ความรู้เกี่ยวกับ Big Data ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจคุณ
Big Data คือศัพท์เทคนิคของวงการไอทีและดิจิทัล มาร์เกตติ้ง (การตลาดแบบดิจิทัล) ซึ่งมีการพูดถึงในวงแคบๆ ก็ประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว ถ้าคุณอยู่ในแวดวงไอทีหรือการตลาดออนไลน์ก็คงไม่แปลกใจสำหรับความสำคัญในเรื่องนี้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณไม่เคยได้ยินมาก่อน นี่คือเรื่องราวดีๆ ที่คุณต้องรู้เพื่อเอาไว้ใช้พัฒนาธุรกิจของคุณ
ผมเองในฐานะ “คนไอที” จากประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และ MBA ของศศินทร์ ก็ถือว่าผมคร่ำหวอดอยู่ในวงการ Big Data มาพอสมควรครับ กอปรกับเคยเป็น Managing Director บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่เป็นเบอร์หนึ่งเกี่ยวกับธุรกิจ Big Data ให้กับแบรนด์สินค้ายักษ์ใหญ่ทั่วฟ้าเมืองไทย จึงอยากให้ข้อมูลเรื่องนี้
Big Data หรือ “ข้อมูลขนาดใหญ่” พูดง่ายๆ ก็คือบนโลกออนไลน์หรือการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต เคยสงสัยมั้ยครับว่าเรากระทำการใดๆ เช่น อัพโหลดรูปลงเฟซบุ้ค ส่งข้อความไลน์ ส่งอีเมล์ ฯลฯ กิจกรรมพวกนี้ “เราไม่สามารถจับต้องได้” เห็นแค่ตาอย่างเดียว แล้วเคยสงสัยมั้ยครับว่าข้อมูลพวกนี้ถูกเก็บไว้ที่ไหน
คำตอบก็คือบนโลกนี้มีเครื่องมือหรือระบบที่เอาไว้ใช้เก็บฐานข้อมูลของคนเป็นพันๆ ล้านคนขนาดใหญ่ เราเรียกถังข้อมูลเหล่านี้ว่า Data Warehouse ซึ่ง Big Data คือกิจกรรมที่ใช้ดึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อใช้ในธุรกิจเรื่องการขายและการตลาดให้เป็นประโยชน์
ลองคิดดูครับว่าถ้าคุณขายสินค้าหรือบริการบางอย่างแล้วคุณรู้มาว่าคนที่คุณไม่รู้จักมาก่อนพึ่งเข้าไปดูเว็บไซต์ เล่นเฟซบุ้ค คลิกดูข้อมูลข่าวสารหรือถามคำถามบางอย่าง ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่าพวกเขามีความสนใจในสินค้า คุณจึงเข้าไปขายพวกเขาด้วยความเร็วสูงสุด คู่แข่งตามไม่ทัน แถมยังนำเสนอลูกค้าได้อย่างตรงจุด ลูกค้าย่อมซื้อแน่นอน
หรือลองสังเกตง่ายๆ ว่าเวลาคุณเข้าไปดูเว็บไซต์บางอย่าง เช่น บ้าน รถ มือถือ ฯลฯ โดยใช้เวลาระยะหนึ่ง พอกลับมาเล่นเฟซบุ้คก็โดนยิงโฆษณาเข้ามาซึ่งใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณพึ่งค้นหา เคยสงสัยมั้ยครับว่าโลกออนไลน์รู้ได้อย่างไรว่าคุณสนใจ คำตอบก็คือมีธุรกิจที่ดึงข้อมูลมาจาก Big Data และรู้ว่าคุณพึ่งทำอะไร จึงยิงโฆษณามาหาคุณไงครับ
นี่คือความรู้แค่ “น้ำจิ้ม” เกี่ยวกับความสำคัญของ Big Data มาดูกันว่าเราสามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้ระบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกันได้มากแค่ไหนสำหรับการพัฒนาธุรกิจของคุณกันเลยครับ
1. ควรรู้ก่อนว่าจะสร้าง Big Data ได้อย่างไร
Big Data ที่ง่ายที่สุดราวกับปอกกล้วยเข้าปากก็คือ “รายงานการขาย” หรือล้ำกว่านั้นก็คือการใช้ระบบ CRM ซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูลลูกค้าที่มีทั้งรายชื่อ ตำแหน่ง ยอดการสั่งซื้อที่ผ่านมา เบอร์โทรติดต่อ ฯลฯ ข้อมูลสำคัญอย่างยอดซื้อที่ผ่านมาที่มีการซื้อซ้ำ ระบบ CRM ที่ดีจะสามารถบอกข้อมูลสำคัญให้คุณรู้ว่าลูกค้ารายนั้นๆ มีพฤติกรรมที่ชื่นชอบหรือสั่งซื้อสินค้ารายการเดิมๆ อยู่บ่อยๆ ทำให้คุณสามารถขายเพิ่มพวกเขาได้ เช่น คิดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อขายในปริมาณเพิ่มขึ้น หรือขายสินค้าใหม่ที่เสริมประโยชน์ให้กับสินค้าเดิมที่พวกเขาใช้ซ้ำๆ อยู่แล้ว เป็นต้น แค่นี้ก็เรียกได้ว่าเป็น Big Data สำคัญสำหรับองค์กรคุณแล้วล่ะครับ สิ่งแรกที่คุณสร้างจะทำเงินให้คุณได้แน่นอน
สิ่งที่คุณต้องเริ่มสร้าง Big Data สำหรับองค์กรคุณก็คือระบบ CRM ที่ดี ซึ่งผมขอแนะนำ JUBILI by BUILK โปรแกรม CRM บริหารงานขายเพื่อธุรกิจ B2B ที่สามารถทำให้คุณสร้าง Big Data สำหรับองค์กรคุณได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว และสามารถทดลองใช้ฟรีได้ที่ คลิก: https://www.builk.com/jubili/jubili-free-trial/
2. เครื่องมือออนไลน์สามารถเก็บ Big Data เกี่ยวกับลูกค้ามาให้คุณได้
การมีเว็บไซต์บริษัทที่มีสินค้า เบอร์ติดต่อ จนทำให้ลูกค้าสนใจและโทรมาหาคุณถือว่าเป็นวิธีการคลาสสิค โดยเฉพาะวิธีการของกูเกิ้ลที่ถ้าคุณจ่ายเงินก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นหน้าแรก (Google AdWord) ลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำแล้วเจอคุณถือว่าพวกเขามีความสนใจอยู่แล้ว ซึ่งถ้าพวกเขาโทรหาคุณก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่มักเข้ามาดูเว็บฯ แล้วก็หายไป (ฮา) จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าว่าใครบ้างที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณแล้วคุณสามารถยิงโฆษณากลับไปหาคนที่พึ่งเข้ามาดู วิธีการนี้เรียกว่า (Retargeting and Remarketing) ซึ่งคุณทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ติดโค้ดของกูเกิ้ลและเฟซบุ้คในเว็บไซต์ของคุณ คุณจะได้ถังข้อมูลที่มองไม่เห็นเพื่อเอาไปทำการยิงโฆษณาในเฟซบุ้คได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถังข้อมูลที่เก็บได้ก็ถือว่าเป็น Big Data เช่นกัน
3. Big Data สามารถใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด
ลองคิดดูว่าถ้า Big Data บ่งบอกพฤติกรรมผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะธุรกิจแบบ B2C เช่น คุณทำธุรกิจยาสระผม คุณพบว่าหน้าร้อนมีคนพูดถึงในโลกออนไลน์ว่าหนังศรีษะค่อนข้างแห้ง ในขณะที่หน้าฝนพบว่ามีปัญหาผมหลุดร่วงเป็นประจำ คุณจึงพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคโดยยึดจากข้อมูลของ Big Data จริง ยิ่งถ้ามีความถี่เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างฉับไว เช่น สภาพอากาศ ชีวิตการทำงาน เวลากลางวันหรือกลางคืน ฯลฯ คุณจึงออกแบบสินค้าและบริการที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าสูงสุด ยอดขายจึงไหลมาเทมาแบบไม่มีฟลุ้กเด็ดขาด
4. ถึงเวลาหรือยังที่ต้องลงทุนกับระบบ Big Data ขนาดใหญ่
ถ้าธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแบบ B2B หรือ B2C คุณจะเป็นต้องลงทุนซื้อระบบ IT เพื่อบริหารการจัดการข้อมูลพวกนี้ ไล่ตั้งแต่โปรแกรม CRM โปรแกรมบริหารจัดการขายหน้าร้าน POS (Point of Sales) บริหารจัดการแคมเปญ ฯลฯ ซึ่งถ้าไล่ซื้อทีละตัวก็คงมีความวุ่นวายมาก ในขณะนี้มีบริษัทไอทีระดับโลกที่สามารถบริหารจัดการ Big Data และสรุปข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันใจ ซึ่งจะถูกเรียกว่า “CDP” (Customer Data Platform) ซึ่งระบบนี้จะทำการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ที่น่าจะเป็นลูกค้าได้ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์
มันจะรู้ว่าลูกค้ารายนี้เข้าเว็บไซต์คุณเมื่อไหร่ ไปดูเว็บที่เกี่ยวข้องหรือเว็บคู่แข่งที่ไหน จนกระทั่งรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร แม้กระทั่งเดินผ่านหน้าร้านคุณเวลาไหนก็จะส่ง SMS หาได้ทันที ถ้าคุณลองสังเกตดีๆ ธุรกิจยักษ์ใหญ่เช่น Central, Siam Paragon, ธนาคาร ฯลฯ เวลาคุณเดินผ่านก็มักจะมี SMS เข้ามาให้โปรโมชั่นพิเศษ นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของการใช้โปรแกรมบริหารจัดการ Big Data ที่เรียกว่า CDP ซึ่งสามารถสร้างยอดขายและลดต้นทุนด้านการตลาดและการขายลงได้มาก ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของวงการ Big Data เลยก็ว่าได้ ที่สำคัญคือสามารถนำมาใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม
นี่คือความรู้สำคัญเกี่ยวกับ Big Data ขนาดใหญ่ที่สามารถทำให้องค์กรของคุณล้ำหน้ากว่าคุณแข่งและสร้างยอดขายได้อย่างดี
Comments
0 comments