21 ความในใจของคนเป็นผู้จัดการที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

บทความในวันนี้จะขอพูดถึง “ความในใจ” ของคนที่เป็นผู้จัดการหรือผู้บริหารฯ แต่ไม่ใช่เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของบริษัท อย่าคิดว่าพวกเขาคือเจ้านายตัวร้ายเสมอไป พวกเขาก็เป็น “มนุษย์เงินเดือน” เหมือนกับคุณนั่นแหละครับ

นี่คือความรู้สึกของผมเองในฐานะที่เป็นผู้จัดการและผู้บริหารฝ่ายขายคนหนึ่ง รวมถึงสิ่งที่ผมได้ข้อมูลมาจากลูกศิษย์ระดับผู้บริหารฝ่ายขายอีกหลายๆ ท่าน ถ้าคุณยังเป็นพนักงานระดับล่างที่มีเจ้านายอยู่บนหัว นี่คือบทความที่คุณต้องอ่าน แต่ถ้าคุณเป็นระดับผู้จัดการหรือผู้บริหารแล้ว ผมเชื่อว่าคุณยิ่งต้องอ่านให้จงหนักครับ (ยิ้ม)

 1. พวกเราส่วนใหญ่ในตำแหน่งนี้ไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นเหมือนเซลส์นะ พวกคุณได้ยอดขายทะลุเป้าแต่เราได้แค่ฐานเงินเดือนหรือ “ค่าอัพไลน์” ประมาณ 1-2% จากยอดหรือผลกำไรรวมของทีมเท่านั้นเอง

2. พวกเราไม่มีทางได้ค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าตัวนักขาย (แต่ได้ฐานเงินเดือนที่สูงกว่า)

3. พวกเรามีหน้าที่ต้องสอนคุณให้เป็นนักขายที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับวัดผลการทำงานของพวกคุณด้วย

4. พวกเรารู้ฐานเงินเดือนของพวกคุณทุกคน เพื่อเอาไว้ใช้ประเมินตอนปรับเงินเดือนว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดีไง (ฮา)

5. พวกเราก็โดนเจ้าของบริษัทหรือเจ้านายที่ตำแหน่งใหญ่กว่ากดดันเรื่องตัวเลขเหมือนกัน

6. พวกเราก็โดนไล่ออกได้เช่นกันถ้าพวกคุณขายได้ไม่ดีหรือทำงานไม่ได้เพราะพวกผมต้องรับผิดชอบในกรณีที่จ้างคุณมาแล้ว

7. พวกเราก็ต้องแข่งกันระหว่างระดับผู้จัดการหรือผู้บริหารด้วยกันนะ กดดันมากเวลาต้องประชุมระดับผู้จัดการ

8. การเพิ่มยอดเป็นคำสั่งโดยตรงของผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัท ไม่ก็ผู้ถือหุ้น ส่วนพวกผมเป็นคนรับคำสั่งแล้วถ่ายทอดให้พวกคุณทำจนบรรลุเป้าหมาย

9. พวกเรามาสายหรือไม่เข้างานช่วงเช้าได้เพราะอาจจะมีประชุมสำคัญ

10. ที่เห็นเรากลับตรงเวลาเป๊ะเพราะนายเหนือหัวของเราไม่ได้ประเมินเรื่องเวลาการเข้างานมากไปกว่าผลงานที่แท้จริงอย่างยอดขายหรือผลกำไร ดังนั้นถ้าไม่มีอะไรจริงๆ เราจะกลับบ้านเลย (เพราะภาระลูกเมียมันเยอะ)

11. พวกเราหาคนมาแทนคุณได้เสมอแหละ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนแต่กลับไม่ทำงานตามคำสั่ง ตราบใดที่พวกเราเติบโตมาจากการโปรโมทตำแหน่งหลังจากเป็นพนักงานระดับล่างดีเด่นมาก่อน คุณอย่าเก๋าใส่เราเลย

12. พวกเราเจ็บปวดเสมอยามที่รู้ว่าพวกคุณนินทาลับหลัง แต่พวกเราก็อยากให้พวกคุณประสบความสำเร็จและทำงานบรรลุตามเป้าหมาย

13. พวกเรายินดีที่จะไฝว้กับหัวหน้าแผนกอื่นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทีมในยามที่เสียผลประโยชน์

14. ความฝันของพวกเราคือได้ก้าวขึ้นสู่ระดับผู้บริหารหรือ C-Level

15. เวลาคุณทำงานบรรลุเป้าหมายและได้เงิน พวกเรา “ได้แต่หน้า”

16. เวลาที่พวกคุณคิดว่าพวกเราไม่เก่ง จริงๆ แล้วพวกเราโคตรดีใจเลยที่มีลูกน้องเก่งๆ แบบคุณ งานของพวกเราจะได้สบาย (ฮา)

17. ไม่แปลกที่พวกเราจะมี “ความโน้มเอียง” กับลูกน้องที่ชอบและไม่ชอบ พูดง่ายๆ ก็คือมีลูกรักจริงๆ นั่นแหละ แต่ลูกรักของเราคือคนที่ทำงานดี เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว มุ่งมั่น ไม่นินทาว่าร้ายลับหลัง ซื่อสัตย์ ขยัน ฯลฯ ส่วนลูกชังคือคนที่ตรงกันข้าม

18. พวกเราอยากให้คุณเก่งกว่าและก้าวขึ้นมายืนแทนที่ตำแหน่งของพวกเราเสมอ ซึ่งก็หมายความว่าเราเป็นสุดยอดเจ้านายที่ปั้นคุณมาแทนที่เราได้ เราจึงยอมให้คุณมาแทนที่ (ส่วนเราก็ถูกดึงไปอยู่ในตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ฮา)

19. พวกเราเครียดและกดดันเหมือนกันยามที่ผลงานไม่เข้าเป้า ทำให้ใช้อารมณ์กับคุณในบางครั้ง แต่เชื่อเถอะว่าพวกเราไม่ได้ตั้งใจและอยากขอโทษคุณเช่นกัน เพียงแต่อีโก้คำว่าเจ้านายกับลูกน้องมันค้ำคอ ทำให้บางครั้งเราก็ไม่กล้าขอโทษคุณด้วยซ้ำ ซึ่งตรงนี้อยากให้คุณเข้าใจมากๆ

20. ไม่ผิดที่พวกเราคัดคนโดยการเลือกสถาบันหรือคนรู้จักในบางครั้ง เพราะพวกเราอยากได้คนที่ดีที่สุดมาทำงานเช่นกัน แต่ถ้าคุณโนเนม คุณต้องพิสูจน์ความมุ่งมั่นและทำให้พวกเราประทับใจในการสัมภาษณ์งานหรือเขียนบทความว่าทำไมถึงอยากทำงานในตำแหน่งนี้ให้พวกเราเห็น รับรองว่าพวกเราเปิดโอกาสแน่นอน

21. อยากเป็นใหญ่เป็นโตเร็วแค่ไหน ยังไงก็ต้องผ่านการเป็นผู้จัดการกันก่อนนะน้องๆ หนูๆ ถ้าพลาดโอกาสหรือไม่ถูกโปรโมทให้ขึ้นระดับผู้จัดการตอนอายุยังไม่มาก คุณอาจจะพลาดโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตเลยก็ว่าได้

นี่คือความในใจของเหล่าผู้จัดการและผู้บริหารที่ไม่เคยบอกคุณมาก่อนครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น