ผมขอแนะนำให้คนไทยให้เรียนรู้ทักษะการขายตั้งแต่วัยเรียน เพราะอะไร มาดูกัน
การขายเป็นศาสตร์หนึ่งเดียวที่ “ระดับมหาวิทยาลัยไม่มีสอน” เชื่อผมเถอะว่าในไทยหรือมหาวิทยาลัยระดับโลกนั้นไม่มี “คณะการขายศาสตร์” (Faculty of Sales) ให้คุณได้เลือกเรียนอย่างแน่นอน เต็มที่ก็มีแต่คณะบริหารธุรกิจ การตลาด การเงินหรือคณะเศรษฐศาสตร์ คณะบัญชี อะไรทำนองนั้น
ซึ่งแม้แต่สถาบันศศินทร์ที่ผมเรียนอยู่ก็ไม่มีการสอนเรื่องขายแต่อย่างใดครับ ระดับป.ตรี ไม่ต้องพูดถึง ทั้งๆ ที่มันคือวิชาหาเงินและสำคัญต่อธุรกิจแบบองค์กร (B2B) ที่สุดด้วยซ้ำ (ส่วน B2C คือการตลาด) สินค้าเทพแค่ไหนแต่เซลล์ไม่ได้เรื่อง ยังไงก็เจ๊งครับ เพราะคู่แข่งไล่บดขยี้ธุรกิจคุณด้วยทักษะการขายและทีมขายที่เหนือกว่า
ผมเชื่อว่าถ้าคนไทยมีทักษะการขายที่ยอดเยี่ยมและมีทักษะทางภาษาอังกฤษที่ดี ป่านนี้ประเทศเราล้ำหน้าเหนือประเทศสิงคโปร์หรือประเทศที่เจริญแล้วอีกหลายๆ ประเทศ ลองคิดดูสิครับว่าถ้าชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน มีทักษะการขายและต่อรองเจรจาผลประโยชน์ รับรองว่านายหน้าหรือพ่อค้าคนกลางมีร้องแน่นอน พวกเขารวยขึ้นแน่ครับ
ผมจึงอยากให้คุณอ่านเหตุผลจากผมซักนิดว่าทำไมวัยรุ่น วัยเรียน โดยเฉพาะนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยควรมีทักษะการขายเป็นวิชาติดตัวเอาไว้ รับรองว่าอนาคตคุณไปโลดและพาประเทศชาติให้ก้าวไกลกว่านี้ได้แน่นอน
1. เป็นทักษะในการช่วยให้คุณได้เพื่อนที่ดี
หนึ่งในทักษะการขายที่สำคัญคือ “การสร้างความน่าเชื่อถือ” ซึ่งอย่าเข้าใจผิดว่าคุณจะต้องมีทักษะการขายตั้งแต่วัยเรียนเพื่อไปชวนเพื่อน “ทำธุรกิจบางอย่าง” แบบฮาร์ดเซลล์จนคนอื่นรำคาญนะครับ แต่มันคือการวางตัวที่สุขุมและทำตัวให้มีประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมชั้นต่างหาก และมีทักษะในการประเมินการให้และการรับ เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียผลประโยชน์เกินไปจนถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยการปฎิเสธที่มีเหตุผลและนุ่มนวล ทักษะการขายจะทำให้คุณมีทักษะการฟังผู้อื่นที่ดี ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนและมีสมาธิในการเรียนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรู้จัก “เลือกคบเพื่อน” ที่เป็นคนดีและช่วยให้คุณได้ดี ตัวคุณเองก็มีประโยชน์ต่อพวกเขา ไม่ใช่เป็นตัวถ่วงของกลุ่มอย่างเดียว
2. เป็นทักษะการเอาตัวรอดใน “เกมชีวิตจริง”
ทักษะการขายจะทำให้คุณไม่อดตายและมีสิทธิ์ได้งานดีๆ ในชีวิตจริง โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นทำงานใหม่ คุณจะมีโอกาส “ขายตัวเอง” เพื่อให้ได้งานดีและมั่นคงตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์งาน การใช้คำพูดและเลือกนำเสนอที่น่าเชื่อถือจะเปิดโอกาสให้คุณได้งานที่ดีกว่า ที่สำคัญคือต่อให้คุณหางานไม่ได้เลย การสมัครเป็นพนักงานขายถือว่าเป็นงานที่เปิดรับมากที่สุดและถ้าคุณมีพื้นฐานการขายที่ดี คุณจะสามารถเติบโตในสายงานนี้และกลายเป็นนักขายมือทองที่ใครๆ ก็ต้องการตัว เพราะงานขายคือเส้นเลือดใหญ่ที่ค้ำจุนธุรกิจทุกอย่างบนโลกนี้
3. เป็นทักษะที่ช่วยให้คุณเติบโตและก้าวหน้าในสายงานมากที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเรียนจบสาขาไหนก็ตาม หรือประกอบอาชีพที่ไม่ได้เป็นนักขายโดยตรง แต่ถ้าคุณเอาทักษะการขายมาฟิวชั่นกับอาชีพที่คุณทำอยู่ รับรองว่าคุณไปไกลกว่าเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันจนถึงขั้นประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลย ตัวอย่างอาชีพที่ไม่เกี่ยวกับนักขายที่ฟิวชั่นกับทักษะการขาย มีดังนี้
ครู อาจารย์ + การขาย = เปิดสถาบันกวดวิชาที่ต้องขายให้กับนักเรียน นักศึกษาจนร่ำรวย
แพทย์ สัตวแพทย์ ทันตแพทย์ = มีคลินิกเป็นของตนเองที่เติบโตอย่างยั่งยืน คนไข้ติดใจ มีโปรฯ ใหม่ๆ ตลอดเวลา
วิศวกร ช่างเทคนิค = เปิดบริษัทเป็นของตนเองที่ต้องหาลูกค้าแบบองค์กร โดยมีทักษะความเป็นช่างที่ได้เปรียบ
นี่คือตัวอย่างคร่าวๆ ของอาชีพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายเท่าไหร่ แต่เมื่อเอาทักษะการขายมาผสมผสาน ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเป็นของตนเองได้ในอนาคต พูดง่ายๆ ก็คือถ้าจะต่อยอดให้เกิดเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ยังไงก็ต้องมีทักษะการขายที่เป็นใบเบิกทางสู่โลกธุรกิจนั่นเองครับ
4. เป็นใหญ่เป็นโตในองค์กรได้รวดเร็วสุดๆ
ถ้าคุณทำงานในองค์กรอะไรก็ตาม แล้วสามารถทำเงินให้กับองค์กรได้ คุณย่อมกลายเป็นคนสำคัญและมีค่าตัวแพงกว่าตำแหน่งใดๆ ก็ตามในองค์กร ไล่ตั้งแต่ค่าคอมมิชชั่นที่ต้องได้ ไปจนถึงการโปรโมทตำแหน่งที่เร็วจนแซงคนอายุมากกว่าหรืออยู่มานานกว่า ถ้าองค์กรไม่เห็นค่า บริษัทคู่แข่งหรือบริษัทระดับโลกย่อมเห็นแววในตัวคุณและจ้างคุณด้วยค่าเหนื่อยระดับ 2-3 เท่า ไม่ยากครับเพียงแค่ขายเก่งก็ไปไกลกว่าคนรุ่นเดียวกันแล้ว
5. อยากรวยต้องขายเป็น
ถ้ามีความฝันว่าอยากรวยเพราะบ้านจน หรือว่าบ้านรวยอยู่แล้วแต่ต้องรับหน้าที่เป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัว ยังไงก็ต้องมีทักษะการขาย เพราะถ้าไม่มีหรือขายไม่เป็น ทำธุรกิจเองก็คงไปได้ไม่ไกลหรือไม่เข้าขั้นรวย เต็มที่ก็พออยู่ได้ไปจนถึงเจ๊ง หรือการเป็นผู้สืบทอดกิจการ แต้มต่อกับแต้มบุญมีเยอะ แต่ถ้าขายไม่เป็นยังไงก็แพ้คู่แข่งที่จะบี้คุณให้แหลกละเอียดด้วยทีมขายหรือทักษะการขายที่เหนือกว่า ทำไปก็ไม่น่ารอด เผลอๆ เจ๊งที่รุ่นคุณด้วยซ้ำไปครับ
นี่คือเหตุผลที่คุณควรเรียนรู้หรือหาประสบการณ์ด้านการขายตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนก็เข้ามาอ่านบทความผมนี่แหละครับ ผมทำให้คุณฟรีๆ เลย
Comments
0 comments