1 มิถุนา ได้เวลาเอายอดขายกลับคืนมาแล้ว

ในที่สุดวันนี้ (1 มิถุนายน 2563) เป็นวันที่ประเทศไทยต้องบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์หลังจากที่ผ่านความเจ็บปวดของสงครามไวรัส COVID-19 ที่เชื้อนรกนี่เล่นงานชีวิตและธุรกิจของทุกคนจน “งอมพระราม” กันไปตามๆ กัน เพราะวันนี้เป็นวันที่แทบทุกธุรกิจในประเทศของเราได้เปิดทำการอย่างเต็มรูปแบบแล้วในขณะนี้

ถึงแม้ว่าบางธุรกิจจะใช้เวลาไปอีกซักระยะในการฟื้นตัว เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ฯลฯ ผมเองก็ขอส่งใจช่วยและขอให้ทั้งโลกกลับสู่สภาวะปกติอย่างเร็ววันเร็วคืนด้วยครับ ช่วงมีนา-พค. ที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่หนักที่สุดแทบธุรกิจเลยก็ว่าได้

ผมเองกว่าจะกลับมาได้ก็ต้องประคับประคองธุรกิจพอสมควร เอาแค่ทำนัดให้ได้ช่วง Work from Home นั้นกว่าจะได้นัด (แถมยังผ่านวีดีโอคอลอีกต่างหาก) ก็ถือว่าเลือดตาแทบกระเด็น ลูกค้าเองก็อยู่ในช่วงวิกฤตจนไม่มีเวลาโฟกัสกับสิ่งที่คุณอยากนำเสนอเช่นเดียวกัน

สัญญานเชิงบวกพึ่งกลับมาช่วงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2-3 กลางเดือน พค. ที่ผ่านมานี่เอง ผมบอกเลยว่าถ้าไม่มีการระบาดระลอก 2-3 รับรองว่าธุรกิจกลับมาได้อย่างแน่นอน มันจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะเริ่มกลับเข้าสู่สงครามการค้าใหม่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิถุนาฯ นี้กันเลยครับ

1. ทำนัดลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ทันที

เนื่องจากลูกค้าแทบทุกคนปลดล็อกนโยบาย Work from Home แทบทั้งหมดแล้ว มันจึงทำให้พวกเขากลับมาประจำการที่ออฟฟิศเพื่อให้คุณได้เข้าไปหาได้เหมือนเดิม ช่วงเวลาทองที่จะทำนัดได้ง่ายสุดๆ คือตั้งแต่วันที่ 1-5 มิถุนายนนี้ จงรีบปูพรมทำนัดทันทีก่อนที่คู่แข่งจะมาแย่งนัดไปจากคุณนะครับ 

2. ใช้ Social Distancing ให้เป็นประโยชน์ด้วยการบอกเจ้านายไม่เข้าออฟฟิศ

ออฟฟิศนั้นแทบไม่ค่อยมีความหมายสำหรับนักขายเท่าไหร่ เพราะออฟฟิศของคุณคือลูกค้าต่างหากล่ะครับ ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน การกลับมาอยู่กันอย่างแออัดเหมือนสมัยก่อนคงไม่ดีเท่าไหร่ แผนกทีมขายควรออกไปสู่สนามรบมากกว่าอยู่ในออฟฟิศ หรือบางออฟฟิศที่มีกฎหยุมหยิมชอบให้พนักงานเข้ามาทำงาน คุณก็ใช้เรื่องนี้บอกพวกเขาไปก็ได้ว่าขอทำงานแบบ Work from Home เน้นการหาลูกค้าหรือทำงานตามร้านกาแฟเป็นหลัก

3. New Normal ใหม่ หลังจากนี้

การเข้าออฟฟิศลูกค้าคงมีพิธีการ แต่หลังจากเข้าห้องประชุมด้วยกันแล้วก็จะผ่อนคลายมากขึ้น คนที่มีรถส่วนตัวคงเลือกที่จะใช้รถตัวเองเป็นหลัก นักขายที่นั่ง Grab Car คงต้องระมัดระวังมากขึ้น Taxi ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งต้องระวังตัวหนักกว่าเดิมแน่นอน การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอาจจะไม่สะดวกเหมือนเคยเพราะระยะห่างที่มากขึ้นและจำกัดจำนวนคน การออกไปพบลูกค้าต้องมีการวางแผนรัดกุมมากขึ้น เพราะคุณต้องใช้เวลามากขึ้นแน่นอน

4. เข้าหาธุรกิจที่กำลังกลับมาเดินหน้าเต็มสูบก่อน

เชื่อหรือไม่ว่ามีลูกค้าหลายกลุ่มธุรกิจที่แทบไม่ได้รับผลกระทบเลย เช่น ธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตอาหาร ธุรกิจออนไลน์แพลทฟอร์ม ธุรกิจกลุ่มราชการ ฯลฯ ธุรกิจกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มลูกค้าที่คุณควรเข้าไปขายก่อน อย่างน้อยก็ยังมีเงินซื้อคุณแน่ๆ ล่ะ กับธุรกิจอีกกลุ่มคือธุรกิจที่ต้องรีบกลับมาจากการปิดให้บริการมานานเกือบ 3 เดือน เช่น ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ฯลฯ ธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบก็จริงแต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเร็ว กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มนี้รีบเข้าไปช่วยลูกค้าตั้งงบฯ ก่อนก็จะสร้างความได้เปรียบ

5. ใช้เทคโนโลยี Social Media Selling ภาคปฎิบัติ 100%

คุณคงคุ้นเคยเรื่องการประชุมแบบไม่เจอหน้าด้วยโปรแกรม Zoom กับ Google Hangout และการใช้เครื่องมีเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ผมมักจะสอนคุณเป็นประจำก็คือ LinkedIn กับ Facebook มันจึงเป็นการขายผ่านโซเชี่ยลแบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากการเดินทางที่มีแนวโน้มว่าต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นหรือต้องใช้รถส่วนตัวบ่อยกว่าเดิม บางคนอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ การขอลูกค้าทำนัดผ่านระบบวีดีโอคอลหรือแชตผ่านเฟซบุ้คกับลิ้งก์อินจะเป็นมาตรฐานใหม่ของการขายในศตวรรษที่ 21 เลยทีเดียว

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น