เขียนเสือให้วัวกลัว

บทความนี้เขียนขึ้นสำหรับคนระดับผู้บริหารและผู้จัดการทุกหมู่เหล่านะครับ เราจะมาว่ากันเรื่อง “เขียนเสือให้วัวกลัว” เว้ากันซื่อๆ ก็คือคุณไปตั้งกติกาการทำงานอะไรแปลกๆ เพื่อให้ลูกน้องทำงานได้ดีขึ้นแบบ “ไม่เข้าท่า” นั่นเองครับ

อย่างที่บอกคือการเขียนเสือให้วัวกลัวนั้น แปลว่ายังไงวัวมันก็ไม่กลัวหรอกคับ ดังนั้นกติกาอะไรแปลกๆ ที่คุณสร้างมา ผมจะบอกว่ามันไม่ได้ช่วยให้ลูกน้องคุณทำงานได้ดีขึ้น ถ้าอ่านแล้วก็เลิกทำซะนะครับ เพราะมันไม่มีผลดีอะไรต่อการขายเลยแม้แต่นิดเดียว

1. เช็คลูกน้องว่าอยู่หน้าคอมตลอดเวลาทำงาน

เรื่องนี้เป็นดราม่าตามพันทิปเพราะว่าประสบการณ์ที่แต่ละคนโดนนั้นมันช่าง “ปัญญาอ่อนสิ้นดี” ผมขอบอกเลยว่าเลิกได้เลิกเถอะครับ บางบริษัทถึงขั้นเอาโปรแกรมมานั่งจับหน้าคอมว่าพนักงานทำงานอยู่จริง เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อใจในช่วง Work from home บอกตรงๆ ครับว่าคงมีบ้างที่พวกเขาอู้งาน ในออฟฟิศจริงก็มีอยู่แล้ว เช่น ไปสูบบุหรี่ ไปซื้อกาแฟ ไปเม้ากับคนในแผนกอื่น ฯลฯ ดังนั้นถ้าอยากให้พนักงานมีประสิทธิภาพก็ควรมี KPI ตรวจสอบพนักงานที่ดีกว่านั้นจะดีกว่าครับ

2. ข่มขู่พนักงานที่ทำไม่ได้ตามเป้าหมาย

วิธีนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนที่งานบริษัทนั้นหายาก พนักงานต้องจงรักภักดีต่อองค์กร การข่มขู่จึงได้ผล เช่น ขู่ตัดเงินถ้าไม่อัพเดทเซลล์รีพอร์ต มาสายปรับตัง ออกใบเตือนเมื่อยอดขายไม่ตรงตามเป้า ฯลฯ แต่ถ้าเป็นสมัยนี้เกรงว่าคุณจะถูกมองว่าเป็นเจ้านายที่ห่วย วุฒิภาวะต่ำ ทั้งๆ ที่มีวิธีที่ดีกว่านั้นเยอะแยะ เกรงว่าใช้วิธีนี้ไปเรื่อยๆ แล้วพนักงานที่เก่ง (แต่คุณมองว่าไม่เก่ง) จะได้งานใหม่แล้วหนีไปหาอนาคตที่ดีกว่า ส่วนคุณก็ไม่รู้ตัวว่าห่วยเรื่องอะไรแล้วก็กลายเป็นเจ้านายที่ล้มเหลว

3. ด่าหรือสอนลูกน้องกลางที่ประชุม

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการทำงานที่ไม่ได้เรื่องเท่าใดนัก เป็นไปได้ว่าเจ้านายคนนั้นต้องการจะโชว์พาว ยิ่งถ้าเป็นเจ้านายระดับผู้จัดการแล้วต้องประชุมกับระดับ CEO โดยมีคุณเข้ามาอยู่ในห้องประชุมด้วย การโชว์อะไรทำนองนี้ เช่น สอนงาน สั่งงาน หรือแม้แต่ด่าลูกน้องกลางที่ประชุม เรื่องนี้ไม่ส่งผลดีเลยสักนิด ลูกน้องจะคิดว่าตัวเขานั้นโง่ในสายตาคนอื่น หรือไม่ก็เสียหน้า ผลก็คือนอกจากลูกน้องจะไม่กลัวแล้ว พวกเขาก็พร้อมที่จะหนีไปหาอนาคตใหม่ๆ ได้ทันที

4. สั่งให้ลูกน้องโทรหาลูกค้าแบบไร้แผนการ

เป็นคำสั่งชุ่ยๆ เลยก็ว่าได้สำหรับผู้จัดการที่ไม่เก่ง พวกเขามองเพียงแค่ตัวเลขที่ขาดหายและสั่งให้ลูกน้องโทรเข้าไปขายให้มากที่สุดโดยไม่มีกลยุทธอะไรเลย เช่น สคริปต์ที่ดี โปรโมชั่นใหม่ๆ หรือข่าวดีต่างๆ เพื่อให้นักขายมีจุดประสงค์ในการโทรหาลูกค้าแบบได้ผล

5. บ้าอำนาจหรือตำแหน่ง เบ่งใส่ลูกน้องจนเกรงใจ

เรื่องนี้บางคนพอได้เป็นใหญ่เป็นโต หัวโขนที่สวมอยู่ทำให้คุณกลายเป็นคนที่บ้าอำนาจ ลูกน้องมาพูดเล่น คุยเล่นก็ไม่ได้ มีช่องว่างระหว่างตำแหน่งหรือวัยมากเกินไป ทำให้ลูกน้องกลัวและเบือนหน้าหนี จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เกรงใจอะไรคุณหรอกครับ พวกเขาแค่เบื่อที่จะคุยกับคุณต่อเท่านั้นเอง ยามทำดีก็ดีไป แต่ถ้ายามล้มหรือต้องการแบ็คอัพสนับสนุน คุณจะไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียวครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts