ลูกน้องทำงานเฉื่อยไปวันๆ ลองกระตุ้นแบบนี้
โลกของหัวหน้าย่อมมีความรับผิดชอบที่แตกต่างกับลูกน้อง ง่ายๆ เลยคือตอนที่คุณเป็นลูกน้องก็คงเคยเซ็งครับที่อุตส่าห์เคลียร์งานจนเสร็จ นายก็ยัดงานมาให้ทำอยู่ดี (555+) อยู่ว่างๆ เป็นไม่ได้
แต่สำหรับตอนที่คุณเป็นเจ้านายหรือเจ้าของบริษัทเนี่ยแหละ ที่ถ้าลูกน้องคุณว่างงานอยู่เมื่อไหร่ หรือทำงานเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ รับรองว่าตัวคุณนั่นแหละที่ “งานเข้า” แน่นอนครับ ข้อให้ใช้ลูกน้องไม่คุ้มเงิน
ถ้าทีมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เอื่อยเฉื่อย รอเดือนหน้าปิดเทอมสงกรานต์ยาวๆ นี่คือวิธีกระตุ้นจากผมครับ
1. ให้ Incentive
ค่าจูงใจ เรื่องง่ายๆ แต่ใครใครมักไม่ทำกัน อ้างว่าติดนโยบายบ้าง เจ้าของฯ ไม่ให้บ้าง ถ้าคุณเป็นหัวหน้างานที่ดี คุณต้องกล้าไฟต์เรื่องนี้ให้ลูกน้องครับ เงินเป็นสารกระตุ้นที่ยอดเยี่ยม สูตรก็มีหลายอย่าง เช่น ให้เพื่อกระตุ้นยอดขาย ให้เพื่อบูสสินค้าที่ขายไม่ค่อยได้ ให้เพื่อหาลูกค้าใหม่ เป็นต้น
2. หากิจกรรมสร้างทีมเวิร์ก
ไม่ต้องไปนึกถึงการพาลูกน้องไป Outing ที่มันเสียเงินแล้วต้องไปนอกสถานที่นะครับ เอากิจกรรมง่ายๆ ละลายพฤติกรรม เริ่มจากเลี้ยงมื้อเย็น พาไปกินเหล้า ปาร์ตี้ คาราโอเกะ แต่มีวิธีเนียนๆ ก็คือตอนกินกันเต็มคราบแล้ว คุณค่อยพูดซึ้งเรื่องการขอความร่วมมือให้วิ่งหายอดขายกันมากขึ้นครับ
3. เอา Topsales เป็นตัวกดดันคนอื่น
เป็นศาสตร์มืดอย่างนึงที่วงการกีฬาระดับโลกมักใช้กัน เพื่อสร้างการแข่งขันเชิงบวก ทำให้เซลล์เอื่อยเฉื่อยรู้สึกต้องลุกมาทำอะไรซักอย่าง วิธีคืออวย Topsales (แต่ไม่เวอร์) ต่อหน้าคนอื่นในการประชุม ให้รางวัล เช่น นักขายยอดเยี่ยมประจำเดือน ประจำปี วิธีนี้กดดันพวกเฉื่อยๆ แบบไม่ต้องพูดเยอะเลยครับ
4. ลงไปคลุกฝุ่นร่วมกับทีม
สาเหตุที่คนระดับเจ้าของไม่รู้เลยว่าทำไมทีมขายถึงทำงานห่วยจัง (วะ) นั่นก็คือคุณไม่เคยโชว์ให้พวกเขาดูเลย เอาแต่นั่งห้องแอร์ ประชุม ตีกอล์ฟไปวันๆ อย่างนี้เรียกศรัทธาลูกน้องยากครับ ลองทำวิธีนี้ดูด้วยการลงไปออกตลาด ขายของ ร่วมกับทีม รับรองว่าเรียกศรัทธาได้เร็วมากๆ ครับ (ถ้าทำให้ดูได้จริง)
5. หาโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานขายที่สดใหม่
คนเราอยู่ใกล้ตัวมักไม่เชื่อกันเวลาพูดหรือเตือนอะไร คุณยังไม่เชื่อเมียคุณเลยแต่ดันไปเชื่อคนอื่น (ฮา) เรื่องนี้เองก็เช่นกัน การเชิญผู้เชี่ยวชาญจากข้างนอกมาจัดการฝึกอบรมพนักงานขาย กระตุ้นทีมขาย ก็สามารถสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี วิธีการที่สดใหม่ได้ครับ
Comments
0 comments
