ธุรกิจเครือข่ายหรือว่าแชร์ลูกโซ่? ทำอย่างไรไม่ให้ถูกหลอก
“ความโลภมันกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนหนังตาของทุกคน จนมองไม่เห็นความวอดวายที่ยืนรออยู่อย่างหิวกระหาย” – รงค์ วงษ์สวรรค์
จากเหตุการณ์เมื่อวานที่เป็นข่าวใหญ่เกี่ยวกับเหยี่อทัวร์ญี่ปุ่นหมื่นเดียว โดนลอยแพนับพันคน โปรดดูที่มา คลิ๊ก เข้าไปดูรายละเอียดกันเลยครับ ต้องขอแสดงความเสียใจให้กับผู้เสียหาย ผมขอเป็นอีกเสียงหนึ่งที่ช่วยให้ความรู้กับผู้อื่นในเรืองนี้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อและขอประนามการกระทำที่ไร้จริยธรรมทางธุรกิจ (Business Ethics) มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ส่วนตัวแล้วผมนับถือนักธุรกิจเครือข่าย (นักขายตรง) หรือนักขายประกันอยู่พอสมควรครับ เพราะเป็นอาชีพที่สุจริต ถือว่าเป็นงานขายประเภทหนึ่งเหมือนกัน เน้นการสร้างความสัมพันธ์ผ่านคนรู้จัก มีจริยธรรมทางธุรกิจสูงและสร้างความน่าเชื่อถือเป็นสำคัญถึงจะสามารถขายสินค้าได้ ใครที่มีเพื่อนเป็นเพชรฯ หรือผู้บริหารฯ ลองไปปรึกษาเพื่อนคุณดูเกี่ยวกับเทคนิคการขายและนำมันมาประยุกต์ใช้กับงานของคุณได้นะครับ พวกเขานี่แหละคือนักขายร้อยล้านตัวจริง
แต่ก็อีกนั่นแหละ “เหรียญมีสองด้านเสมอ” ธุรกิจเครือข่ายมักถูกเปรียบเทียบกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จนบางครั้งนำมาซึ่งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายในแง่ลบไปเลย ธุรกิจนี้เน้นการชวนคนเข้ามาสร้างธุรกิจเป็นของตนเองแบบเครือข่าย จึงต้องมีการสร้างแรงกระตุ้นและแรงจูงใจ (โดยเฉพาะเรื่องความสำเร็จ) ดังนั้นธุรกิจแชร์ลูกโซ่มักล่อลวงคนอื่นด้วยการเสนอผลประโยชน์ที่มากเกินพอดี เช่น การเสนอธุรกิจที่รวยได้ภายในเวลาอันสั้น หรือลงทุนพร้อมกับชวนคนอื่นมาลงทุนด้วยเงิน จะได้ผลตอบแทนกลับไปมหาศาล ถ้าใครโลภก็มักจะหลงเชื่อและโดนหลอกในท้ายที่สุดครับ
ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย (MLM:Multi-Level Marketing) ไม่ว่าจะเลิกทำแล้วหรือยังคงทำอยู่เป็นอาชีพเสริม ใครที่มีความสนใจจะเริ่มทำ ผมขอให้คุณคิดให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำธุรกิจนี้ เพราะการหลงเชื่อจากการชักจูงของธุรกิจเครือข่ายแบบผิดๆ อาจทำให้คุณต้องเสียน้ำตา เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา จนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวได้ถ้าขาดสติในเรื่องนี้ ธุรกิจแบบผิดๆ ที่ผมกล่าวมานั้น ผมขอเรียกอีกอย่างว่าธุรกิจ “แชร์ลูกโซ่” ครับ เรามาดูวิธีคัดกรองกันเลยครับ
1. ความแตกต่างในเรื่องสินค้า
ธุรกิจเครือข่าย: มีตัวสินค้าเป็นหัวใจหลักของธุรกิจจริง เน้นการสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคให้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคสินค้าแบรนด์ตลาดทั่วไปมาเป็นของแบรนด์ธุรกิจเครือข่าย (ขายตรง) สินค้าควรมีคุณภาพ ไม่มีการโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ธุรกิจเครือข่ายที่ดีควรมีสินค้าที่มีความแตกต่างกับสินค้าทั่วไปในตลาด เช่น คุณภาพที่ดีและโดดเด่น มีราคาสูงกว่าตลาดอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งราคาที่สูงจะสามารถนำมาเป็นรายได้ให้กับนักธุรกิจเครือข่ายได้อย่างเป็นธรรม
แชร์ลูกโซ่: ไม่มีตัวสินค้า มักมาในรูปแบบตัวธุรกิจอย่างอื่นเช่นการเงิน ODFX, UFUN (โดนตัดสินว่าเป็นแชร์ลูกโซ่แล้วทั้งสอบแบบ) โดยเน้นเรื่องการลงเงินเพื่อรับค่าตอบแทนเป็นสำคัญ เป็นต้น หรือถ้ามีตัวสินค้ามักจะเป็นสินค้าที่โอ้อวดเรื่องของสรรพคุณแบบเกินจริง มีการชักชวนให้ซื้อสินค้าและบอกต่อ มีของล่อใจนักธุรกิจแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ เช่นเคสล่าสุด ลักษณะตัวสินค้าเป็นอาหารเสริม ถ้าสมัครสมาชิกคนละหมื่นจะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น (ซึ่งค่าทัวร์แค่นั้นไม่มีทางไปได้) เป็นต้น
2. แผนการตลาด
ธุรกิจเครือข่าย: รายได้หรือผลตอบแทนของผู้ที่จะเข้าไปทำธุรกิจนั้น รายได้หลักมาจากขายสินค้าหรือบริการเป็นสำคัญ
แชร์ลูกโซ่: ไม่ได้เน้นเรื่องวิธีการสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการ มีแต่การพูดเรื่องผลตอบแทนที่คุณจะได้รับในหลายๆ ช่องทาง โดยเฉพาะการหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่าย ค่าแนะนำสมาชิก (หามากได้มาก หาน้อยได้น้อย หาเร็วได้เร็ว หาช้าได้ช้า เป็นต้น)
3. ชื่อเสียงของบริษัท
ธุรกิจเครือข่าย: ควรเป็นธุรกิจที่มีประวัติที่น่าเชื่อถือ มีทีมผู้บริหารมืออาชีพครอบคลุมทุกฝ่าย มีโรงงาน แหล่งผลิตสินค้าที่น่าเชื่อถ้า สามารถตรวจสอบได้ งบการเงินดี ไม่มีประวัติที่เกี่ยวข้องหรือเคยเป็นข่าวเกี่ยวกับธุรกิจแบบแชร์ลูกโซ่ มีดราม่าในพันทิปน้อย ถ้าเป็นธุรกิจเปิดใหม่ ต้องสามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกิจเครือข่ายที่ได้รับอนุญาตแล้วจากสคบ.ที่ คลิ๊ก นี่เลยครับ
แชร์ลูกโซ่: มักจดทะเบียนตั้งบริษัทในเวลาไม่นาน ประวัติของผู้ก่อตั้งมีความคลุมเครือ ตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าและบริการได้ยาก ยังไม่มีใบอนุญาตจากสคบ. มีกระทู้ดราม่าออกมาแฉเรื่องราวของธุรกิจแบบมีข้อเท็จจริงและแหล่งที่มา พูดง่ายๆ คุณควรมีความละเอียดรอบคอบในการเลือกบริษัทฯ ก่อนลงมือทำธุรกิจ
4. การโฆษณา
ธุรกิจเครือข่าย: เน้นการโฆษณาเกี่ยวกับสรรพคุณของสินค้าและรูปแบบธุรกิจอย่างสมเหตุสมผล ธุรกิจเครือข่ายเจ้าดังหลายๆ ที่มักมีความระมัดระวังในการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ เน้นงานโปรดักชั่นที่มีคุณภาพ โฆษณาจะดูค่อนข้างพรีเมี่ยมและชูจุดเด่นของตัวสินค้าเป็นสำคัญ มีพรีเซนเตอร์หรือรูปแบบการนำเสนอที่น่าเชื่อถือ
แชร์ลูกโซ่: เน้นการโฆษณาเรื่องของผลการตอบแทนที่โอ้อวดเกินจริง ใช้วัตถุเป็นแรงดึงดูดในการทำธุรกิจ (เช่นรถซุเปอร์คาร์) พูดถึงแต่เรื่องรายได้และแผนการตลาดเป็นชั่วโมง แต่อาจพูดถึงเรื่องสินค้าเพียงแค่ 10 นาที เน้นการชักชวนเพื่อหาสมาชิกเป็นหลัก โฆษณาส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีคลาส เช่นการกางแบงค์พันโชว์พร้อมกับโอ้อวดรายได้ต่อวัน สแปมข้อความตามเพจต่างๆ แบบก็อปๆ ตามกันมา งานค่อนข้างหยาบ ไม่ลงทุน (เรื่องนี้ดูง่ายมากๆ ครับ ฮา..)
5. ความร่ำรวย
ธุรกิจเครือข่าย: ช้าหน่อยแต่ชัวร์ (ยิ่งช้าๆ ทำยากๆ ต้องขยัน แสดงว่าจ่ายจริง) มีจำนวนคนที่สำเร็จและยังได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตรวจสอบได้ ส่วนใหญ่จะไม่รวยเวอร์ร้อยล้านพันล้าน ขับลัมโบฯ หรือเฟอรารี่มาอวดได้ทุกวี่ทุกวัน ขายตรงน้ำดีจะเน้นการสร้างรายได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ประวัตินักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสามารถตรวจสอบได้ว่าผ่านความยากลำบากมาอย่างโชกโชน (ไม่มีงานไหนง่าย ถ้าคุณไม่ขยัน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ)
แชร์ลูกโซ่: รวยเร็วมาก (เฉพาะคนมาก่อนเท่านั้น) ขับเฟอรารี่หรือลัมโบกินี่มาอวดเป็นประจำ จำนวนคนสำเร็จจะมีน้อยและตรวจสอบเบื้องหลังไม่ค่อยได้ ถ้าใครมาทำทีหลังแล้วลุกช้า มีสิทธิ์จ่ายรอบวง สุดท้ายก็โดนโกง เจ๊ง เสียเงินเสียทองไปตามระเบียบ
หวังว่าจะช่วยนักขายที่ต้องการหารายได้เสริมด้วยการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างถูกวิธีได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมต้องการเห็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่หมดไปจากสังคมนี้ เพราะเรื่องนี้สร้างความเสียหายให้กับคนที่ไม่รู้ อยากรวย มานักต่อนักแล้วครับ
ภาพจากคุณ LiverLife สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
Comments
0 comments