อยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ต้องทำอย่างไร

อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คำคำนี้ถ้าคุณเป็นนักการตลาดคงไม่มีใครไม่รู้จัก พูดเป็นภาษาปากก็คือ “ผู้มีอิทธิพล” เช่น คนเด่นคนดัง ดารา นักร้อง นักกีฬาทีมชาติ หรือแม้กระทั่งหัวหน้า สาวออฟฟิศสุดสวย แฟนคุณ ก็เรียกได้ว่าอินฟลูเอ็นเซอร์ได้ทั้งนั้นถ้าพวกเขามีอิทธิพลต่อชีวิตคุณ เป็นต้น

หมายความว่าตั้งแต่ระดับดาราดังไปจนถึงลุงวินหน้าปากซอยก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ ถ้าพวกเขาสามารถทำให้คุณเชื่อบางสิ่งบางอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับการซื้อขาย เช่น เชื่อให้คุณซื้อรถ ซื้อเครื่องสำอาง ซื้อมือถือ​ฯลฯ จากการรีวิวหรือบอกเล่าของพวกเขา คุณเองก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้เช่นกัน

ด้วยความสำคัญของอินฟลูเอนเซอร์นี่เองที่ทำให้แบรนด์สินค้าเริ่มลงทุนกับการจ้างผู้มีอิทธิพลที่ไม่จำเป็นต้องถึงกับดังระดับดารา ซึ่งค่าตัวคงแพงมาก และหันมาจ้างอินฟลูฯ มีตัวตนอยู่บนโลกออนไลน์โดยเฉพาะบนเฟซบุ้ค ไอจี ทวิตเตอร์ และ “ยูทูป” ที่คุณเองก็มักจะติดตามช่องของพวกเขาตามเนื้อหาที่คุณสนใจ เช่น หนัง เพลง ความงาม ฯลฯ

การเป็นอินฟลูฯ ในยุคนี้จึงง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วเพราะทุกแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ยินยอมให้คุณลงผลงานเพื่อสร้างช่องทางให้เกิดผู้ติดตาม (Follower) ได้ฟรี เมื่อมีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งและมีความเชี่ยวชาญตรงกับภาพลักษณ์หรือแคแรคเตอร์ของแบรนด์สินค้า คุณก็จะสามารถเป็น “พรีเซนเตอร์” ซึ่งได้เงินราวกับเป็นดาราได้เลย

ตัวอย่างอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ไม่ได้เป็นดารามาก่อนและทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น บ้านกูเอง เบลล์ขอบสนาม สอดอสไตล์ เก๋ไก๋สไลเดอร์ เบย์ริฟเฟอร์ ฯลฯ คุณชักจะสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะครับเพราะวงการนี้สามารถทำให้คุณกลายเป็นคนดังและประสบความสำเร็จได้แบบไม่ต้องไปคัดตัวเป็นดารา หรือเกิดมาต้องหล่อต้องสวยเลย

ธุรกิจของผมเองคือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์แบบอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) หมายเลขหนึ่งของประเทศและมีประสบการณ์ในการร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ทุกระดับ รวมถึงการปั้นพวกเขาให้กลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการมาแล้ว ผมจึงมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากในการพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับมืออาชีพได้ เหมือนที่เซลล์ร้อยล้านเป็นเบอร์หนึ่งของวงการการขายแบบ B2B บนโลกออนไลน์ครับ

1. วินัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จในวงการนี้

ถ้าคุณเลือกที่จะเดินอยู่บนเส้นทางของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ก่อนที่จะคิดว่าต้องการเป็นอินฟลูฯ ในด้านไหนดี จงรู้เอาไว้เลยนะครับว่าคุณไม่จำเป็นต้องเก่งตั้งแต่เกิด สิ่งที่ทำให้อินฟลูฯ ประสบความสำเร็จคือ “วินัย” เท่านั้น นั่นคือการกำหนดกิจกรรมการลงผลงานอย่างสม่ำเสมอ เช่น ลงผลงานทุกวัน ทุก 3 วัน ทุกสัปดาห์ เป็นต้น ที่สำคัญคือ “หยุดไม่ได้” เพราะถ้าหยุดเมื่อไหร่ก็แสดงว่าคุณขาดวินัยและส่งผลให้ผู้ติดตามของคุณเริ่มหายไป อารมณ์แบบเดียวกับการทำละครที่ต้องทำจนถึงตอนอวสาน เมื่อไหร่ที่หยุดไปซักครั้งก็หมายความว่าคุณไม่มีทางประสบความสำเร็จแล้วล่ะครับ เส้นทางนี้ความเขี้ยวและโหดคือ “การต่อสู้กับตัวเอง” โดยเฉพาะความขี้เกียจล้วนๆ

หมายเหตุ: เซลล์ร้อยล้านเขียนบทความเป็นวินัยให้กับตัวเองทุกวัน

2. สังเกตตัวเองว่ามีความถนัด ความสามารถพิเศษ หรือจุดเด่นด้านไหนของตัวเองมากที่สุด

การเป็นอินฟลูเอนเซอร์จะต้องรู้ตัวว่าคุณสามารถทำให้คนรอบข้างเชื่อถือคุณมากที่สุดเรื่องใดบ้าง นี่คือวิธีสังเกตตัวเองที่ง่ายที่สุด เพื่อเริ่มต้นการกำหนดทิศทางการทำงานและบ่งบอกว่าผู้ติดตามของคุณจะเข้ามาดูคุณเพราะเรื่องอะไร เช่น เพื่อนคุณมักถามคุณเรื่องการแต่งหน้าเพราะคุณเก่งเรื่องนี้ คุณเก่งเรื่องรถจนมีแต่คนมาถาม คุณถ่ายรูปสวยและสอนคนอื่นได้ คุณชอบท่องเที่ยวกับบันทึกเหตุการณ์ชีวิตไปด้วย เป็นต้น ความน่าเชื่อถือจากคนรอบข้างคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของคุณว่าคุณเก่งและมีอิทธิพลกับพวกเขาด้านอะไรบ้างแบบไม่ต้องเสียตังซักบาทแถมดีที่สุด

3. คิดเสมอว่าคนติดตามสิ่งที่คุณนำเสนอจะได้ประโยชน์อะไรจากคุณ

ก่อนที่จะคิดว่าจะทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดและฝันหวานถึงเรื่องเงิน จงคิดก่อนทำงานว่า “คนดู” หรือคนติดตามสิ่งที่คุณนำเสนอบนเฟซบุ้คหรือยูทูปจะได้ประโยชน์อะไรกับชีวิตของพวกเขาบ้าง ไม่งั้นงานที่ออกมาจะค่อนข้างสะเปะสะปะและไม่ทำให้คนดูเกิดการติดตามคุณ คุณควรกำหนดสิ่งที่จะมอบให้พวกเขาจากเนื้องานของคุณ เช่น คุณคิดจะทำรายการแต่งรถ คุณจึงให้เกร็ดความรู้วิธีการแต่งรถกับคนดู คุณแต่งหน้าเก่ง คุณจึงให้คำแนะนำวิธีการแต่งหน้าให้ดูดีสำหรับคนพึ่งเริ่มต้น เป็นต้น เปรียบได้กับคุณกำลังนำเสนอสินค้าซึ่งมีคุณสมบัติ (Feature) จากตัวตนของคุณ และบอกประโยชน์ที่จะได้รับ (Benefit) ซึ่งก็คือสิ่งที่คนติดตามได้ประโยชน์ หลักการนี้จะทำให้กล่มกล่อมมากขึ้น

4. วางแผนการทำงานและลงมือทำทันทีโดยศึกษาแนวทางจากอินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จ

การวางแผนจะทำให้เนื้องานออกมาดีและสามารถ “วัดผลได้” โดยเริ่มจากแพลทฟอร์มบนโลกออนไลน์ที่เหมาะสมกับประเภทของเนื้อหาที่คุณต้องการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ก่อน ผมจึงมีแพลทฟอร์มที่เหมาะสมกับเนื้อหาที่คุณต้องการนำเสนอเพื่อให้ผู้ติดตามเกิด “การมีส่วนร่วม” (Engagement) ดังนี้ครับ

– Facebook: เหมาะสำหรับการเขียนบทความขนาดยาวซึ่งคนดูต้องใช้เวลาอ่าน เช่น เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง เพจลงทุนแมน เพจ BrandThink เป็นต้น

– Twitter: เหมาะสำหรับการเป็นผู้สร้างกระแสหรือนำเทรนด์บนโลกออนไลน์ เช่น ทวิตฯ นินทาดารา เป็นต้น

– Youtube: เหมาะมากที่สุดและได้รับความนิยมสูงมากเพราะสามารถทำรายการที่มีทั้งภาพและเสียงแบบวีดีโอ ผู้ทีมีอิทธิพลบนยูทูปจะถูกเรียกว่า “ยูทูเบอร์” หรือครีเอเตอร์ ตัวอย่างเช่น บี้ เดอะสกา ดีเจเพชรจ้า เก๋ไก๋สไลเดอร์ ฯลฯ

– Instagram: เหมาะสำหรับการโพสต์รูปที่ไม่ต้องบรรยายอะไรด้วยตัวหนังสือให้มากความ วงการแฟชั่นหรือความงามจะมีอิทธิพลในนี้เป็นพิเศษ เช่น ไอจีดารา ไอจีของคุณเอง (ที่เป็นคนหล่อสวย) ไอจีขายของแบรนด์เนม เป็นต้น

เมื่อทราบแล้วว่าต้องการไปที่แพลทฟอร์มไหน จงลงมือสร้างเพจหรือช่องของตัวเองและเริ่มลงมือทำทันทีโดยศึกษาความสำเร็จจากเพจที่คุณชื่นชอบและประสบความสำเร็จ (แต่ไม่ใช่การก็อปปี้) ก็จะทำให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้นและไปสู่จุดมุ่งหมายในการสร้างฐานผู้ติดตามได้อย่างยั่งยืน ผสานกับวินัยที่มีการลงมือทำทุกวันก็จะทำให้คุณสำเร็จเร็วขึ้น

5. วัดผลและปรับปรุงการทำงานของตนเองทุกขั้นตอน

การเป็นอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์สามารถวัดผลว่าคุณเจ๋งหรือมีคุณค่ามากแค่ไหนได้ง่ายๆ จากจำนวน “ยอดผู้ติดตาม” ซึ่งจะมีข้อมูลบอกคุณเสมอในแต่ละแพลทฟอร์ม แต่เท่านั้นคงไม่เพียงพอ คุณต้องวัดผลหลังจากปล่อยเนื้อหา (Content) มากกว่าแค่ยอดผู้ติดตามจากยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) เช่น จำนวนไลค์ คอมเมนท์ แชร์ รีทวีต ฯลฯ ซึ่งถ้าช่องของคุณมียอดการมีส่วนร่วมสูงและมีความเห็นเชิงบวก มีคำชมมากกว่าคำติ สิ่งเหล่านี้แหละคือดัชนีวัดผลที่เป็นบทสรุปว่าคุณได้กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้มีอิทธิพลแล้ว แต่ถ้าผลลัพธ์ยังไม่ดี จงกลับไปวัดผลใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเรื่องของเนื้อหาที่จะทำ เทคนิคการนำเสนอ งานภาพ เสียง ประโยชน์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในงานถัดไป

6. มองหาคอนเนคชั่นหรือสมาคมอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับเนื้อหาของคุณ

การใช้คอนเนคชั่นเป็นวิธีทำให้ตัวเองดังโดยปีนบันไดทีละ 3 ขั้น บางทีก็ทำให้คุณดังได้แบบข้ามคืนเลยด้วยซ้ำ จงเข้าไปตีซี้หรือสนิทสนมกับอินฟลูฯ เบอร์ใหญ่ที่เป็นไอดอลของคุณด้วยการ “แสดงความจำนง” ไปตรงๆ เพราะความง่ายของโลกออนไลน์นี่แหละที่ทำให้คุณติดต่อกับพวกเขาได้แบบปอกกล้วยเข้าปาก ไม่ว่าจะเป็นการทักไปตรงๆ ผ่านอินบอกซ์ เพื่อบอกถึงแรงบันดาลใจที่พวกเขามีให้คุณ รวมถึงการขอทำนัดเพื่อเข้าร่วมสมาคมฯ ที่อินฟลูฯ ชื่อดังสังกัดอยู่ ถ้าพวกเขายินดีให้คุณเข้าพบ เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะทำรายการร่วมกับพวกเขาได้อีกด้วย ผู้ติดตามของอินฟลูฯ เบอร์ใหญ่จะเข้ามาติดตามคุณเพิ่มถ้าอินฟลูฯ ชื่อดังเป็นคนบอกในรายการของพวกเขา เจ๋งมั้ยล่ะครับ

นี่คือวิธีการเริ่มต้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์จากผมซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้ครับ

Comments

0 comments