หมดยุคแล้วสำหรับการเปิดธุรกิจเฉยๆ แล้วรอลูกค้าวิ่งเข้าร้านเอง
4. ใช้สไลด์หรือสคริปท์แบบเดียวในการขายลูกค้า
ภาษาอังกฤษเรียกว่า “One Size Fit All” ซึ่งก็คือการขายโดยยึดสไลด์อันเดียว แต่ไปขายกับลูกค้าทุกประเภท พูดง่ายๆ คือไม่มีการปรับสไลด์ให้เป็นไปแบบ “Tailormade” หรือปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าที่มีความต่างกัน หรืออีกมุมนึงก็คือขายอะไรก็ไม่เคยถามลูกค้าและนำเสนอให้ตอบโจทย์หรือเสนอสิ่งที่ลูกค้าสนใจก็พอ ก้มหน้าก้มตานำเสนอตามสไลด์หรือโบรชัวร์ ชาตินี้ดูทรงแล้วปิดการขายยากแน่นอน
5. ไม่สนใจประสบการณ์ของลูกค้า
ง่ายๆ เลยก็คือ “ยึดตัวสินค้าเป็นศูนย์กลาง” คิดว่าสินค้าของกูเจ๋ง ลูกค้าใช้ไม่เป็นก็คือโง่ (ฮา) คิดไปเองว่าทำมาแบบล้ำลึกแล้ว ของเทพ แต่ในมุมของลูกค้าอาจจะรู้สึกใช้งานยาก ไม่คุ้นเคย ผลก็คือพวกเขาไม่ซื้อแล้วคุณก็คิดไปเองว่าลูกค้าไม่เห็นคุณค่า การปรับการใช้งาน สเปค หรือตัวสินค้าให้เข้าหาลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ติดตามกูนี่แหละเซลล์ร้อยล้านได้ที่
Website – sales100million.com
Blockdit – blockdit.com/sales100million
Facebook – facebook.com/sales100million
Instagram – instagram.com/sales100million
YouTube – youtube.com/@sales100million
TikTok – tiktok.com/@sales100million
LinkedIn – linkedin.com/company/sales100million
Comments
0 comments