ทำไมคุณถึงต้องมอบ 'รางวัลชีวิต' ให้ตัวเองอยู่เสมอ

บทความนี้จะพูดถึง “รางวัลชีวิต” ที่แต่ละคนล้วนมีความต้องการที่ไม่เท่ากันนะครับ บางคนอาจมองว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ บางคนบอกว่าต้องเป็นรถคันหรู หรือบางคนบอกว่าขอแค่มีครอบครัวที่อบอุ่นก็พอแล้ว

ผมเข้าใจดีครับว่ายุคนี้เป็นยุคที่ใครๆ ก็บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี (ซึ่งจริงๆ ก็เห็นบ่นว่าไม่ดีเป็นสิบปีแล้วมั้ง) เป็นยุคข้าวยากหมากแพง ข้าวของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้หลายคนมักบอกกันว่าควรประหยัดและอดออมหรือเอาเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่งอกเงย ซึ่งก็ถูกแล้วครับ อยากรวยก็ต้องอดทน ขยัน ประหยัด

ถ้าคุณประกอบอาชีพอื่น ผมก็คิดว่าคุณควรประหยัดอดออมนะครับ แต่อาชีพนักขายเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ “เงินๆ ทองๆ” และเป็นอาชีพที่ทำมากได้มาก ดังนั้นการมอบรางวัลชีวิตให้กับตัวเองคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับ “การใช้เงิน” ให้สมกับความเหนื่อยที่หามาอย่างยากลำบากและสุจริตยังไงล่ะครับ

การใช้จ่ายอย่างรับผิดชอบ ประเมินกำลังซื้อของตัวเองให้ถูกต้อง และวางแผนการใช้เงินอย่างเป็นระบบต่างหากที่จะทำให้คุณสามารถเป็นคนรวยและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ชีวิตของคุณจะมีความหมายเป็นอย่างมาก มาดูเหตุผลกันเลยครับว่าทำไมคุณถึงต้องมอบรางวัลชีวิตให้ตัวเองอยู่บ่อยๆ

1. เพราะการให้รางวัลตัวเองคือการตอบสนองความต้องการที่ซ่อนอยู่ของคุณเอง

คุณเองทำงานรับใช้ลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ แต่บางครั้งก็ลืมหันไปมองความต้องการของตัวเอง โดยเฉพาะความต้องการที่เป็นรางวัลเกี่ยวกับวัตถุ จงลองหันไปถามตัวเองบ้างนะครับว่าในขณะนี้คุณอยากได้อะไรที่เป็นเป้าหมายที่ยาก แต่ก็ไม่ถึงกับเกินความสามารถมากเกินไป เช่น ตอนนี้ในใจคุณอยากได้นาฬิกาหรู รถคันใหม่ บ้านหลังใหม่ ท่องเที่ยวต่างประเทศ กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯ จงลองตั้งเป้าหมายและลงมือทำให้สำเร็จเพื่อมอบรางวัลให้ตัวเองให้ได้ เชื่อเถอะครับว่าตัวคุณนี่แหละที่เป็นคนที่ปลื้มใจที่สุดกับการได้มันมาครอบครอง ผมเองมักจะเห็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จซื้อของที่สมฐานะของพวกเขาอยู่เสมอ

2. เพื่อกระตุ้นให้คุณตั้งเป้าหมายใหม่ๆ อยู่เสมอ 

การได้มอบรางวัลชีวิตอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณรู้สึก “หิวกระหาย” ที่จะได้มันมาครอบครองอีกครั้ง โดยเป้าหมายก็จะใหญ่ขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งผมถือว่าดีมากเพราะคุณก็จะลงมือทำงานให้หนักขึ้นๆ มองหาหนทางสร้างรายได้เพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ให้มากขึ้น เช่น คุณซื้อรถคันแรกคือโตโยต้า คุณอยากขี่เบนซ์ จึงลงมือทำงานหารายได้มากขึ้นจนมีปัญญาซื้อเบนซ์ คุณจึงตั้งเป้าหมายใหม่นั่นคือการซื้อรถสปอร์ตยี่ห้อปอร์เช่ จากนั้นคุณก็ลงมือทำงานให้หนักกว่าเดิม ฉลาดกว่าเดิม ลงทุนมากกว่าเดิม จนในที่สุดคุณก็บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ เชื่อผมมั้ยครับว่าฐานะและฝีมือการทำงานของคุณจะดีขึ้นเป็นเงาตามตัวตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้

3. เพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

ยุคนี้ต่างกับยุคคุณพ่อคุณแม่ของคุณที่เป็นคนยุคหลังสงครามโลก (Baby Boomers) หรือคนวัย Gen-X ที่บางคนก็ย่างเข้าสู่วัย 50 แล้ว พวกเขาจึงบอกคุณเสมอว่าต้องประหยัด อดออม อะไรทำนองนี้ พวกเขามาจากยุคแห่งการทำงานหนักและการลาออกจากงานไปทำธุรกิจหรือเปลี่ยนงานบ่อยๆ ย่อมเป็นเรื่องที่เสี่ยง เพราะโอกาสในการทำงานหรือแสวงหาความร่ำรวยไม่ง่ายเหมือนยุคไอทีเฟื่องฟู ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสแห่งชีวิตไปพอสมควร ถ้าคุณยังมีเวลาและเป็นคนหนุ่มแน่น จงให้รางวัลตัวเองชิ้นสำคัญอย่างการเที่ยวเมืองนอก เพื่อออกไปท่องโลกกว้าง เพิ่มความหิวกระหายจนอยากไปแล้วไปอีก เชื่อผมเถอะว่าเที่ยวเมืองนอกตอนวัยรุ่นกับเพื่อนนั้นโคตรมันส์ครับ

4. เพื่อให้คุณเลิกเป็นคนที่เอาแต่โทษตัวเอง

คนล้มเหลวมีสองแบบ แบบแรกคือคนที่เอาแต่โทษแต่คนอื่นแต่ไม่เคยมองตัวเอง แบบที่สองคือคนที่เอาแต่โทษตัวเองและไม่ยอมลงมือทำอะไร (ย้อนแย้งดีเนอะ) การโทษตัวเองซ้ำๆ จะเป็นการ “สะกดจิตตัวเอง” ให้เชื่อว่าตัวเองไม่มีทางประสบความสำเร็จหรือเป็นคนที่ล้มเหลว (ผมก็เคยเป็นครับ) วิธีเอาชนะเรื่องนี้คือการตั้งเป้าหมายว่าถ้าตัวเองทำงานหรือทำอะไรได้ดีขึ้นก็จะมีกติกาว่าจะให้รางวัลตัวเอง ผลก็คือคุณจะเริ่มเป็นคนที่มีความมั่นใจ เอาชนะปัญหาและอุปสรรคได้ทีละเล็กทีละน้อย จากนั้นก็จะเป็นคนที่รู้จักเคารพตัวเองและนับถือตัวเองซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จครับ

5. เพื่อทำให้คุณเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง

ความภาคภูมิใจ (Self-Esteem) ถือว่าเป็นบุคลิกของคนที่ประสบความสำเร็จ การตั้งรางวัลแห่งความสำเร็จอย่างพวกทรัพย์สินหรือเงินทองจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณลงมือทำจนบรรลุเป้าหมายให้ได้ ความภาคภูมิใจที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ดีและได้รับความนับถือจากผู้อื่นก็คือคุณสร้างมันเองกับมือ ที่สำคัญคือคุณจะสามารถควบคุมชีวิตของตนเองและจะรู้ว่าเงินสามารถซื้ออะไรก็ได้เกือบทุกอย่างจริงๆ ขนาดเวลายังสามารถซื้อได้ด้วยเงินเลยครับ

นี่คือปรัชญาการใช้ชีวิตของผมที่มักจะมอบรางวัลให้ตัวเองอยู่บ่อยๆ จนทำให้ผมมีทุกวันนี้และอยากจะให้ทุกคนได้มอบรางวัลให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น