วิธีสร้าง First Impression เพื่อให้คนอื่นชื่นชอบคุณทุกสถานการณ์

First Impression ยังไงก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเสมอเมื่อคุณต้องเจอกับคนหรือสังคมใหม่ๆ บอกเลยครับว่ามันไม่ใช่การทำอะไรแค่เปลือกนอกเท่านั้น แต่มันเป็นสิ่งดีที่แสดงให้เห็นถึงมารยาททางสังคม การเตรียมพร้อมที่ดี และการเริ่มต้นสู่กัลยาณมิตรที่น่าคบหา ไม่ว่าจะเป็นกับใครก็ตาม โดยเฉพาะคนสำคัญอย่างลูกค้า เพื่อนใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ ย่อมเป็นสิ่งดีแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะครับถ้าพวกเขาตัดสินว่าคุณน่าคบหาตั้งแต่แรก

ผมเองก็พลาดมาเยอะครับสำหรับเรื่องนี้ ทำอะไรซี้ซั้วเสร่อๆ จนโดนเพื่อนหรือคนรอบข้างที่หวังดีเตือนกันประจำในสมัยก่อน ผลเสียก็คือถูกตัดสินว่าผมมันไม่ได้เรื่อง ไม่รู้จักกาละเทศะ หรือแม้แต่ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักอะไรกันมากมาย มันจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถสร้าง First Impression ให้คนอื่นรู้สึกดี เคารพนับถือ และไม่ได้ถูกตัดสินว่าเป็นคนไม่ดี ไม่ได้เรื่อง ไม่น่าคบกันเลยดีกว่าครับ

1. จงเป็นตัวของตัวเองแต่จงทำความเข้าใจก่อนว่าไม่มีใครชอบนิสัยคุณไปซะทุกคน

ใช่ครับ นี่คือความจริงของโลกใบนี้ ทุกคนมีพื้นฐานที่แตกต่างกัน มีประสบการณ์และจิตใต้สำนึกไม่เหมือนกัน ปกติพวกเราจะเคยมีประสบการณ์เลวร้ายมาก่อนและจำฝังใจเกี่ยวกับนิสัยคนที่เราไม่ชอบ เช่น เคยถูกคนขี้โม้หรือเหยียดยาม โดนคนแซวแบบล้ำเส้นจนทำให้อึดอัด ฯลฯ จนกลายเป็นจิตใจสร้างการป้องกันตัวเองจากคนที่มีลักษณะหรือบุคลิกเหล่านั้น ผลก็คือถ้าคุณมีการพูดและการกระทำที่คล้ายคลึงกับคนที่พวกเขาไม่ชอบมาก่อน คุณก็มีสิทธิ์ถูกคนเหล่านี้แอนตี้ในตอนแรกก็ได้ครับ ดังนั้นจงฟันธงไปเลยว่าช่วงแรกๆ จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบคุณเสมอ ผมไม่สนับสนุนให้เฟคตัวตนของตัวเองเป็นอันขาดครับ

2. ทำการบ้านก่อนเสมอ

เวลาจะพบใครมีวิธีการง่ายๆ เพื่อทำความรู้จักคนหรือสังคมที่คุณจะไปเจอด้วยการใช้เวลาไม่นาน แถมยังมีเครื่องมือดีๆ อย่างกูเกิ้ลหรือเฟซบุ้คเพื่อเข้าไปส่องชีวิตหรือตัวตนของคนคนนั้นซะด้วย จงเตรียมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น กำลังจะเข้าไปเรียนคอร์สคอนเนคชั่นก็จงไปดูใน Student Directory ว่ามีใครบ้าง ทำงานอะไร อายุเท่าไหร่ เฟซบุ้คโปรไฟล์มีมั้ย หรือไม่ก็ถามเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกับคนคนนี้ว่ามีนิสัยใจของอย่างไร ชอบคนแบบไหน อะไรทำนองนี้ครับ เสียเวลาหน่อยแต่ได้ผลโคตรๆ

3. หาจุดร่วมที่เหมือนกันให้เจอ

อย่างที่บอกคือเรื่องจิตใต้สำนึกที่ทำให้เราป้องกันตัวจากคนที่คุณไม่ชอบ แต่เราก็มักจะชอบคนที่มีนิสัยหรือทำอะไรคล้ายๆ กับเราเช่นกัน อย่างที่เขาบอกคือถ้าเราบังเอิญคุยกับคนที่ถูกคอในวงเหล้านั่นแหละครับ วิธีเพิ่มเติมคือสืบจากเฟซบุ้คหรือคนรู้จักให้ได้ จากนั้นก็เอามา Map กับตัวตนหรือสิ่งที่คุณทำว่ามีจุดร่วมอะไรที่ทำให้พวกเขาเปิดใจให้คุณมากขึ้น เช่น จบสถาบันเดียวกัน มีลูกเหมือนกัน ชอบกินเหล้า สูบบุหรี่ ท่องเที่ยว เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ รับรองว่าจะทำให้การเปิดการสนทนานั้นยอดเยี่ยมมากๆ

4. คุยให้ถูกที่ถูกเวลา

จุดตายของคนชอบพูด พูดเก่ง หรือมนุษย์แบบ Extrovert คือเรื่องการพูดที่มากเกินไปและช่างพูดช่างคุยจนไม่สนใจคู่สนทนานี่แหละครับ ผมเองก็ตายอยู่บ่อยๆ เวลาพูดแต่เรื่องของตัวเองโดยที่บางอย่างไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้ (ยังดีที่รู้ตัวครับ) นี่คือทักษะชั้นสูงที่คุณต้องควบคุมตัวเองให้ได้เวลาคุยกับคนใหม่ๆ ด้วยการใช้แบบฝึกหัดนี้ คุณต้องแบ่งช่วงการสนทนาออกเป็นกฎ 70/30 นั่นคือให้คู่สนทนาพูดด้วยสัดส่วนที่มากกว่าให้ได้ ส่วนคุณพูดแค่ 30 พอ และอะไรที่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นและไม่เกี่ยวกับจุดร่วมก็ไม่ต้องพูด

5. ถามคำถามที่ดีและมีประโยชน์

เป็นศาสตร์ชั้นสูงที่ช่วยคนพูดมากและช่วยให้คนพูดน้อยเป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าคบหา นั่นคือการถามคำถามที่มีประโยชน์ คำถามที่ดีควรเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคู่สนทนาโดยตรง แต่ไม่ส่วนตัวจนเกินไป วิธีง่ายๆ คือการหาจุดร่วมให้เจอแล้วถามจากสิ่งเหล่านั้น หรือถามสิ่งที่ต่อเนื่องจากที่ผู้พูดพึ่งพูดออกมา เช่น ผู้พูดแชร์เรื่องการเลี้ยงลูกมาให้ว่ามีอุปสรรคและความสุขอย่างไรบ้าง คุณจึงถามต่อเนื่องว่าความสุขที่ได้รับนั้นเป็นอย่างไรและทำอย่างไรถึงจะมีความสุข เป็นต้น

6. เป็นนักฟังที่ดี

นักฟังที่ดีคือฟังแบบจับใจความแล้วถามคำถามต่อเนื่องหลังจากฟังผู้พูดได้พูดจบ ไม่พยายามพูดแทรกถ้าไม่สำคัญจริงๆ สายตามองไปที่ผู้พูดและกระพริบตาเป็นระยะๆ ไม่เล่นมือถือระหว่างการคุย โน้มตัวไปหาผู้พูดนิดหน่อยเพื่อเป็นภาษากายที่แสดงให้เห็นถึงความสนใจ แต่อย่าใกล้จนเกินไปโดยเฉพาะคนต่างเพศเพราะจะทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัด และจงระวังกลิ่นกายหรือกลิ่นปากให้ดีด้วย

7. มีรอยยิ้มที่จริงใจแฝงอยู่เสมอและมีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย

ยิ้มแบบจริงใจคือการรู้สึกดีกับผู้พูดและแสดงออกมาทางสีหน้า ต่อให้คุณไม่หล่อไม่สวย รอยยิ้มนี่แหละครับที่บ่งบอกว่าคุณมีความยินดี เป็นคนที่น่าคุย อบอุ่น เป็นมิตร ลองถามคนรอบข้างดูก็ได้นะครับว่าคุณยิ้มแล้วดูดีขึ้นหรือไม่ ผมเชื่อว่าดูดีกว่าเดิมแน่นอน จงมีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย ไม่เครียด ถ้ารู้สึกเครียดให้ปลีกตัวออกไปจากการสนทนาแล้วค่อยกลับมาที่เดิมอีกครั้งก็ได้ครับ

8. ต่อยอดความประทับใจให้ยั่งยืน

จะดีมากถ้าคุณสามารถต่อยอดสิ่งดีๆ เหล่านี้ด้วยการรักษาความสัมพันธ์ใหม่เอาไว้ให้ยั่งยืนด้วยการขอนามบัตร เฟซบุ้ค ไลน์ ฯลฯ ตามความเหมาะสม เพื่อเอาไว้ติดต่อสื่อสารและสร้างเสน่ห์ว่าคุณสนใจพวกเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่ผิวเผิน จงเป็นคนที่จริงใจและมีเสน่ห์กับให้คะแนนตัวเองทุกครั้งว่าเวลาคุณเจอคนใหม่ๆ คุณทำได้ดีมากแค่ไหน มีอะไรที่ต้องปรับปรุงบ้าง และพยายามไม่ลืมพวกเขาด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการไปกดไลค์ คอมเมนต์ยินดี ในเฟซบุ้คของพวกเขาก็เป็นเสน่ห์ง่ายๆ ที่ได้ผลดีเลิศมากๆ ครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts