ทำไมถึงไม่จำเป็นต้องขายลูกค้าทุกรายเสมอไป
ความพยายาม เป็นสิ่งที่ดีอยู่เสมอครับ โดยเฉพาะนักขายอย่างเราๆ ท่านๆ ความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปิดการขายลูกค้าทุกคนที่เจอหน้าได้ถือว่าเป็นทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ไม่มีใครเถียงแน่นอนครับว่ามันผิด
คุณสงสัยมั้ยครับว่าทำไมหัวข้อในวันนี้ถึงบอกว่าไม่จำเป็นต้องขายลูกค้าทุกรายเสมอไป ทั้งๆ ที่มันเป็นสิ่งที่นักขายต้องทำอยู่แล้ว จงฟังผมให้ดีๆ ครับ
1. มันไม่คุ้มค่า
ลูกค้าคือปัจจัยที่คุณควบคุมไม่ได้มากที่สุด ไม่ว่าใครก็อยากเจอลูกค้าชั้นดี ลูกค้าชั้นดีที่ว่าคือ มีเงิน ไม่เอาราคาถูกที่สุดเป็นตัวตั้ง ซื้อขายกันแบบจริงใจตามสัญญา ไม่มีปัญหาเรื่องเงินใต้โต๊ะ ได้ใช้สินค้าคุณอย่างคุ้มค่าและมีปัญหาน้อย ลูกค้าที่ทำให้คุณไม่คุ้มค่าก็คืออะไรที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมา ไม่ผิดที่คุณจะถอยออกมาเวลาเจอลูกค้าที่พูดไม่รู้เรื่อง เรื่องมาก หรือไม่เข้าใจสิ่งที่คุณนำเสนอเลย (ถ้าคุณมั่นใจว่าทำทุกอย่างแบบมืออาชีพแล้ว) ลูกค้าประเภทนี้ถึงได้มาก็มักจะมีปัญหาตามมาในภายหลัง แถมยังต้องเสียผลประโยชน์มากกว่าแค่การซื้อขายด้วยซ้ำไป
2. มันเสียเวลา
ลูกค้าบางรายที่ติดตามงานเป็นเวลานานเกินค่าเฉลี่ยระยะเวลาที่คุณควรจะปิดงานได้ เช่น ค่าเฉลี่ยการขายงานด้านไอทีของคุณใช้เวลาประมาณ 2 เดือนตั้งแต่เริ่มรู้จักไปจนถึงปิดการขาย คุณพบว่าลูกค้าบางรายเข้าไปตามงานเป็นสิบรอบทั้งเจอหน้าและโทรหาจนเวลาผ่านไปเป็น 3-4 เดือน และยังปิดไม่ได้ซักที ถ้าระยะเวลานานไปกว่านี้ก็ควรหยุดตามงานและเอาเวลาไปหาลูกค้าใหม่จะดีกว่าครับ อย่าลืมว่าการไปเจอหน้าและยังปิดไม่ได้ซักทีจะทำให้คุณเสียเวลาและเสียค่าเดินทาง โดยเฉพาะเรื่องเวลาที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับนักขายเลยก็ว่าได้
3. มันไม่จำเป็น
ไม่จำเป็นต้องขายให้ครบทุกคนที่สามารถขายได้ ยิ่งคุณมีลีดในตลาดจำนวนมหาศาล การเข้าไปขายให้ครบทุกคนจะต้องทุ่มเงินสร้างทีมขายขนาดใหญ่ ซึ่งมันจะทำให้ค่าใช้จ่ายในบริษัทสูงขึ้น หรือถ้าคุณเป็นพนักงานขายทั่วๆ ไป บริษัทจะให้เป้าคุณมาอยู่แล้ว การตั้งใจขายลูกค้าในปริมาณมากจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมหาศาล โดยเฉพาะเวลาที่คุณไม่มีทางฝืนเรื่องนี้ได้เลย การปรับกลยุทธเป็นดูแลลูกค้าในปริมาณที่รับไหวและเน้นการ “ขายเพิ่ม” หรือขายสินค้าใหม่กับลูกค้ารายเดิมก็จะทำให้คุณเหนื่อยน้อยลงและได้ยอดขายเพิ่มขึ้นครับ
Comments
0 comments