ค่าเบี้ยเลี้ยงที่ทีมขายควรจะได้มีอะไรบ้าง
ค่าเบี้ยเลี้ยง คือสิ่งที่อยู่คู่เคียงข้างชีวิตนักขายเลยก็ว่าได้ เพราะการออกไปทำงานนอกสถานที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งการออกไปพบลูกค้า ไปรับลูกของลูกค้า ไปกินข้าวกับลูกค้า ไปทำกิจกรรมเอนเตอร์เทนกับลูกค้า ถือว่าเป็นกิจกรรมนอกสนามที่องค์กรจะต้องเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องนี้แทบทั้งสิ้น
บริษัทไหนที่ไม่มีสวัสดิการโดยเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับพนักงานขายถือว่าเป็นบริษัทที่เอารัดเอาเปรียบพนักงานเป็นอย่างมาก นักขายคนไหนที่กำลังทำงานกับนายจ้างที่ไม่มีผลประโยชน์ตรงนี้ก็ควรมองหางานใหม่ได้เลย (ฮา) หรือนายจ้างที่ไม่มีเบี้ยเลี้ยงให้พนักงานขายก็เตรียมเสียคนฝีมือดีไม่ช้าก็เร็วแน่นอน
มาดูกันว่าผู้บริหารระดับคุณควรต้องกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับทีมขายเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณอย่างไรบ้าง
1. ค่าน้ำมัน
เป็นสิ่งที่ต้องมอบให้นักขายที่ขับรถเข้าพบลูกค้า และไม่ควรทำอะไรที่มันยุ่งยากเช่นการคิดค่าน้ำมันตามกิโลเมตรที่วิ่งจริงแล้วให้นักขายจดบันทึกมา บางบริษัทถึงขั้นนับกิโลฯ จากกูเกิ้ลแมพเอา แล้วต้องมาปริ้นต์ให้ฝ่ายบัญชี เอาจริงๆ โคตรเสียเวลาทำงานเลยครับ วิธีง่ายๆ ก็คือให้คำนวนว่านักขายแต่ละคนควรวิ่งเข้าพบลูกค้าเฉลี่ยวันละกี่ราย เช่น วันละ 3-4 ราย คำนวนระยะทางได้ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อวัน น้ำมันถังนึงวิ่งได้ 500 กิโลเมตร เต็มถังประมาณอาทิตย์ละ 1,300-1,500 บาท คุณจึงให้ค่าน้ำมันนักขายเผื่อๆ ไว้ประมาณเดือนละ 6,000-8,000 บาทครับ อย่าเหนียวค่าน้ำมันกับนักขายเป็นอันขาด ถ้ากลัวว่าพวกเขาไม่วิ่งทำนัดก็ใช้วิธีบี้ด้วยกิจกรรมการขายเอาก็ได้ครับ
2. ค่าเอนเตอร์เทน
ค่าเอนเตอร์เทน (Entertain) ขอเรียกรวมๆ ว่าค่าเลี้ยงลูกค้าซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการซื้อให้ลูกค้า ผมขอเหมารวมอยู่ในหมวดนี้เลยก็แล้วกันครับ เช่น ค่าอาหาร ค่ากินเลี้ยง ค่าสนามกอล์ฟ ค่าเปิดเมมฯ เป็นต้น แต่คุณควรกำหนดการเบิกจ่ายค่าเอนเตอร์เทนอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันพนักงานขายยักยอกเบิกเงินเกินจริงแล้วเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง ถ้าเจอบ่อยๆ ก็ไล่พวกนี้ออกได้เลยครับ วิธีก็คือการอนุญาตให้พนักงานขายเอนเตอร์เทนลูกค้าได้ก็ต่อเมื่อปิดการขายได้เรียบร้อยแล้ว มีกำไรพอสมควรโดยกำหนดวงเงินให้พนักงานไม่ใช้เกินอัตรา และต้องพาลูกค้าระดับผู้มีอำนาจตัดสินใจไปเอนเตอร์เทนลูกค้า เป็นต้น ถ้าไปเอนเตอร์เทนก่อนได้งานมักไม่ค่อยน่าทำเพราะเสี่ยงไป
3. ค่าโทรศัพท์
โทรศัพท์คืออาวุธในการล่าลูกค้าใหม่และเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่เปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 คุณจึงไม่ควรกั้กค่าโทรศัพท์ด้วยการตั้งงบให้เป็นเดือน ถ้าไม่ให้ค่าโทรศัพท์ก็เกินไปล่ะครับ ทุเรศเกิน อย่าทำเลยธุรกิจ สำหรับผมจะให้พนักงานขายประมาณเดือนละ 2,000 บาทครับ
4. ค่าเดินทางต่างจังหวัด-ต่างประเทศสำหรับทริปธุรกิจ (Business Trip)
บริษัทฯ ควรอำนวยความสะดวกให้พนักงานขายเมื่อพวกเขาต้องมีภารกิจไปทำงานต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกประเทศ จึงควรให้ฝ่ายการเงินหรือฝ่ายบุคคลเป็นผู้ทำเรื่องจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรมก่อนเสมอ แต่ถ้าไม่สะดวกจริงๆ ก็สามารถให้พนักงานขายทำเรื่องเบิกค่าเดินทางและค่าที่พักได้ ถ้ากรณีนี้จะเรียกว่าการทำเรื่องเบิกเงินกับบริษัท (Reimbursement)
5. ค่าโอที
ไม่มีครับ เป็นพนักงานขายที่ทำงานพร้อมลูกค้าและเลิกตรงเวลากับลูกค้าก็ไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม เพราะการทำงานนอกเวลางานไม่ได้ช่วยให้ได้เงินแต่อย่างใด เช่น งานเอกสาร งานประชุมหลักเลิกงาน ฯลฯ
นี่คือค่าเบี้ยเลี้ยงที่ควรกำหนดให้กับเหล่าพนักงานขายของคุณครับ
Comments
0 comments