ปัจจัยอะไรบ้างที่เอาไว้ใช้คัดเลือกพนักงานขายใหม่

ผมเชื่อว่าผู้บริหารและเจ้าของกิจการทุกท่านกำลังเฝ้ารอสถานการณ์ที่ดีขึ้นในช่วงโควิดอย่างใจจดใจจ่อ ผมเองก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ลุ้นให้ทุกท่านผ่านสภาวะช่วงนี้ไปให้ได้นะครับ 

ก่อนหน้านี้คุณคงเลือกที่จะ “แช่แข็ง” การจ้างพนักงานใหม่เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจที่ตอบยากว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกนานแค่ไหน ผมจึงคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีเพื่อให้คุณได้หยุดพักและกลับมาพิจารณาถึงมาตรการคัดเลือกพนักงานขายใหม่ที่ดีกว่าเดิมอีกครั้งหนึ่ง 

การคัดพนักงานขายใหม่ด้วยปัจจัยที่ถูกต้องและรู้จริงจะช่วยให้คุณมีความพิถีพิถันเพื่อให้ได้พนักงานขายใหม่ที่ใช่มากกว่าเดิม ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือจะแย่มากแค่ไหน ผู้ที่ช่วยให้องค์กรของคุณอยู่รอดหรือเติบโตต่อไปได้ก็คือเหล่าพนักงานขายขั้นเทพนี่แหละครับ 

1. ทัศนคติ (Attitude)

เป็นปัจจัยที่รวมถึงความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ ไปจนถึงความทะเยอทะยาน เป้าหมาย ความต้องการโดยรวมด้วย ซึ่งคุณจะรู้ได้ก็ต้องมาจากการสัมภาษณ์งานตัวต่อตัวเพื่อให้เขาพูดออกมา หรือจะให้ผู้สมัครเขียนแบบเรียงความ (Essay) บรรยายในส่วนนี้เพิ่มเติมก็ได้ ถ้าจะให้ดีควรต้องใช้แบบทดสอบที่ได้มาตรฐานเชิงจิตวิทยา ซึ่งคุณสามารถให้ผู้สมัครลองทำแบบทดสอบได้ฟรีที่ คลิก: https://www.16personalities.com/th ทัศนคติสำหรับว่าที่นักขายยอดเยี่ยมคือความกระหายความสำเร็จในรูปแบบของรายได้หรือตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูงครับ

2. บุคลิกภาพ 

บุคลิกภาพของนักขายที่ดีไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาสวยหล่อหรือโหงวเฮ้งดีอย่างเดียวนะครับ แต่ต้องมีให้ครบ 2 อย่างทั้งแบบภายในและภายนอก รูปโฉมที่ดูดีย่อมสร้างความได้เปรียบเรื่องความประทับใจแรกพบ วาจาที่สุภาพและถูกกาละเทศะก็ย่อมเสริมพลังให้เป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ คุณจะต้องใช้ไหวพริบและประสบการณ์ในฐานะนักธุรกิจที่ต้องคัดเลือกคนที่มีบุคลิกภาพที่ดีเข้ามาอยู่ในทีมให้ได้ นักขายที่ขาดความมั่นใจ บุคลิกไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่รู้จักกาละเทศะย่อมไม่สามารถดีลกับลูกค้าระดับสูงได้ แถมยังมีโอกาสแพ้นักขายของคู่แข่งทันที จงระวังนักขายที่พูดเก่งหรือพูดเรื่อยเปื่อย เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเสียความน่าเชื่อถือในฐานะนักขายได้

3. ประสบการณ์

แน่นอนว่าค่าประสบการณ์ที่สูงลิบลิ่ว (EXP) ย่อมมีมูลค่าสูง ถ้าเทียบกับนักขายผู้ไร้ประสบการณ์ย่อมมีค่าตัวเทียบเท่ากับเด็กจบใหม่ แต่จงระวังนักขายจอมตอแหลที่โกหกประสบการณ์ว่าตัวเองเจ๋งจากที่เก่าให้ดีนะครับ จงให้พวกเขาเล่าด้วยข้อมูลเชิงตัวเลขที่คุณสามารถตรวจสอบได้ (แต่คนมันจะตอแหลก็คงยากอยู่ดี) นอกจากนี้จงดูประวัติการย้ายงานและสินค้าที่พวกเขาเคยขายก่อนหน้านี้ด้วย พร้อมกับคำถามว่าทำไมถึงอยากย้ายมาทำงานกับคุณก็ย่อมวัดผลว่าจริงๆ พวกเขาหนีบริษัทเก่าเพราะจริงๆ แล้วทำงานห่วยหรือว่าเป็นเพราะอยากมาทำงานกับคุณเพราะบริษัทคุณดีกว่ากันแน่

4. เงินเดือนที่ต้องการ

เรื่องนี้ควรถามพวกเขามากๆ นะครับ นักขายที่มีโปรไฟล์ดีและเรียกร้องค่าตัวสูงย่อมน่าสนใจและตรงไปตรงมาเวลาคุณบอกพวกเขาว่ายอดขายจะปรับขึ้นตามฐานเงินเดือน ถือว่าเป็นอะไรที่แฟร์และเป็นเงื่อนไขที่วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย ทำไม่ได้ตามเป้าหมายภายใน 3 เดือนหรือไม่เห็นพัฒนาการที่ชัดเจน คุณก็ยังมีทางเลือกในการตัดสินไม่ให้พวกเขาผ่านโปรฯ ได้เช่นกันครับ แต่วิธีการที่ดีที่สุดคือการยืนตัวเลขตาม “ราคาตลาด” ซึ่งคุณสามารถอ่านแบบสำรวจฐานเงินเดือนจากบริษัท Adecco ฟรี คลิกที่: https://adecco.co.th/en/knowledge-center/category/salary-guide และให้ไม่สูงหรือไม่ต่ำไปกว่าราคาตลาดครับ

5. ความเห็นด้วยของทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากพนักงานขายตัวท็อป

เป็นอีกปัจจัยที่ง่ายและได้ผลดีสำหรับการคัดพนักงานขายใหม่ครับ คุณไม่ควรเป็นผู้คัดเลือกพนักงานขายแต่เพียงผู้เดียว คุณต้องให้คนอื่นมีส่วนร่วมกับการสัมภาษณ์งานโดยเฉพาะฝ่ายบุคคลที่ต้องลงมติเห็นด้วยกับการสัมภาษณ์เชิงบุคลิกภาพและทัศนคติ ส่วนการทดสอบด้านการขายนั้น จงเอาพนักงานขายตัวท็อปเข้ามาสัมภาษณ์กับผู้สมัครเพื่อให้พวกเขาเห็นด้วยกับทักษะการขายและการปรับตัวเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้กับทีมขายครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น