สิ่งมหัศจรรย์ที่เหมือนกันอย่างแปลกประหลาดระหว่างการขายและการจีบสาว

ผมได้ใช้ทักษะการขายมาประยุกต์กับการหาแฟน ผมค้นพบกฎบางอย่างที่มหัศจรรย์ ใครจะเชื่อว่า “การขาย” กับ “การจีบสาว” เป็นสิ่งที่มีความแปลกประหลาดแทบจะเหมือนกันโดยสิ้นเชิง 

ผมก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่า “การขาย” กับ “การจีบสาว” นั้นเหมือนกันคือ คุณไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนอะไรเลยนอกจากตัวคุณเอง ตัวคุณนั่นแหละที่พิชิตใจเธอได้ ไม่ใช่เงินหรือสิ่งนอกกาย คุณไม่จำเป็นต้องรวย จบ มหาลัยที่มีชื่อเสียง นามสกุลดังใดๆ ทั้งสิ้น

คุณเองยังสามารถทำให้ CEO เจ้าของธุรกิจ คนระดับผู้บริหารซื้อสินค้าจากคุณได้เลย แล้วทำไมคุณถึงพิชิตใจของสาวในฝันของคุณไม่ได้ล่ะครับ

คุณผู้ชายครับ ถ้าคุณเข้าใจและเรียนรู้กฎของการขายจากบทความของผมก่อนหน้านี้ คุณจะค้นพบเลยว่าการนำมันมาใช้กับความรักนั้นได้ แถมยังช่วยทำให้คุณตามหาผู้หญิงในฝันที่คุณต้องการ ทำให้ความรักของคุณยั่งยืน นำมาซึ่งความสุขในชีวิตของคุณ

มาดูกฎที่เหมือนกันของการขายและการหารักแท้กันครับ เมื่อทราบแล้วก็จงเรียนรู้และนำมันไปใช้นะครับ

1) ลูกค้าในดวงใจ = เธอในดวงใจ

เป็นสมการง่ายๆ โดยผมขอออกตัวนะครับว่าไม่ได้หมายถึงการให้คุณคิดว่าลูกค้า “ในดวงใจ” ทั้งหมดที่คุณขายได้คือจำนวนผู้หญิงในดสวงใจทั้งหมดที่คุณต้องการนะครับ แต่ผมจะลองให้คุณคิดตามผมดูนะครับ ลองมาคิดตามกันดังนี้

เคยมั้ยครับจากประสบการณ์ของคุณที่เคยขายสินค้ากับบริการตลอดช่วงที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าทุกคนมีลูกค้าในดวงใจเบอร์ 1 ดังนั้นจงขอให้เลือกที่สุดของลูกค้าในดวงใจคนนั้นและหานิยามของลูกค้าเบอร์หนึ่งมาแปลงเป็นผู้หญิงในดวงใจที่สุดของคุณนะครับ

ตัวอย่างเช่น

– ลูกค้าที่ทำกำไรให้คุณมากที่สุด = ผู้หญิงที่สวยที่สุด
– ลูกค้าที่สร้างยอดขายให้คุณมากที่สุด = ผู้หญิงที่น่ารักที่สุด
– ลูกค้าที่สอนคุณบ่อยๆ = ผู้หญิงที่ใส่ใจเราบ่อยๆ
– ลูกค้าที่ชอบคุณ = ผู้หญิงที่ชอบคุณ
– ลูกค้าที่รักคุณ = ผู้หญิงที่รักคุณ

จงตั้งสติและนึกถึงประสบการณ์ทั้งหมดที่เป็นผลให้ลูกค้าซื้อคุณก่อนนะครับ ผมเชื่อว่าเป็นเพราะคุณทำได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่การเปิดการขาย ตามงาน เสนอวิธีแก้ปัญหา ปิดการขาย ดูแลหลังการขาย ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนั้นคุณได้ลงมือทำอย่างประนีต ละเอียด ตั้งใจ รู้จักจังหวะของเกม คุมเกมได้ เอาชนะได้ คุณจงจำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดีเพื่อนำมันมาใช้ในการหาคนที่ใช่สำหรับคุณนะครับ

2) เรียนรู้ลูกค้า = เรียนรู้สิ่งที่เกี่ยวกับเธอ

บ่อยครั้งที่เราทำการบ้านเกี่ยวกับลูกค้าก่อนเข้าพบระหว่างกระบวนการขาย ปิดการขายและดูแลลูกค้าหลังการขาย เช่นธุรกิจของลูกค้า ปัญหาของลูกค้า ความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้า เป็นต้น เพื่อทำให้เรา “เข้าถึง” ใจของลูกค้าและตอบโจทย์หรือเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น แนวโน้มในการปิดการขายก็มีสูงมากขึ้น

ทำไมเราไม่ใช่กฎข้อนี้ในการทำการบ้านเกี่ยวกับเธอก่อนที่คุณจะเริ่มจีบเธอ ระหว่างที่จีบเธอ ไปจนถึงตอนจีบเธอติดแล้วและดูแลเธอหลังจากที่เธอตอบรับรักจากคุณแล้วดูบ้าง เช่น เรียนรู้เบื้องหลังของเธอว่าทำงานที่ไหน เกี่ยวกับอะไร ไลฟ์สไตล์เบื้องต้น สิ่งที่เธอชอบ เป็นต้น ซึ่งยุคนี้มีวิธีที่ง่ายนั่นคือใช้เฟสบุ้ค (Facebook) ในการทำความรู้จักกับเธอ

อาจจะไม่ต้องเป็นเพื่อนกันก็สามารถดูโปรไฟล์คร่าวๆ ได้ เพื่อเก็บข้อมูลก่อนเข้าไปทำความรู้จักกับเธอหรือใช้ในระหว่างที่จีบเธออยู่ก็ได้เพื่อนำไปใช้ในการสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่เธอชอบ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เหมือนกับลูกค้าคือชอบที่จะพูดคุยเกี่ยวกับตัวเอง เช่น ความภาคภูมิใจ กิจกรรมที่ทำ ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

ยิ่งถ้าคุณมีโอกาสพูดหรือทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น ง่ายขึ้น แก้ปัญหาชีวิตได้มากขึ้นเหมือนที่เราทำกับลูกค้า เช่น แนะนำวิธีการถ่ายรูปให้สวย (ซึ่งคุณรู้ว่าเธอสนใจจากเฟสบุ้คเธอ) แนะนำวิธีการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก (ซึ่งคุณรู้ว่าเธอชอบท่องเที่ยว) อาสาไปรับ-ส่งเธอ (ซึ่งคุณรู้ว่าเธอไม่มีรถหรือไม่ชอบขับรถ) เป็นต้น

ซึ่งข้อมูลพวกนี้คุณไม่จำเป็นต้องบอกให้เธอรู้ มันจะทำให้เธอเซอร์ไพรซ์และคิดว่าคุณ “น่าจะ” เข้ากับเธอได้ดี เพิ่มโอกาสในการพิชิตใจเธอจากการนำหลักการขายมาใช้จีบสาวอย่างได้ผล

3) การตามหา Lead = การตามหาเธอให้เจอ

การสร้าง Lead แบบนักขายร้อยล้านที่ผมได้เขียนบทความไปแล้วคือการหาลูกค้าที่เหมาะสมกับสินค้าที่คุณขายเพื่อเป็นการลดเวลาในการตามหาลูกค้าที่ใช่ เช่นประเมินจากอุตสาหกรรม สถานที่ตั้ง ขนาดองค์กร เทคโนโลยีที่ลูกค้าใช้อยู่ เป็นต้น เลือก Lead ของลูกค้าที่คุณสามารถเอื้อมถึงโดยดูจากสินค้าและบริการของคุณเป็นหลก เมื่อคุณได้ข้อมูลจากการสืบค้นมาแล้ว คุณถึงจะเริ่มใช้ทักษะนักขายจากการทำนัดเพื่อเข้าไปขายต่อไปครับ

สำหรับการตามหารักแท้ก็ไม่ต่างกัน คุณต้องตามหาเธอโดยประเมินจากตัวเธอเป็นหลักให้สอดคล้องกับสเปคสาวในฝันที่คุณต้องการโดยใช้หลักการคล้ายๆ กับการขาย เช่น ความสวย อาชีพ กิจกรรม ฐานะ ฯลฯ ที่คุณชอบและเอื้อมถึงซึ่งเหมือนกับการหา Lead ที่บางทีคุณตั้งสเปคว่าอยากมีแฟนเป็นน้องปันปันแต่ตัวคุณ (สินค้า) ไม่มีคุณภาพเพียงพอและไม่มีสิ่งใดที่คุณทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น ง่ายขึ้นได้ อย่างนี้เรียก “เกินเอื้อม” ครับ

ถ้าคุณชอบผู้หญิงฉลาดๆ เวิร์กกิ้ง วูแมน ทำงานเก่ง ดูดี คุณต้องทำการบ้านเกี่ยวกับสิ่งเกี่ยวกับสาวๆ ประเภทนั้นและเริ่มเปิดเกมรุกเพื่อไปเจอหน้าเธอตัวเป็นๆ ให้ได้หรืออย่างน้อยที่สุดเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าไปขอเบอร์เธอ เช่น ส่วนใหญ๋ชอบเข้าฟิตเนสตามห้างฯ ไปร้านนั่งชิลล์แบบมีสไตล์ใกล้ๆ ย่านธุรกิจ ไปผับมีระดับย่านทองหล่อหรือ RCA คุณก็ควรไปหากิจกรรมทำที่นั่นและโผล่หัวออกไปในย่านที่สาวๆ กลุ่มนั้นน่าจะไปกันเยอะๆ หมายความว่าที่นั่นคือสถานที่หา Lead ที่น่าจะมีคนที่คุณต้องการ

เก็ตไหมครับ!!!

4) Elevator Pitch กับลูกค้า = Elevator Pitch กับเธอให้ได้เบอร์

สังเกตไหมครับว่าทำไมผมถึงสอนให้ทุกคนเน้นเรื่อง Elevator Pitch และ First Impression จากการแต่งกาย (ในบทความก่อนหน้านี้) เกี่ยวกับลูกค้าในกรณีที่คุณอยากรู้จักและต้องการได้นามบัตรเพื่อทำนัดต่อไป นั่นเป็นเพราะลูกค้าคงไม่ชอบแน่ๆ ถ้าคุณบุคลิกไม่ดี แต่งตัวไม่ได้เรื่อง พูดเสียงดังเกินไป โม้แต่เรื่องสินค้าของคุณโดยที่มันอาจจะไม่ตอบโจทย์และลูกค้าไม่ต้องการเลยสักนิด 

สุดท้ายคุณก็ทำนัดต่อไม่ได้และขายไม่ได้ คุณจำเปนต้องทำ Elevator Pitch เพื่อได้นามบัตรจากลูกค้าจึงจะสามารถทำให้คุณไปต่อโดยการโทรไปทำนัดวันหลังได้

การเริ่มพูดคุยเพื่อให้ได้เบอร์เธอเองก็เช่นกัน ถ้าคุณเริ่มจากการใช้เทคนิค Elevator Pitch และมี First Impression ที่ดี สุภาพ แต่งตัวดี ถามคำถามที่ทำให้เธอรู้สึกไม่อึดอัด ไม่ทำให้เธอรู้สึกว่าโดนสัมภาษณ์งานอยู่ เช่น คุณทักทายกับเธอและบอกเธอว่าอยากรู้จัก แนะนำตัวสั้นๆ เกี่ยวกับคุณสักเล็กน้อยว่าชื่ออะไร ทำงานเกี่ยวกับอะไร จากนั้นค่อยเริ่มถามเธอจากคำตอบของเธอเองเพื่อให้เรื่องราวนั้นดูต่อเนื่อง พูดจาแบบมั่นใจ จากนั้นให้ขอเบอร์เธอเลยเพื่อเอาไว้โทรไปคุยหรือทำนัดเพื่อให้คุณได้ไปต่อกับการจีบเธอ

นี่มันเทคนิคเดียวกับ Elevator Pitch ชัดๆ จุดประสงค์คือเริ่มทักทาย พูดคุยเกี่ยวกับตัวเองสักเล็กน้อย ถามเธอนิดหน่อยแบบน่าสนใจ มั่นใจ แต่งตัวให้ดี เพื่อเอาเบอร์โทรหรือไลน์จากเธอให้ได้ จากนั้นค่อยเริ่มเกมทำนัดเพื่อเจอเธอครั้งต่อไปครับ

**เคล็ดลับ**
พยายามพูดถึงตัวเองให้น้อยที่สุด ต่อให้คุณขับเฟอรารี่มา ใส่แบรนด์ทั้งตัว แต่คุณขี้โม้ ขี้คุย พูดแต่เรื่องของตัวเอง ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะปฎิเสธคุณ ไม่ได้เบอร์ สุดท้ายคุณก็ไปต่อไม่ได้ เหมือนกับคุณเจอลูกค้านั่นแหละครับ ต่อให้คุณขับเบนซ์มาขาย ใส่โรเล็กซ์มาหา คุณก็หมดสิทธิ์ที่จะได้เบอร์โทรหรือขายต่ออยู่ดี

5) ตื๊อ = แดกแห้วไปซะ

ข้อนี้เหมือนกันเลยครับ เพราะเมื่อใดที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุณตื๊อจนทำให้รู้สึกอึดอัด เริ่มไม่รับโทรศัพท์ รีบคุยแล้ววางสาย ไม่ยอมตอบรับนัด ไม่มีกำหนดที่จะซื้อสินค้าจากคุณ เมื่อนั้นแหละครับคือสัญญานแห่งหายนะเลย คุณต้องรีบถอยห่างออกไปตั้งตัวและให้เวลากับลูกค้ามากกว่านี้ จากนั้นค่อยโทรไปตามงานใหม่โดยเอาข่าวดีไปบอกลูกค้าด้วย

ผู้หญิงเองก็เช่นกัน ถ้าคุณคิดว่าตัวเองทำดีแล้วตั้งแต่แรกและเริ่มจีบมาซักพัก ปรากฎว่ามีสัญญานด้านลบคือเธอเริ่มไม่รับโทรศัพท์ ทักไลน์แล้วไม่ตอบ ปฎิเสธการนัด เป็นต้น ถ้าคุณดันทุรังต่อไปเธอจะโยนคุณไปอยู่ในประเภทผู้ชายที่ “ไม่มีทางเอามาเป็นแฟน” เด็ดขาด เลวร้ายที่สุดคือถูกเธอเกลียดไปเลย ซดแห้วเต็มๆ

ปัญหานี้ส่วนใหญ่ผู้ชายมักจะไม่รู้ตัว เพราะตัวเองตกอยู่ในสภาวะ “ลุ่มหลง (Infatuation)” คือมีความคลั่งไคล้เธอมากจนเกินเหตุ กินข้าวก็นึกถึงแต่หน้าเธอ ทำงานก็นึกถึงแต่หน้าเธอ แม้แต่เจ้านายด่าก็ยังนึกถึงหน้าเธอ

ถ้ามีอาการแบบนี้จงยอมรับมันและหากิจกรรมอย่างอื่นทำ ไม่งั้นคุณจะโดนอาการนี้ครอบงำ คุณจะหยุดตัวเองไม่ได้ คุณจะเริ่มโทรหาเธอบ่อยขึ้น ไลน์ไปทักเธอมากขึ้น รอเธอตอบกลับมานานขึ้น การแสดงออกตรงนี้ทำให้คุณทำอะไรที่มากเกินไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว ทันทีที่ผู้หญิงสัมผัสได้เมื่อไหร่ เธอจะรู้สึกทันทีว่าคุณตื๊อ เมื่อใดที่ตกอยู่ในสภาวะนั้น คุณมีสิทธิ์รับประทานแห้วแทบจะ 100% และหาทางแก้ไขยากมาก

เชื่อผมเถอะ ผมก็เคยเป็น… (ฮา..)

6) เข้าพบลูกค้าสม่ำเสมอ = เข้าพบหน้าเธอสม่ำเสมอ

เห็นด้วยมั้ยครับว่าการเจอลูกค้าเพื่อเปิดการขายในครั้งแรก ลูกค้ามักจะยังไม่ซื้อในทันทีโดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่มีขั้นตอนพิจารณาหลายระดับ เนื่องจากเขายังไม่ไว้ใจคุณ คุณเองก็ต้องใช้การ follow-up ที่ดีและเป็นระบบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวคุณและตัวสินค้าของคุณ การเข้าพบลูกค้าจะทำให้สร้างโอกาสในการปิดการขายได้มากกว่าและลูกค้ายอมคายข้อมูลสำคัญๆ ให้กับคุณด้วยครับ

ซึ่งมันตรงกับกฎของความสม่ำเสมอในการเจอหน้าผู้หญิงที่คุณชอบเหมือนกับการเข้าพบลูกค้าบ่อยๆ เลย คุณต้องพยายามสร้างโอกาสในการนัดพบกับเธอหรือเจอหน้าเธอให้บ่อยขึ้น มีเรื่องราวดีๆ ไปเล่าหรือมีกิจกรรมใหม่ๆ ที่ได้ทำกับเธอย่อมดีกว่าแค่คุยโทรศัพท์ไปวันๆ นานๆ ทุกๆ สามเวลาอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเธอเล่าเรื่องส่วนตัวให้คุณฟังบ่อยๆ เปิดใจกับคุณมากขึ้น คุณก็มีโอกาสทำคะแนนกับเธอและทำให้เธอไว้ใจคุณ เปิดใจรับคุณเป็นแฟนได้ครับ

7) โทรทำนัดลูกค้า = โทรไปเพื่อนัดเดทกับเธอ ไม่ใช่คุยเฉยๆ

กฎที่น่าแปลกประหลาดอีกอย่างนึงเกี่ยวกับการทำนัดกับลูกค้าก็คือถ้าคุณโทรไปทำนัดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ บอกถึงประโยชน์ในการทำนัดที่ทำให้งานของลูกค้าง่ายขึ้นพร้อมกับระบุ วัน-เวลา แบบมีทางเลือกให้ชัดเจน ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่เสียเวลาและมีประโยชน์แน่ๆ ถ้าได้พูดคุยกับคุณต่อหน้าก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการปิดการขายมากขึ้น

การโทรหาเธอก็เหมือนกันครับ จงคิดเสมอว่าโทรไปจีบสาวก็เหมือนกับการโทรไปหาลูกค้า ไม่ควรเน้นคุยทั่วๆ ไปอย่างเดียว เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ต่อให้เธอคุยกับคุณนานๆ แต่สังเกตไหมครับว่าความสัมพันธ์มักไม่คืบเท่ากับการเจอหน้าเพื่อออกเดท จงโทรไปหาเธอเพื่อทำนัดแบบเฉียบขาดคล้ายๆ กับการนัดลูกค้า ชวนเธอไปสถานที่ดีๆ มีประโยชน์ ใช้เวลาไม่นาน เช่นการกินข้าวในช่วงเริ่มต้น ชวนเธอดูหนัง จากนั้นพัฒนาความสัมพันธ์โดยเริ่มจากการสัมผัสเช่นการจับมือ เป็นต้นครับ

8) โดนลูกค้าปฎิเสธ = โดนเธอปฎิเสธคุณ

เคยไหมครับสำหรับการขายให้ลูกค้าบางราย คุณคิดว่าคุณทำเต็มที่แล้วแต่ลูกค้าไม่ซื้อคุณ ปฎิเสธคุณ ไปซื้อกับคู่แข่ง คุณจะรู้สึกผิดหวัง เสียใจ ขึ้นอยู่กับมูลค่าของดีลนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือหาลูกค้าใหม่ทันที ก้าวต่อไป มัวแต่เสียใจเงินในกระเป๋าคุณก็ไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างได คุณสามารถถามลูกค้าได้ว่าทำไมคุณถึงไม่ได้รับเลือกเพื่อทราบสาเหตุและนำมันมาปรับปรุงต่อไป ความสำเร็จก็อยู่ในไม่ไกลแน่นอน

การจีบสาวก็เหมือนกัน จำไว้เลยนะครับว่าต่อให้คุณทำดีแค่ไหน รักเธอมากเพียงไร แต่ถ้าเธอไม่เลือกคุณมันก็ไม่มีประโยชน์ครับ (แรง..) จงรับมันให้ได้แล้วก้าวต่อไป คุณไม่สามารถบังคับเธอให้มารักคุณได้ จงปล่อยเธอไป เอาความผิดหวังมาพัฒนาตัวเอง หาแนวทางใหม่ๆ และลงมือจีบสาวคนใหม่ต่อไป คุณจะเก่ง แกร่ง เข้าใจตัวเองและเข้าใจผู้หญิงมากขึ้น ผู้ชายเวลาที่น่าสมเพศที่สุดคือตอนอกหักครับ ส่วนใหญ่สภาพดูไม่จืดทีเดียว

9) เปย์ลูกค้ามากเกินไป = เปย์เธอมากเกินไป

นี่ก็เป็นอีกความจริงที่เหมือนกันอย่างกับแกะ ผมเคยเล่าไปแล้วว่าการขายไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อของให้ลูกค้าเสมอไป ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ขนม ตีกอล์ฟ กินเหล้า สีหญิง หรือแม้แต่เงินใต้โต๊ะ เพราะของพวกนี้ไม่จีรังยั่งยืนและส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะไม่ซื้อ เสียเงินไปเปล่าๆ ก็มี ยิ่งถ้าคุณเปย์ให้ผิดคน สิ่งที่คุณทำก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องของการเปย์ลูกค้า คุณสามารถพิจารณาได้ตามสมควร เช่นปิดงานได้แล้ว นำกำไรส่วนหนึ่งเลี้ยงลูกค้ากระชับมิตร หรือจัดกิจกรรมทางการขายเช่น ทัวร์ ในข้อแม้ที่ต้องปิดได้จริงๆ

กับผู้หญิงก็เหมือนกันครับ ผมอาจจะผิดนะครับ ไม่ใช่ว่าเปย์แล้วจะไม่ดี แต่คุณไม่ควรเปย์มากเกินไปตั้งแต่แรกเริ่มที่รู้จัก ยิ่งถ้าพยายามโชว์ว่าคุณรวยซื้อของให้เธอตลอด ความสำคัญในตัวคุณจะหมดไปทันที เพราะผู้หญิงจะจัดกลุ่มคุณในหมวดผู้ชายสายเปย์แต่ไม่ใช่ผู้ชายกลุ่มที่ “อยากเป็นแฟนด้วย” คำว่าผู้หญิงชอบคนรวยไม่จริงเสมอไป เพราะผู้หญิงยุคนี้ทำงานเลี้ยงตัวเองได้ดีอยู่แล้วครับ (เผลอๆ หาเงินได้มากกว่าคุณด้วย ฮา..) เพราะฉะนั้นจงใช้ตัวคุณบวกกับการเปย์ที่เหมาะสม เช่นเลี้ยงข้าวง่ายๆ จ่ายสิิ่งเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ให้ของขวัญเซอร์ไพรซ์เธอบ้างแต่ไม่ต้องแพงเกินไป ก็สามารถซื้อใจเธอได้และเพิ่มคะแนนให้กับคุณ โดยที่ไม่ได้เห็นแค่คุณเป็นแค่ตู้ ATM ได้ครับ

สุดท้ายนี้ผมหวังว่าสำหรับแฟนเพจที่ยังโสดนี้จะเข้าใจกฎของการขายที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการจีบสาวได้ทันที ขอให้สมหวังกับความรักและจีบผุ้หญิงในฝันของคุณสำเร็จครับ แอดมินขอบอกเลยว่า “พลังแห่งรัก” นั้นเป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จเลย

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น