ส่งอีเมลยังไงลูกค้าถึงจะรับนัดคุณ
การส่งอีเมลแนะนำตัวเพื่อทำนัด เรียกอีกอย่างว่า “Cold-Email” ซึ่งการหวังผลก็คล้ายๆ กับการทำ Cold Call นั่นแหละครับ ต่างกันคือส่งอีเมลหาลูกค้านั้นคุณอาจจะเสียหน้าน้อยกว่าเพราะไม่ต้องคุยกัน ไม่กลัวการโดนปฎิเสธผ่านเสียงตามสายให้เจ็บใจเล่นๆ แต่ข้อด้อยที่ต่างกับการทำ Cold Call อย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือโอกาสการตอบกลับของอีเมลหรือรับนัดคุณนั้นก็มีน้อยมาก ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ทำ Cold Call แล้วได้อีเมลมา ส่งไปลูกค้ากลับเงียบซะงั้น ดังนั้นมาดูวิธีเจ๋งๆ จากผมที่จะแก้ปัญหานี้กันเลยดีกว่า
1. เขียนอีเมลโดยบอกลูกค้าเนื้อๆ แบบฮาร์ดคอร์ไปเลยว่าคุณช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง
หมดเวลาแล้วครับกับการเขียนเมลแนะนำตัวเป็นย่อหน้า (Paragraph) แบบก็อปวาง เพราะยุคนี้ใครๆ ก็ต้องการความรวดเร็ว ดังนั้นอะไรที่มันน่าเบื่อหรือยาวเกินไป พวกเขาจะเลื่อนผ่านไปเลย การคิดคำพูดอะไรที่มันอ่านแล้ว Sexy และทำให้บริษัทคุณน่าสนใจแบบภาษาพูดไปเลยจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า เช่น
ตัวอย่าง
สวัสดีครับ ผมแพน เป็นที่ปรึกษาการขายระบบไอทีของบริษัท xyz ที่จะช่วยจัดการไฟล์เอกสารอันยุ่งยากให้จัดเก็บแบบ Paperless ทำให้ลดค่าใช้จ่ายกับงานของฝ่ายบัญชีนั้นง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
บริษัทผมเก่งเรื่องนี้มากๆ เพราะมีพอร์ทลูกค้าขนาดใหญ่หลายรายและที่สำคัญคือทุกรายพอใจมาก ไม่มีรายไหนผิดหวังแม้แต่รายเดียว
ถือว่าเป็นการแนะนำตัวเองที่กระชับและบอกว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไร จากนั้นก็มั่นใจความเก่งของตัวเองด้วยผลงานนั่นเองครับ
2. เสนอทางเลือกประมาณ 2-3 Slot ไปเลย
สังเกตไหมว่าการเสนอทางเลือกเวลาขายของนั้นสามารถปิดการขายได้ เช่น คุณถามลูกค้าว่าชอบรถสีขาวหรือว่าสีดำ พวกเขาจำเป็นต้องตอบสีใดสีหนึ่ง ถ้าพวกเขาเลือกแล้วก็หมายความว่าคุณมีโอกาสคุยเรื่องปิดการขายสำหรับสีนั้นๆ ดังนั้นเราจึงเอาเทคนิคนี้มาใช้ในส่วนของเนื้อหาอีเมล เช่น
สวัสดีครับ ผมแพน เป็นที่ปรึกษาการขายระบบไอทีของบริษัท xyz ที่จะช่วยจัดการไฟล์เอกสารอันยุ่งยากให้จัดเก็บแบบ Paperless ทำให้ลดค่าใช้จ่ายกับงานของฝ่ายบัญชีนั้นง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
บริษัทผมเก่งเรื่องนี้มากๆ เพราะมีพอร์ทลูกค้าขนาดใหญ่หลายรายและที่สำคัญคือทุกรายพอใจมาก ไม่มีรายไหนผิดหวังแม้แต่รายเดียว จึงขอทำนัดผ่านออนไลน์โดยเสนอช่วงเวลา ดังนี้
– 16th Dec, 2pm
– 21st Dec, 10am
– 21st Dec, 2pm
รับรองว่ามีโอกาสได้นัดหรือตอบคอนเฟิร์มมากขึ้นแน่นอนครับ
3. ติดตามผล
เมื่อส่งไปแล้วแต่ลูกค้าเงียบประมาณ 1-2 วัน ลองส่งอีเมลซ้ำเพื่อติดตามผลว่าลูกค้าได้รีวิวเอกสารแนบของคุณหรือพิจารณาวันและเวลาแล้วหรือยัง จากนั้นก็ใส่ประโยคอ้อนๆ ลูกค้าซักหน่อยแบบภาษาพูด เช่น “ขอโอกาสในการนัดนำเสนอที่ผมมั่นใจว่าลูกค้าไม่เสียเวลาแน่นอน” “มีข่าวดีอยากจะเล่าเพราะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจลูกค้ามากจริงๆ” เป็นต้น
Comments
0 comments