ทำอย่างไรถึงจะได้ไปทำงานต่างประเทศ

ยุคนี้เป็นยุคที่การทำงานต่างประเทศไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป เพราะว่าโลกของเรานั้นถูกย่อลงให้แคบกว่าเดิมมาก บทความนี้ผมจะพูดถึงว่าทำอย่างไรถึงจะได้ไปทำงานที่ต่างประเทศจากประสบการณ์ของผมนะครับ

ส่วนตัวของเซลล์ร้อยล้านเองเคยเดินทางไปทำงานที่ประเทศ “มาเลเซีย” โดยเริ่มต้นจากการสมัครงานด้วยตนเอง อีกทั้งยังผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์งานที่ “เขี้ยว” พอสมควร จึงได้รับคัดเลือกให้ไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้งยังเป็นการร่วมงานกับบริษัท TOP 100 ของโลกด้านไอทีเป็นครั้งแรกในชีวิต

ผมได้รับประสบการณ์ดีๆ มากมาย โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติแบบนานาชาติ เช่น คนมาเล คนสิงคโปร์ คนเวียดนาม คนอินโดฯ คนไทยด้วยกัน คนอินเดีย คนปากีฯ ฯลฯ และได้เรียนรู้ระบบการขายตามแบบฉบับบริษัทระดับโลก ได้รับค่าเหนื่อยและค่าตอบแทนแบบมาตรฐานอเมริกัน นับว่าเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ทำให้ผมเป็นเซลล์ร้อยล้านอย่างทุกวันนี้

จึงขอแชร์เรื่องราวดีๆ เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่อย่างคุณ หรือคนที่มีความฝันที่จะไปทำงานต่างประเทศ ได้เข้าไปทำงานต่างประเทศสักครั้งในชีวิตเมื่ออายุยังน้อยกันนะครับ

ข้อดีของการออกไปเปิดโลกกว้างที่ต่างประเทศ

1. เรียนรู้การใช้ชีวิตการทำงานแบบมืออาชีพในต่างแดน

2. ได้ร่วมงานกับบริษัทระดับโลกหรือระดับนานาชาติ

3. โปรไฟล์ของคุณจะงดงามมาก มีประวัติสวยๆ ที่น้อยคนจะมีได้อย่างคุณ

4. มีโอกาสเติบโตในสายงานที่มีค่าตอบแทนสูง มั่นคง มากกว่าคนอื่น

5. ได้ค่าตอบแทนและเงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการทำงานในประเทศไทย

6. ได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นแบบมืออาชีพของจริงในการทำงาน

7. ได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตคนเดียวอย่างแข็งแกร่ง เรียนรู้การพึ่งพาตนเองให้อยู่รอดอย่างยอดเยี่ยม

8. มีโอกาสได้แฟนหรือแต่งงานกับชาวต่างชาติ (ฮา)

9. ได้ระบบการทำงานและเรียนรู้วัฒนธรรมขององค์กรต่างชาติ ทำให้คิดได้อย่างเป็นระบบ

10. ได้ประสบการณ์เพื่อปูทางสู่การเป็นเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะการทำการค้ากับชาวต่างชาติ

วิธีการทำงานที่ต่างประเทศ

1. ค้นหาบริษัทต่างชาติที่รับ “คนไทย” เข้าไปทำงานต่างประเทศ

เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่คุณต้องเริ่มลงมือทำเดี๋ยวนี้ ด้วยการมองหาบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานสาขาอยู่ที่ต่างประเทศ ที่สำคัญคือต้องมี “ทีมงานคนไทย” อยู่ในบริษัทนั้นด้วย ผมบอกใบ้ให้ก็ได้ครับว่าส่วนใหญ่มักเป็นบริษัทไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานที่เรียกว่า “Regional Office” อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์หรือมาเลเซีย เช่น บริษัท Dell, Salesforce, Cisco, Oracle, Amazon, Google เป็นต้น บริษัทเหล่านี้จะเปิดตำแหน่งที่ต้องใช้คนไทยในการทำงาน เพื่อติดต่อประสานงานหรือเปิดการขายจากประเทศสิงคโปร์เข้ามาที่ไทย โดยบางบริษัทจะยังไม่มีสำนักงานในประเทศไทย จึงทำให้คุณต้องนั่งประจำตำแหน่งที่สำนักงานต่างชาติ 

2. ใช้ Linkedin.com ในการค้นหางานที่ใช่ในต่างแดน

ลิ้งอินเป็นเครื่องมือที่นอกจากจะช่วยคุณหาชื่อลูกค้าตัวบิ้กๆ แล้ว คุณยังสามารถนำมันมาใช้หางานได้อีกด้วย วิธีนั้นก็ง่ายแสนง่าย ในลิ้งอินจะมีเมนู Jobs อยู่ ซึ่งในนั้นสามารถค้นหาตำแหน่งงานที่รับคนไทยในต่างประเทศได้แล้ว ตัวอย่างเช่น ผมป้อน Keyword แค่คำว่า “Thai” และป้อน Keyword ช่อง Location ว่า “สิงค์โปร์” เพียงเท่านี้ก็เห็นตำแหน่งงานดีๆ ที่ประเทศสิงคโปร์ แถมยังระบุชัดว่ารับคนไทยแบบง่ายๆ เลย จากนั้นก็ทำการสมัครแล้วดูรายละเอียดการรับคนเข้าทำงานได้เลยครับ

 ตัวอย่างที่แคปมาให้เห็นกันชัดๆ (โคตรง่ายเลย ฮา)

3. ถ้าคุณทำงานอยู่ในประเทศไทยแล้วได้ติดต่องานกับคนไทยที่ทำงานต่างชาติอยู่แล้ว จงติดต่อสอบถามพวกเขาอย่างไม่ลังเล

นี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมเลยครับ ผมเองได้ดีลงานกับชาวต่างชาติด้วยการทำงานบริษัทไอที ปรากฎว่าคนที่ติดต่อขายสินค้าให้บริษัทผม เป็นคนจีนที่พูดไทยได้ ติดต่อมาจากประเทศมาเลเซีย จึงถามเขาไปตรงๆ ว่าบริษัทของเขานั้นรับคนไทยเข้าไปทำงานไหม ซึ่งคำตอบที่ได้คือนอกจากจะมีคนไทยทำงานในนั้นด้วยแล้ว เขายังยื่นโอกาสให้ผมลองส่งเรซูเม่เพื่อทำการคัดเลือก จากนั้นก็ได้เรื่องเลย เพียงไม่กี่วันก็มีคนจากสำนักงานที่มาเลเซียติดต่อมา ผมได้ผ่านกระบวนการสัมภาษณ์งานราวๆ 3 ครั้งกับชาวต่างชาติ จึงได้ไปทำงานที่นั่นครับ

4. ภาษาอังกฤษคุณต้องชัวร์

นอกจากคะแนน TOEIC ที่ต้องทำให้ได้ในระดับมาตรฐานแล้ว คุณจะต้องเตรียมตัวด้านการพูดและการสื่อสารให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในแบบมืออาชีพ สื่อสารให้ง่าย ชัดเจน ใส่สำเนียงที่ถูกต้องเข้าไปบ้าง เพราะเรื่องภาษาจะตัดสินชะตาคุณได้เลยว่าจะได้ไปทำงานต่างประเทศหรือไม่ ถ้าภาษาไม่ได้เรื่อง อย่าว่าแต่ได้งานเลย แค่สัมภาษณ์งานก็แทบจะโดนเขี่ยทิ้งอยู่แล้ว ถ้าอยากไปทำงานต่างประเทศแล้วล่ะก็ คุณต้องพูดภาษาอังกฤษให้ได้ในระดับที่ดี จงเตรียมพร้อมและเรียนรู้ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ แค่นี้ก็ตัดตัวเลือกไปได้มากแล้วครับ

5. เทคนิคการสัมภาษณ์งาน ควรเน้นเรื่องการทำงานอย่างเป็นระบบที่วัดผลได้เป็นสำคัญ

ชาวต่างชาติหรือฝรั่งจะไม่ค่อยชอบอาการขี้โม้มากนัก พวกเขาจะวัดการทำงานของคุณในหัวด้วยการทำงานที่วัดผลได้เป็นหลัก ตัวอย่างเช่น คุณได้สัมภาษณ์งานตำแหน่งพนักงานขาย คำถามเด็ดที่จะวัดผลว่าจะ “เอา” หรือ “ไม่เอา” คุณมาเป็นนักขาย ก็คือคำถามที่ถามตัวคุณว่าคุณจะทำเงินให้พวกเขาอย่างไร คุณมีวิธีขายอย่างไรบ้าง

คุณต้องพูดเรื่องระบบการขายในหัวคุณออกมา ไม่ว่าผู้สัมภาษณ์จะถามหรือไม่ถาม คุณต้องเล่าให้พวกเขาฟังให้ได้ประมาณนี้

– คุณทำกิจกรรมทางการขาย (ทำนัด) ได้นัดใหม่เฉลี่ยวันละ 3-4 นัดทุกวันขึ้นไป

– คุณโทรหาลูกค้าวันละ 15-20 นัด เพื่อทำนัด ตามงาน อัพเดทงาน

– คุณมีแผนการในการตามงานที่ดี เช่น ทำตารางเวลาว่าจะตามงานช่วงไหนบ้าง วางแผนได้ว่าแต่ละรายจะสามารถปิดดีลได้ช่วงไหนบ้าง

– คุณเห็นความสำคัญและอัพเดทเซลล์รีพอร์ทให้ล่าสุดอยู่ตลอดเวลา เพื่อติดตามสถานะของลูกค้าและเอาไว้ใช้ตามงาน

– คุณมีหลักการการตั้งราคาที่ดี และเน้นการขายแบบเน้นคุณค่าก่อนราคา

– คุณมีวิธีการดูแลลูกค้าหลังการขาย เช่น มีแผนเข้าเยี่ยมลูกค้าเก่าทุกๆ เดือน เป็นต้น

– ฯลฯ อะไรก็ตามที่จับต้องได้แบบเป็นตัวเลข นี่คือสิ่งที่คุณต้องเล่าให้พวกเขาฟังครับ

จำไว้นะครับ แก่นแท้ของการขายที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อได้ว่าคุณสามารถขายของได้จริงคือ “กิจกรรมทางการขาย” สิ่งนี้มันคือสมการทางตัวเลขง่ายๆ ครับ ยิ่งคุณทำนัด นำเสนอ ติดตามผล เจรจาต่อรอง ปิดการขาย ลูกค้าใหม่ได้มากเท่าไหร่ ตัวเลขก็ยิ่งเข้ามามากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้คือหลัก “คณิตศาสตร์” ไม่ใช่เพียงแค่ “ลมปาก” แล้วคุณจะขายตัวเองได้

ว่าแล้วก็ลุยกันเลยนะครับ ฝ่ากำแพงเผ่าพันธุ์และภาษาไปให้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินครับ ที่สำคัญคือคุณมีโอกาสไปได้ไกลกว่าคนรุ่นเดียวกันมากเลยล่ะ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น