ลูกเล่นใหม่ๆ เวลาลูกค้าไม่ยอมรับนัดคุณซักที

หนึ่งในอุปสรรคที่นักขายหลายๆ คนมักจะเจอก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ลูกค้าไม่ยอมรับนัด” แม้กระทั่งอุตส่าห์โทรไปก็ไม่รับสายด้วยซ้ำ อย่างนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่าการขายของคุณจะไม่มีทางคืบหน้าเป็นอันขาด โดยเฉพาะการขายไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม การโทรทำนัดเพื่อเข้าไปนำเสนอขายถือว่าเป็นวิธีแรกสุดที่ทำให้เกิด “กระบวนการขาย” ดังนั้นวันนี้มาดูลูกเล่นหรือไอเดียดีๆ ที่จะทำให้ลูกค้าเปิดใจรับนัดและปฎิเสธคุณยากขึ้นจากผมกันเลยครับ

1. ถอยไปตั้งหลักและทิ้งระยะลูกค้าเอาไว้ก่อน

การรุกคืบด้วยการโทรจิกที่ถี่เกินไปจะยิ่งก่อความรำคาญและไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะเต็มใจรับสาย ต่อให้รับก็มีความรู้สึกไม่อยากคุย ถูกคุกคาม วิธีนี้จะช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น ลูกค้าลืมเรื่องของคุณหรือลืมความรู้สึกไม่อยากคุยได้ง่ายขึ้น ลองทิ้งระยะซัก 1-2 วันแล้วโทรใหม่ หรือยังไม่รับอีกก็ทิ้งระยะประมาณ 3-5 วัน ถ้าไม่ว่าไงก็ขยับไปเป็นรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน รายไตรมาส เชื่อเถอะว่าพวกเขารับแน่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งนับจากนี้ คุณเองก็จดบันทึกและวางแผนเอาไว้นะครับ

2. เตรียม “ข่าวดี” เอาไว้เสมอและใช้เป็นสคริปต์ในการโทรนัด

ข่าวดีคือเรื่องดีๆ ที่คุณคิดเอาไว้แล้วว่าลูกค้าน่าจะอยากฟังหรือตรงกับความต้องการของพวกเขา ตัวอย่างข่าวดีที่เอาไปปรับใช้กับสคริปต์ มีดังนี้

– มีสินค้าและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์กับลูกค้าจริง

– มีโปรโมชั่นพิเศษหรือมีเทศกาลในช่วงนี้พอดี

– มีงานกิจกรรมหรืองานอีเวนต์ที่ต้องการเชิญลูกค้าผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานฟรี

– มี Case Study หรือตัวอย่างจริงที่ประสบความสำเร็จและตรงกับลูกค้าให้ดู

– ฯลฯ

โดยการบอกข่าวดีไปก่อนจะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและคุณสามารถขอเสนอนัดเพื่อเข้าไปเจอหน้าได้ง่ายขึ้นด้วยวิธีที่ผมกล่าวไปข้างต้นแน่นอน

3. พยายามติดตามลูกค้าหลายช่องทาง ไม่ใช่แค่โทรศัพท์อย่างเดียว

ยุคนี้เป็นยุคโซเชี่ยลและใช้การแชตในการทำงานเป็นหลัก ยิ่งลูกค้ามีเวลาน้อยก็ยิ่งปิดโอกาสในการรับสายมากยิ่งขึ้น คุณควรใช้เครื่องมือในการคุยกับลูกค้าหลากหลายช่องทางตามความเหมาะสม เช่น

– Line: ใช้ได้ทั้งแบบทางการและกึ่งทางการ ลองเอาเบอร์ลูกค้ามาค้นแล้วแอดไลน์แนะนำตัวดู

– Facebook Messenger: ใช้ได้ทั้งแบบไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ต้องสุภาพหน่อย แนะนำตัวให้น่าเชื่อถือ

– LinkedIn: เป็นแพลทฟอร์มที่ทักไปคุยกับลูกค้าได้แบบไม่ต้องรู้จักกันมาก่อน

– Email: เป็นวิธีสามัญของการขายแบบ B2B ซึ่งมีความสุภาพและแนบไฟล์หรือข้อความได้มาก

4. หาโอกาสในการโทรทำนัดกับคนที่มีตำแหน่งใหญ่กว่า

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ลูกค้าไม่รับนัดคุณก็คือ “พวกเขาไม่มีอำนาจหรือสิ่งที่คุณขายไม่เกี่ยวกับพวกเขา” จึงทำให้พวกเขาไม่รู้จะรับนัดคุณไปทำไม เสียเวลา ลองพยายามหาคนที่มีตำแหน่งใหญ่กว่าและเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณขายจริงๆ เช่น ระดับผู้จัดการขึ้นไป ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งฝ่ายจัดซื้อที่อาจจะตรงกับคุณโดยไม่ต้องผ่านฝ่ายไหนด้วยซ้ำ ข้อดีก็คือสามารถผ่านด่านหรือข้ามหัวคนที่ปิดโอกาสไม่ให้คุณเจอหน้า รับรองว่าพวกเขาจะอึ้งเมื่อเจ้านายเขาเป็นฝ่ายรับนัดคุณแน่นอน

5. ตัดใจและโทรหาลูกค้ารายใหม่จะดีกว่า

ไม่ผิดที่จะยอมเลิกรากับลูกค้าที่ยังไงก็เงียบกริ๊บ เพื่อให้คุณวางแผนในการติดตามงานหรือหาลูกค้ารายใหม่มาทดแทนก็จะเป็นอะไรที่มีประโยชน์กว่า หลังจากนี้ก็แค่วางแผนเอาช่วงว่างๆ และทิ้งระยะห่าง จากนั้นก็โทรไปใหม่หรือส่งข้อความไปหาก็พอครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts