ทักษะนักขายคือทักษะสู่การเป็นเศรษฐี
เชื่อหรือไม่ว่าต่อให้คุณจะตกอยู่ในสภาวะโกลาหลจากไวรัส COVID-19 แถมยังเริ่มเลวร้ายอยู่ทุกวี่ทุกวัน ข่าวร้ายต่อเนื่องแบบนี้คงทำให้คุณไม่อยากเชื่อว่าเศรษฐกิจเป็นแบบนี้้แล้ว “กูจะรวยได้อย่างไรวะ”
จงฟังผมให้ดีๆ นะครับว่าระดับโลกเขาก็พูดกันว่า “History repeat itselp” หรือประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเสมอ ลองย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อนหน้านี้แล้วคุณจะพบว่าโลกของเราผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมานักต่อนัก รวมถึงเรื่องไวรัสระบาดที่มีคนตายเป็นล้านอย่าง Spanish Flu ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมใหญ่ปี 54 หรือสึนามิที่ภูเก็ต เป็นต้น
กลไกตลาดจะปรับตัวให้ธุรกิจดีขึ้นเสมอโดย “มือที่มองไม่เห็น” (Invisible Hand) ตามหลักการของเศรษฐศาสตร์ ซึ่งทุกวิกฤตจะมีโอกาสให้คนรวยขึ้นเสมอ โดยเฉพาะเหล่าเศรษฐีเกิดใหม่ทุกยุคทุกสมัย และคนประเภทนี้จะมีทักษะแห่งชีวิตนั่นก็คือทักษะการขายที่สามารถทำให้พวกเขาเอาตัวรอดในทุกสภาวะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่
และถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำตำแหน่งอาชีพนักขายอยู่แล้วในขณะนี้ ผมขอบอกเลยนะครับว่า “คุณโชคดีแล้ว” ที่ทำอาชีพนี้ เพราะทักษะนักขายที่คุณทำนั้นสามารถทำให้คุณเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่มีโอกาสถูกปลดออกจากตำแหน่งน้อยที่สุดแล้ว ตราบใดที่คุณยังสามารถเดินหน้าล่ายอดขายเข้าองค์กรได้
มาดูกันว่าทักษะการขายที่คุณกำลังลงมือทำอยู่นั้นสามารถทำให้คุณเป็นเศรษฐีได้อย่างไร ขอบอกเลยว่าผมไม่ได้พูดโอเวอร์แต่อย่างใด เพราะนักธุรกิจสมัยใหม่ที่ไม่นับพวกได้มรดกหรือผู้สืบทอดฯ แต่สร้างธุรกิจด้วยตนเองล้วนมีทักษะนี้ติดตัวแทบทั้งนั้น
1. เป็นทักษะที่ทำให้คุณได้เงินได้ง่ายที่สุด
การได้เงินแบบสุจริตก็คือการขายสินค้าหรือบริการที่ถูกต้องตามกฎหมายนั่นเองครับ ตัวอย่างง่ายๆ เช่น คุณไปกินข้าวร้านป้าที่ใจดีและพูดจาดี คุณย่อมยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับพวกเขาพร้อมกับโพสต์รูปลงในเฟซบุ้ค ในทางตรงกันข้าม เวลาเจอร้านข้าวที่แม่ค้าปากหมาหรือพูดจาไม่ดี คุณย่อมเกิดความรู้สึกไม่ชอบและเผลอๆ อาจจะไม่มากินอีกเลย เป็นต้น อาชีพนักขายจึงเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารกับคนที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นลูกค้าของคุณได้ เพื่อให้ได้เงินนั่นเอง ที่สำคัญคือเจอลูกค้าทุกวัน เจอซ้ำๆ สิ่งเหล่านี้จึงฝึกซ้อมให้คุณเป็นนักธุรกิจในอนาคตที่ดีได้ครับ
2. เส้นเลือดใหญ่ของทุกธุรกิจคือยอดขายกับลูกค้า
ไม่มีธุรกิจใดสำเร็จได้ด้วยการไม่ขายสินค้าและบริการ ความมั่งคั่งจะต้องเริ่มต้นจากการขายที่มีกำไรและมีลูกค้าซื้อซ้ำอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นทีมขายและการให้ความสำคัญกับการขายจึงเป็นสิ่งที่องค์กรต้องให้ความสำคัญมากที่สุด องค์กรที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีทีมขายที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ นักขายที่ยอดเยี่ยมจึงได้รับผลตอบแทนและผลประโยชน์จากองค์กรสูงสุด โดยเฉพาะค่าคอมมิชชั่นจากการทำมากได้มาก มีอำนาจต่อรองกับองค์กรค่อนข้างสูง ทำให้แม้แต่คุณเป็นแค่ลูกจ้างก็จริง แต่ต้องเรียกใหม่ว่าเป็นลูกจ้างมืออาชีพที่ได้ค่าตอบแทนหลักแสนนั้นไม่ยากเลย
3. คุณมีความเข้าใจลูกค้าสูงสุด จึงสามารถทำธุรกิจได้ประสบความสำเร็จกว่าคนอื่น
อาชีพนักขายถูกกำหนดให้เข้าพบลูกค้าและเข้าไปเป็นที่ปรึกษากับลูกค้า รวมถึงการทำงานอย่างเป็นระบบที่สามารถวัดผลได้ ไล่ตั้งแต่การหาลีด ทำนัด นำเสนอ ติดตามงาน ปิดการขาย ดูแลหลังขาย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้นี่แหละที่เวลาคุณออกไปทำธุรกิจของตนเอง คุณจะทำธุรกิจได้อย่างถูกต้องเพราะคุณเข้าใจว่าจะต้องหาลูกค้ากลุ่มไหนที่ใช่ที่สุดและน่าจะซื้อคุณที่สุด ทำนัดอย่างไร นำเสนออย่างไร เป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าได้อย่างไร ติดตามงานแบบมือโปร ไปจนถึงปิดการขายและขายเพิ่ม คิดง่ายๆ ว่าถ้าคุณเป็นนักขายมาก่อนแล้วลองไปแข่งเปิดร้านกาแฟ คุณจะเริ่มต้นได้ไวเพราะคุณประเมินตนเองก่อน หาลูกค้ากลุ่มไหนที่น่าขายและคู่แข่งน้อย นำเสนอสินค้าได้อย่างตอบโจทย์พร้อมกับตั้งราคาได้อย่างสมเหตุสมผลและมีกำไร เอาชนะคู่แข่งอย่างไร ระบบ CRM เพื่อขายเพิ่ม ฯลฯ
4. คุณมองเห็นวงจรธุรกิจแทบทั้งหมดของงานที่ทำ
อาชีพนักขายบางธุรกิจสร้างคนขึ้นมาเป็นเศรษฐีใหม่กันเยอะแล้ว อารมณ์ประมาณลูกน้องออกไปเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจคล้ายๆ กับนายจ้างนั่นแหละครับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายหรือแม้แต่ศีลธรรมใดๆ เวลาที่คุณไปเป็นลูกน้องใครก็ตาม คุณจะมองเห็นวงจรธุรกิจแทบทั้งหมด ไล่ตั้งแต่การเข้าหากลุ่มลูกค้า การสั่ง การติดตั้งและส่งมอบสินค้า คู่ค้า วิธีการดูแลหลังการขาย ทำให้คุณเข้าใจสิ่งที่เจ้าของธุรกิจเขาต้องทำกันนั้นต้องทำอย่างไร เช่น การบริหารต้นทุน การบริหารส่วนงานบุคคล วิธีการคัดพนักงานที่ยอดเยี่ยม งานบริหารและการจัดการต่างๆ เป็นต้น
5. กลุ่มลูกค้าในมือคือสมบัติที่ทำให้คุณมีโอกาสเป็นเศรษฐีมากที่สุด
กลุ่มลูกค้าในมือเวลาคุณเป็นลูกจ้างนี่แหละครับ ที่จะเป็นสมบัติสำคัญเวลาคุณออกไปทำธุรกิจด้วยตนเอง เพราะคุณสามารถกลับไปขายพวกเขาได้เลย ทำให้คุณได้เปรียบมากเวลาเริ่มต้นธุรกิจเหนือคนที่คิดจะทำโดยไม่รู้อะไรเลยและไม่เคยขายมาก่อน คนที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจต้องทำแบบนี้ เวลาที่คุณเป็นนักขายและหมั่นเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าลงในรายงานการขายหรือเซลล์รีพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เวลาที่คุณออกมาตั้งบริษัทเป็นของตนเอง สายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจะทำให้คุณเริ่มต้นการขายได้ง่ายที่สุด เผลอๆ ขายได้โดยที่ทุกอย่างไม่พร้อมเลยด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าคุณไม่ได้เปรียบหรือจะไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไรครับ
นี่คือเหตุผลที่ทักษะการขายจะทำให้คุณเป็นเศรษฐีได้อย่างแน่นอนครับ
Comments
0 comments