เหตุผลที่เด็กรุ่นใหม่สนใจงานขายมากขึ้น
ผมรู้สึกยินดีที่เพจ “กูนี่แหละเซลล์ร้อยล้าน” มีผู้สนใจและกดไลค์เพจนี้ โดยมีสัดส่วนของเด็ก Gen-Z ที่มีอายุตั้งแต่อายุ 18-24 ปี มากถึง 43% และ Gen-Y ตั้งแต่อายุ 25-34 ราวๆ 35% เลยทีเดียว
จากข้อมูลตัวเลขที่ได้มา บ่งชี้ให้เห็นว่าเด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มสนใจด้านงานขายเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของการเป็นผู้ติดตาม ผู้แชร์ข้อมูล ผู้ที่มามีส่วนร่วมกับบทความของทางเพจฯ ทางเซลล์ร้อยล้านต้องขอขอบคุณมากนะครับ
นับว่าเป็นสัญญานอันดีสำหรับผู้ประกอบการและหัวหน้างานที่ดูแลฝ่ายขายโดยเฉพาะ คุณมีโอกาสได้คัดเลือกเด็กรุ่นใหม่ที่จะ “ตบเท้า” เข้ามาเป็นกำลังสำคัญให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้าต่อไปได้แน่นอนครับ
เพราะเหตุใดหนอถึงทำให้เด็กรุ่นใหม่มีความสนใจและอยากทำงานขายกันขนาดนี้ ลองเข้ามาฟังเหตุผลจากประสบการณ์ของผมกันเลยครับ
1. เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เรียนมานั้นไม่ใช่ตัวเอง ไม่ชอบ มีผลการเรียนที่ไม่น่าพอใจนัก
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหลักๆ เลยก็เป็นได้สำหรับใครหลายๆ คน (รวมถึงตัวผมเอง) ซึ่งสมัยเรียนมหา’ลัยนั้น อาจจะได้เรียนในคณะที่ใฝ่ฝันจริงๆ เรียนตามเพื่อน หรือแม้แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนคณะอะไรดี พอได้เข้าไปเรียนจริงๆ กลับพบว่าตัวเองไม่ชอบสิ่งที่เรียนมาเอาเสียเลย สายงานที่รองรับในอนาคตก็ไม่ตอบโจทย์ แถมยังเกรดไม่ดี เกรงว่าจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะบางคณะเป็นสายงานแบบ Specialist เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ เภสัชศาสตาร์ ฯลฯ ซึ่งต้องใช้พรสวรรค์ ความรู้ ความสามารถในการคิดคำนวน ทำให้ภาพที่เคยวาดฝันไว้สมัยเริ่มเรียนปีหนึ่งนั้นกลายเป็นความเกลียดแล้วไม่อยากจะทำงานในสายงานนั้นๆ ในพริบตา
สายงานด้านงานขาย จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เด็กรุ่นใหม่ เพราะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทักษะการคิดคำนวนระดับสูง หรือแม้แต่ผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมมากนัก เพราะการขายคือเรื่องของผลประโยชน์ เป็นเรื่องของการทำธุรกิจร่วมกับบุคคลที่เรียกว่าลูกค้า และต้องพึ่งพาทักษะนิ่ม (Soft Skills) ในระดับสูง ซึ่งมีข่าวดีก็คือทุกคนสามารถฝึกฝนได้ เพราะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสูตรคำนวนอะไรให้ยุ่งยาก สามารถลงมือทำได้ทันที แถมงานขายในหลายๆ สาขาอาชีพนั้นเปิดรับเด็กจบใหม่ที่มีวุฒิที่จบจากสาขา Specialist อีกด้วย เช่น Sales Engineer เป็นต้น ทำให้ถึงแม้ว่าเกรดของคุณจะห่วยแค่ไหน เกลียดสิ่งที่เรียนมามากเพียงใด แต่คุณก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ครับ
2. เพราะอยากรวย
เหตุผลที่ง่ายดายสำหรับคนที่เลือกมาทำสายงานขาย อาจเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่างานขายนั้นอาจจะเป็นสายงานเดียวที่ “ทำมากได้มาก” เพราะผลประโยชน์ที่ต่อเนื่องจากยอดขายก็คือค่าคอมมิชชั่นที่จะเข้ากระเป๋านักขาย มากน้อยขึ้นอยู่กับผลงาน อีกทั้งยอดขายเป็นดัชนีชี้วัดผลการทำงานได้อย่างชัดเจนที่สุด จับต้องได้เป็นตัวเลข มันคือความท้าทายสำหรับพวกเขาในการสร้างรายได้จากงานประจำให้มากกว่าคนรุ่นเดียวกัน งานขายจึงเป็นคำตอบที่ดี
3. เพราะอยากเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่อายุยังน้อย
ถ้าดูรายการอายุน้อยร้อยล้านบ่อยๆ จะพบว่าแทบทั้งหมดล้วนจับงานขายและต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจแทบทั้งนั้น บุคคลสำคัญในเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจจนกลายเป็นเศรษฐีแทบทั้งหมดล้วนจับงานขาย ปัจจุบันนี้ก็ยังยึดงานขายเป็นงานหลักจนสามารถมีเงินทุนในการสร้างชีวิตให้กลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่งได้ พวกเขามีตัวอย่างให้ศึกษาหลายแหล่งจากหนังสือ รายการทีวี คลิปยูทูป ฯลฯ ซึ่งทำให้ความคิดของพวกเขานั้นอยากที่จะประสบความสำเร็จแบบมหาเศรษฐีรุ่นใหม่หลายๆ คน การเข้าสู่ตลาดงานและเริ่มจับงานขายจะเป็นตำราชีวิตที่สำคัญเพื่อทำให้พวกเขาสามารถนำความรู้และประสบการณ์ตรงนี้ไปต่อยอดได้แบบไม่เสี่ยงและสำเร็จ
“การเป็นลูกจ้างตำแหน่งฝ่ายขายคือการเข้าไปเรียนรู้ตำราธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยที่ได้รับเงินเดือน ค่าคอมมิชชั่นไปพร้อมๆ กัน”
นี่คือสุดยอดตำราธุรกิจที่แม้แต่เงินก็ซื้อไม่ได้ครับ
4. เพราะคิดว่าตัวเองมีบุคลิกที่เหมาะกับงานขาย
นักขายหลายๆ ท่านมักผ่านประสบการณ์การทำกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัยมาก่อน โดยเฉพาะกิจกรรมที่เน้นการแสดงออก ใช้ความสามารถทางการพูดและการแสดงเป็นหลัก มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนมากมาย จึงเป็นไปได้ว่าเพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวของพวกเขามักจะบอกกับพวกเขาว่าน่าจะเหมาะกับการทำงานขาย มีบุคลิกภาพที่เป็นคนกล้าพูดกล้าแสดงออก เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทำให้พวกเขามีความมั่นใจและคิดว่าตนเองนั้นเหมาะกับงานขาย จึงเป็นเหตุผลที่ดีทีเดียวถ้าเจอนักขายที่พกความมั่นใจเข้ามาสมัครงาน ซึ่งโดยมากแล้ว บุคลิกของนักขายภายในองค์กรมักจะมีบุคลิกและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาลัยกันเลยทีเดียวครับ
5. เพราะงานขายเป็นอันดับหนึ่งด้านการเปิดรับเด็กจบใหม่มากที่สุด
ผมมีข้อมูลจาก JobThai.com เผยข้อมูลสาขาอาชีพที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่ระดับปริญญาตรีมากที่สุด คือ 1.งานขาย 25.7% 2.งานบริการลูกค้า 9.9% 3.งานอาหาร/เครื่องดื่ม 8% งานวิศวกรรม 7.2% และงานช่างเทคนิค 6.5% ที่มา: https://www.smartsme.tv/content/71939
ซึ่งก็หมายความว่างานขายเป็นงานที่หลายบริษัทต้องการตัวมากที่สุด ไม่ว่าจะมีประสบการณ์หรือไม่มีก็ตาม เพราะงานขายนั้นมีความสำคัญมาก จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เด็กจบใหม่ผู้ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ สามารถลองสมัครและลองทำงานดูก่อนได้ พวกเขาจึงยังมีทางเลือกในชีวิตอยู่เสมอ เผลอๆ ถ้าทำได้ดี ได้นายดี ทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พวกเขาอาจจะฟลุ้กและประสบความสำเร็จด้านงานขายก็เป็นได้
ยินดีด้วยนะครับสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ถ้าคุณอยากรวย อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ ขอบอกเลยว่างานขายสามารถพาคุณไปถึงจุดนั้นได้แน่นอนครับ
Comments
0 comments