ทำไมอาชีพนักขายถึงเป็นงานแรกเมื่อเริ่มทำงานที่เยี่ยมที่สุด

มีข้อความส่งเข้ามาแชร์ประสบการณ์เรื่องอาชีพนักขายโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ว่าพวกเขามีความสนใจที่จะเริ่มต้นอาชีพการทำงานหลังจากเรียนจบแล้ว ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

เนื่องจากอาชีพนี้สมัยผมยังเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ที่บ้านผมมักจะพูดว่าอาชีพนี้ดูเหมือนนักตื๊อ แบกเครื่องใช้ไฟฟ้าเคาะประตูขายตามบ้าน หน้าตาดูไม่ค่อยมีบารมีพิกล เป็นอาชีพที่ถูกเหมารวมว่าเหมือนกับ “แมลงสาบ” เลยก็ว่าได้

นอกจากดูไม่ค่อยเท่ห์แล้ว ยังมองไม่เห็นว่าอาชีพนี้มีความมั่นคงได้อย่างไร เวลายอดไม่มีก็หน้าดำคร่ำเครียด โดนเจ้านายด่า แถมยังโดนไล่ออกง่ายอีกต่างหาก แถมยังต้องเอาใจลูกค้าดุจพระเจ้า เขาให้ทำอะไรก็ต้องทำ เช่น ใช้ให้ไปซื้อข้าวซื้อน้ำ หรือแม้แต่ “รับลูก” ของลูกค้าที่หน้าโรงเรียนเลยก็มีเพื่อเอายอดขาย

แต่เพราะเหตุไฉน อาชีพนักขายไม่ว่าจะเป็นแบบ B2C (Business-to-Customer) เช่น นายหน้า นักขายประกัน ขายตรง ขายรถ ฯลฯ กับแบบ B2B (Business-to-Business) เช่น นักขายองค์กร วิศวกรขาย ดีเทลยา ฯลฯ ถึงได้รับความนิยมมากขึ้น มันคงมีอะไรที่ดีกว่าแค่ “ค่าคอมมิชชั่น” สำหรับการทำมากได้มากเป็นแน่

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กรุ่นใหม่ จบใหม่ ควรเลือกทำงานในตำแหน่งฝ่ายขายก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากอาชีพนี้มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่เยอะมากๆ มาดูเหตุผลของผมกันเลยครับ

ปล. บทความนี้เป็น “ความเห็นส่วนตัว” ของผมเองนะครับ ไม่ได้มีเจตนาพูดถึงอาชีพอื่นว่าไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่างานขายแต่อย่างใด 

1. เป็นตำราสอนธุรกิจที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณ “ขายอะไรก็ได้” บนโลกนี้

ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ต้องการประสบความสำเร็จและอยากเป็นคนรวยอย่างขาวสะอาด “การขาย” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือนักธุรกิจระดับใดก็ตาม ถ้าคุณอยากสำเร็จ คุณต้องลงมือขายของเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ได้ แต่แน่นอนว่าแทบทุกคนไม่เคยเรียนรู้การขายมาก่อน ที่บ้านไม่ได้มีกิจการใหญ่โตเพื่อเรียนรู้งาน ที่สำคัญคือ “มหาลัยไม่มีสอน” ซึ่งก็น่าแปลก เพราะขนาดสาขา “การตลาด” ยังมีหลักสูตรสอนอยู่ในคณะบริหารธุรกิจเลย แต่สาขา “การขาย” ไม่มีมหาลัยไหนเปิดสอน จึงไม่แปลกที่คุณจะไม่ได้เก่งขายแต่เกิด

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้เมื่อเลือกงานขายเป็นอันดับแรกก็คือ “ตำราทำธุรกิจและการขาย” จากการลงมือทำจริง มีกุนซือหรือโค้ชคอยกำกับให้ตั้งแต่แรก ซึ่งก็คือ “เจ้านาย” กับทีมงานของคุณนั่นแหละครับที่จะคอยสอนคุณ (ดีไม่ดีค่อยว่ากันอีกเรื่อง) แถมยังได้เงินใช้ทุกเดือนอีกต่างหาก (ฮา) ที่สำคัญคือได้ลงมือทำจริงต่อหน้าลูกค้าของคุณ คุณจะเริ่มมีพัฒนาการที่ดีจากประสบการณ์อันแสนล้ำค่านี้ ที่สำคัญคือไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม คุณสามารถลงมือขายได้ ไม่ว่าจะย้ายไปขายอย่างอื่นหรือทำธุรกิจเอง เพราะคุณได้เรียนรู้ตำราเล่มสำคัญนี้แล้วไงล่ะครับ

2. เป็นอาชีพที่ยกระดับการสื่อสารเพื่อให้คุณก้าวขึ้นสู่ระดับมืออาชีพ

ทักษะการสื่อสารคือปัจจัยที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม แม้แต่แพทย์ก็ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยมเพื่ออธิบายการรักษาให้กับคนไข้หรือทีมแพทย์อย่างไม่มีข้อผิดพลาด นักบินก็ต้องสื่อสารกับหอบังคับการหรือลูกเรืออย่างถูกต้องชัดเจนเพื่อให้การเดินทางนั้นราบรื่น เป็นต้น โลกของการทำงานเองก็เช่นกันครับ ถ้าคุณสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้ไม่ดี เลวร้ายที่สุดคือถึงขั้นเกลียดขี้หน้า โดนนินทา ไม่มีใครเอา และโดนไล่ออกไปได้เลย การสื่อสารที่ย่ำแย่ทำให้ชีวิตการทำงานของใครหลายๆ คนพังมานักต่อนักแล้ว

อาชีพนักขายจะช่วยฝึกฝนคุณจากการลงมือทำจริง ไล่ตั้งแต่การสื่อสารกับลูกค้าอย่างมืออาชีพ มีมารยาททางสังคมที่ดี เลือกใช้คำพูดที่น่าฟังและน่าเชื่อถือ ต่อให้คุณเป็นนักขายสไตล์ขี้โม้พูดจาไม่ได้เรื่องหรือพูดไม่เก่ง ขี้อาย คุณก็จะค่อยๆ แก้ไขและพัฒนาทักษะนี้จากการเป็นนักขายได้ตลอดครับ ขอเพียงแค่รู้ตัวเองและแก้ไข เพราะถ้าคุณไม่ทำ ผลลัพธ์ก็คือ “ขายไม่ได้” ซึ่งอาชีพนี้ต้องขายได้ถึงจะมียอดเสียด้วยสิ ถ้าคุณทำไม่ได้คุณก็โดนไล่ออกอยู่ดี ความกดดันด้านอาชีพที่จำเป็นจะต้องให้คุณเป็นนักสื่อสารที่ดีจะช่วยพัฒนาคุณและทำให้คุณกลายเป็นนักธุรกิจมืออาชีพได้แน่นอนครับ

การโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญ ถ้าคุณได้วิชานี้จากการขายไปแล้ว คุณสามารถเป็นนักสื่อสารที่ดีเพื่อให้เกิดความร่วมมือจากทีมงานหรือลูกค้าได้เป็นอย่างดี แก่นแท้ของการโน้มน้าวมาจากทักษะการสื่อสารที่เริ่มตั้งแต่การถามคำถาม นำเสนอให้ตรงใจผู้ฟัง และการเป็นนักฟังที่ดีครับ คุณจะได้รับประสบการณ์อันเยี่ยมยอดนี้จากการขายแน่นอน ขอเพียงแค่คุณหมั่นฝึกฝนและลับคมทักษะการสื่อสารจากของจริงอยู่เสมอ

3. เป็นอาชีพที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในชีวิตให้กับคุณ

ความมั่นใจที่ว่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณมีร่างกายแข็งแรง สูงใหญ่ ต่อยตีเก่ง จึงสามารถกร่างไปทั่วและไม่กลัวจิ๊กโก๋หน้าปากซอยนะครับ (ฮา) แต่เป็นความมั่นใจพื้นฐานว่าตนเองนั้นจะสามารถประสบความสำเร็จ สามารถทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต (แถมยากซะด้วย) นั่นก็คือการขายสินค้าและปิดการขายต่อหน้าลูกค้า เชื่อเถอะว่ามีไม่กี่คนหรอกที่ได้ลิ้มรสรสชาติแห่งความสำเร็จนี้ถ้ายังเป็นเด็กจบใหม่ ยิ่งที่บ้านไม่ได้มีธุรกิจอะไรก็เลิกพูดได้เลย ความมั่นใจเมื่อปิดการขายได้เรื่อยๆ จน “คุ้นลิ้น” แห่งความสำเร็จจะเป็นจุดกำเนิดที่จะทำให้คุณ “กล้า” ลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ได้ เช่น การเริ่มทำธุรกิจเป็นของตนเอง ไปจนถึงขายอะไรก็ตามที่ผลประโยชน์เยอะๆ ได้แน่นอน เป็นต้น

คนที่ไม่มีความมั่นใจเลยว่าชีวิตนี้จะประสบความสำเร็จอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน หรือไม่แน่ใจว่าชาตินี้จะเป็นคนรวยได้หรือไม่ (ฮา) อาชีพนักขายจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณได้เลย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่คุณ “ปิดการขาย” ได้สำเร็จ ความมั่นใจคุณจะเพิ่มสูงขึ้นมากเพราะลูกค้าที่ไม่รู้จักคุณมาก่อนได้เชื่อใจ เห็นประโยชน์ และตกลงร่วมทางไปกับคุณ ยิ่งขายสินค้ามูลค่าสูงๆ ได้ก็จะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีค่าสำหรับคุณมากขึ้น เมื่อคุณเข้าใจวิธีการและลงมือทำซำๆ จนความสำเร็จนั้น “คุ้นลิ้น” เมื่อนั่นคุณจะมั่นใจว่าเงินกี่ล้าน กี่สิบล้าน ก็สามารถหาได้แน่นอน

4. เป็นอาชีพที่ทำให้คุณมี “คอนเน็กชั่น” โดยที่ไม่ต้องเกิดมาชาติตระกูลดี ใดๆ ทั้งสิ้น

คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ หลายคนอาจจะเถียงว่าการที่จะประสบความสำเร็จ เป็นคนรวย หรือทำการค้าขายได้รุ่งเรือง คุณจะต้องมีคอนเน็กชั่นที่เยี่ยมยอด พ่อแม่หลายๆ คนจึงเริ่มส่งลูกหลานเข้าเรียนโรงเรียนคนรวยตั้งแต่เด็ก เพื่อหวังว่าลูกชายตอนโตขึ้นจะได้คอนเน็กชั่นสำหรับการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเห็นด้วยและคงนั่งโทษโชคชะตาไปวันๆ ว่าอย่างเราคงไม่มีทางประสบความสำเร็จแน่ เพราะบ้านไม่รวย ไม่มีปัญญาเข้าโรงเรียนดังๆ เหล่านั้น แล้วก็ก้มหน้าก้มตาโทษฟ้าโทษดินไปวันๆ

แต่สำหรับยุคนี้ ผมบอกเลยนะครับว่า “หมดข้ออ้าง” ไม่ว่าคุณจะเกิดมาจน ไม่มีคอนเน็กชั่นอะไรมาก่อนเลย คุณสามารถสร้างได้จาก 0 จากอาชีพนักขาย นี่แหละครับ คอนเน็กชั่นที่สำคัญของคุณคือ “ลูกค้า” ซึ่งจะเริ่มเป็นตั้งแต่ตอนคุณแลกนามบัตร ยกมือไหว้ สวัสดีแต่แรกเลยล่ะครับ มากไปกว่านั้นคือพวกเขาจะเป็นคอนเน็กชั่นที่ “เอาเงินมาให้คุณ” ถ้าคุณขายของได้ ยิ่งถ้าคุณดูแลพวกเขาอย่างสม่ำเสมอตลอด ต่อให้คุณลาออกไปแล้ว พวกเขาอาจจะเป็นลูกค้าในอนาคตให้คุณก็ได้ แถมยังได้คอนเน็กชั่นดีๆ จากคู่ค้า พาร์ทเนอร์ เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง เจ้าของบริษัท ฯลฯ ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ พวกเขานี่แหละจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

ถึงตรงนี้แล้ว พวกคุณสนใจที่จะเริ่มเป็นนักขายกันหรือยังครับ?

แรงบันดาลใจเพิ่มเติม: https://blog.hubspot.com/sales/sales-is-the-best-first-job

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น