อยากเป็นเซลล์ร้อยล้าน คุณต้องเป็นคนแบบไหน
“กูนี่แหละเซลล์ร้อยล้าน” คือชื่อเพจที่ผมตั้งขึ้นมาเพื่อสะท้อนตัวตนบางอย่าง เพราะเพียงแค่อยากจะเก่งขึ้นและเชื่อว่าคนเราสามารถ “ฝืนโชคชะตา” ที่คุณไม่สามารถเลือกเกิดได้ มีตัวอย่างจากชีวิตจริงของคนที่ประสบความสำเร็จมากมายที่สามารถลิขิตชีวิตของตนเองได้จนประสบความสำเร็จจากศูนย์
สมัยก่อนถ้าผมประกาศว่ากูจะเป็นเซลล์ร้อยล้าน ผมคงคิดอยู่ในใจแต่เพียงผู้เดียว ใครจะกล้าละครับ สารรูปตัวเองนั้นก็ดูแทบไม่ได้ ไม่มีส่วนไหนเลยจะบ่งบอกว่าผมจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแบบนี้
แต่ในเมื่อกล้าบ้าแล้วก็ต้องบ้าให้สุด ขอเพียงแค่ได้ลงมือทำแล้ววัดผลการทำงานของตัวเองทีละเล็กทีละน้อยจนดีขึ้นในทุกๆ วัน ผมเชื่อว่าความบ้าของคุณจะนำพาคุณพุ่งชนต่อความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน
ผมได้ผ่านจุดของความบ้ามานับครั้งไม่ถ้วนจากการตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นๆ ในแต่ละวัน ผมจึงรับรู้ความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดีและมองเห็นอนาคตของตัวเองภายในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างชัดแจ๋วเรียบร้อยแล้ว ขอบอกเลยว่ากลิ่นของความสำเร็จแบบสุจริตและถูกต้องมันช่างหอมหวานมากเลยล่ะครับ
และนี่คือคำนิยามของบุรุษที่ต้องการเป็นเซลล์ร้อยล้านคนต่อไปจากผมครับ ขอบอกเลยว่าต่อให้คุณไม่มีอะไรดีเด่ไปกว่าคนอื่นซักอย่าง ไม่ว่าจะหน้าตา การศึกษา ฐานะ คุณก็สามารถเป็นได้อย่างแน่นอนครับ
1. ฝันให้ใหญ่เข้าไว้
ความฝันคือสิ่งที่ทำให้คุณบรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้วกว่า 50% (อีก 50% ที่เหลือคือการลงมือทำ) ยิ่งคุณฝันใหญ่ (แต่ไม่เพ้อฝัน) เช่น อยากทำยอดให้ถึงร้อยล้าน อยากเป็นท็อปเซลล์ อยากมีเงินเดือน 200,000 ภายในอายุ 30 เป็นต้น คุณย่อมมีสิทธิ์ที่จะฝันหากมันไม่ไกลเกินเอื้อมครับ เซลล์ร้อยล้านมีจุดเริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่อยากจะเป็นเบอร์หนึ่งของทีม จากนั้นก็เบอร์หนึ่งของบริษัท ขยับเป็นเบอร์หนึ่งของวงการ หรือแม้แต่เบอร์หนึ่งของประเทศ เป้าหมายจะขยับให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากความสำเร็จแบบทีละก้าวเหมือนการวิ่งมาราธอนนั่นเองครับ
2. จงกล้าและบ้าพอ
ความกล้าคือพลังอันไร้ขีดจำกัดที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จต่ออาชีพงานขาย จงกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับ “การโดนปฎิเสธ” และความล้มเหลว ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ตั้งแต่ความกล้าที่จะยกหูโทรศัพท์หาลูกค้า ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอหน้ามาก่อน ไม่ต้องแคร์ว่าคนที่คุณคุยจะมีตำแหน่งใหญ่โตมากแค่ไหน ขอเพียงแค่คุณกล้าพอที่จะลงมือโทรหาเพื่อทำนัดเข้าไปเจอต่อหน้าให้ได้ ต่อให้ตอนเริ่มต้นจะล้มเหลว จงอย่ายอมแพ้และแสดงจุดยืนที่จะไปให้ถึงจุดที่ประสบความสำเร็จให้ได้นะครับ คุณจะเก่งและแกร่งขึ้น
3. หลอกตัวเอง (Fake it until you make it)
หลอกตัวเองไม่ใช่การตอแหลบอกคนอื่นว่าไม่ได้มีสิ่งที่ตัวเองพูดไปวันๆ นะครับ แต่วิธีนี้คือการ “สะกดจิตตัวเอง” ให้พร่ำบอกว่าตัวกูนั้นต้องทำได้ ถ้าบุคลิกภาพไม่ดี คุณก็ต้องหลอกตัวเองว่ากูต้องเป็นคนที่มีบุคลิกในฝันให้ได้ จากนั้นใจจะบังคับร่างกายของคุณให้มีการ “ลอกเลียนแบบ” ซึ่งตอนแรกๆ จะไม่ค่อยเนียนซักเท่าไหร่ แต่พอทำไปซ้ำๆ ทุกวัน คุณจะเริ่มมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นตามต้นแบบของคนที่คุณต้องการจะเป็น นี่จึงเป็นวิธีหลอกตัวเองซ้ำๆ สำหรับคนที่ไม่มีความมั่นใจว่ากูจะต้องเป็นเซลล์ร้อยล้านและลงมือทำงานแบบเซลล์มืออาชีพจนสำเร็จให้ได้ครับ
4. มองหาเมนเทอร์
เมนเทอร์หรือครูฝึก (โค้ช) ที่ผ่านการเป็นนักขายร้อยล้านหรือเป็นเจ้าของกิจการระดับสุดยอดมาแล้ว นี่คือบุคคลทรงคุณค่าที่คุณต้องเข้าหาพวกเขาเพื่อขอเป็นเพื่อน รุ่นพี่ หรือแม้แต่ขอไปตรงๆ ว่าอยากให้พวกเขามาเป็นเมนเทอร์หรืออาจารย์ด้านการขายให้กับคุณ การเรียนรู้จากคนสำเร็จคือวิธีการที่รวดเร็วและถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะพวกเขาจะมองจุดที่คุณต้องปรับและมอบข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ คุณจึงมีฝีมือที่เก่งขึ้น มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำในการแก้สถานการณ์ต่างๆ ด้านการขาย และเป็นคนที่ชี้แนะสั่งสอนคุณได้เป็นอย่างดีครับ ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ลองดูครับว่าเจ้านายคุณคือสุดยอดนักขายที่น่านับถือหรือไม่ ถ้าใช่ จงอย่าพลาดที่จะเรียนรู้นะครับ
5. ลงมือทำงานให้หนักกว่านักขายทั่วไป 3 เท่า
การลงมือทำงานให้หนักขึ้นเกินค่าเฉลี่ยของนักขายค่าตัวไม่แพงทั่วๆ ไปที่ง่ายที่สุดก็คือ “การออกตลาด” หาลูกค้าเก่า ใหม่ และตามงานเพื่อปิดการขายให้มากกว่าคนอื่น 2-3 เท่า เช่น นักขายทั่วไปทำนัดเพียงวันละ 1-2 นัดก็มียอดเข้ากระเป๋าเรื่อยๆ คุณบ้ากว่าจึงทำนัด 2-3 เท่าให้ได้วันละ 4-5 นัดต่อวัน คุณจึงมีลีดใหม่และทำกิจกรรมที่ได้เงินมากกว่านักขายคนอื่นๆ อะไรที่ไม่ได้เงินเช่นการประชุมภายในที่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการแจ้งข่าวสารแต่ไม่ได้เจอลูกค้าก็จึงเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก สุดยอดนักขายร้อยล้านคือคนที่โฟกัสกับการหาลูกค้าและได้เงินกับติดตามงานแทบจะ 100% ของเวลาทำงานต่างหากล่ะครับ
จงเชื่อเซลล์ร้อยล้านและลงมือทำอย่างเซลล์ร้อยล้านนะครับ คุณจะสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างแน่นอน
Comments
0 comments