วิธีการตั้งเป้าหมายในการขาย สำหรับปีใหม่ 2019

ในที่สุด เช้าวันนี้ (2 มกราคม 2019) ก็ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นแห่งการทำงานแรกของปี 2019 อย่างเป็นทางการกันเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ใครที่ยังแฮงค์อยู่จากบรรยากาศเฉลิมฉลองที่ผ่านมาก็รีบล้างหน้าล้างตาแล้วออกไปเริ่มต้นการใช้ชีวิตใหม่กันได้แล้ว (ยิ้ม)

บทความที่สองของปี 2019 นี้จึงเป็นบทความที่เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายใหม่ โดยเฉพาะเป้าหมายด้านการขาย เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นนักขายหรือนักธุรกิจ การขาดเป้าหมายที่ชัดเจนย่อมหมายถึงการใช้เวลาแบบเปล่าประโยชน์และย่อมเป็นการทำอะไร “แบบเดิมๆ” ไม่ต่างจากปี 2018 ที่ผ่านมานั่นเอ

เป้าหมาย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ จริงๆ แล้วไม่จำกัดว่าจะต้อง เป็นนักขายหรือนักธุรกิจอย่างเดียวเท่านั้น ทุกสาขาอาชีพย่อมมีเป้าหมายภายในใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต สุขภาพ ความสุข และความรัก

ผมเองในฐานะผู้บริหารมืออาชีพจึงขอมอบ “ตัวช่วย” ดีๆ เพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จตลอดทั้งปี 2019 ที่ผ่านมา พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ

1. เป้าหมายที่ตั้งไว้จะต้องเป็นอะไรที่ “เกือบเอื้อมไม่ถึง”

การตั้งเป้าหมายที่ดีตามแบบฉบับของเดลล์ คาร์เนกี้ (Dale Carnegie) นักประพันธ์ชื่อก้องโลก กล่าวไว้ว่า การตั้งเป้าหมายอะไรก็ตามจะต้องเป็นเป้าที่ “เกือบเอื้อมไม่ถึง” พูดง่ายๆ ก็คือมีความยากและท้าทาย แต่ไม่เพ้อเจ้อเกินฝัน เช่น ถ้าคุณตั้งเป้าว่าอยากเป็นซูเปอร์แมน จะพิทักษ์โลก ปกป้องโลก หรือจะเป็นเศรษฐีพันล้าน มีเฟอรารี่ขับภายใน 1 ปี ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไร

อย่างนี้ถือว่าเพ้อฝันครับ หรือเป้าหมายก็ไม่ควรเล็กเกินไป เช่น ปีนี้คุณอยากได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 5,000 ทั้งๆ ที่เงินเดือนก็ขึ้นทุกปี อย่างนี้ก็ถือว่าเล็กเกินไป เป้าหมายที่ดีควรเป็นอะไรที่ทำได้จริง แต่เหนื่อย กว่าที่จะถึงตรงนั้น เช่น ปีที่แล้วคุณได้ค่าคอมมิชชั่น 1 ล้านบาท ปีนี้จึงตั้งไปที่ 2 ล้านบาท เพราะคุณให้เหตุผลว่าสามารถเพิ่มกิจกรรมการขายเป็น 2 เท่านั่นเอง 

2. ตั้งเป้าหมายที่ต้องการด้วย “Magic Number” 

ตัวเลขมหัศจรรย์ (Magic Number) คืออะไรที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้มากที่สุด แถมยังทำให้คุณมองเห็น “ความเป็นไปได้” และรู้ว่าจะต้องเพิ่ม “กิจกรรมการขาย” ที่วัดผลได้เป็นตัวเลข เช่น ถ้าคุณตั้งเป้าหมายว่าอยากได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า กิจกรรมการขายทั้งหมดที่คุณเคยทำไว้ในปีที่แล้ว ตั้งแต่จำนวนการหาลีด การโทรทำนัด การเข้าพบลูกค้าเพื่อถามคำถามกับนำเสนอ การติดตามงาน การส่งใบเสนอราคา ปิดการขาย ฯลฯ ถ้าทุกอย่างมีปริมาณกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น คุณย่อมไปถึงฝังฝันได้แน่นอน เปรียบได้กับการซ้อมของนักกีฬาอาชีพที่เพิ่มความหนักหน่วงในการซ้อม พวกเขาย่อมแข็งแกร่งและเก่งกาจขึ้นอยางไม่ต้องสงสัย

3. ตั้งเป้าหมายด้านความก้าวหน้าในอาชีพ

นักขายที่ยอดเยี่ยมจะต้องรู้ตัวว่าคุณค่าของการทำงานที่เพิ่มขึ้นและมีคุณค่าให้กับคนอื่นก็คือ “การก้าวไปสู่การดำรงตำแหน่งผู้จัดการหรือผู้บริหารฝ่ายขาย” จงอย่ากลัวด้านงานบริหารคนหรือองค์กร มิเช่นนั้นคุณอาจจะต้องตกอยู่ในสภาวะ “หมาล่าเนื้อ” ตลอดไป การต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จทั้งๆ ที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไร โดยเฉพาะเรื่องของเงิน ทักษะการบริหารถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่คุณหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน มีแต่คนที่ใช่และเหมาะสมเท่านั้นถึงจะก้าวมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ ค่าตัวของคุณจะพุ่งขึ้นสูงมาก เป็นบุคคลที่ใครๆ ก็ต้องการตัว แถมยังอาจจะมีสิทธิ์ได้เป็นหุ้นส่วนกับบุคคลที่มองเห็นคุณค่าของคุณออกอีกด้วย

4. ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตนเองและการใช้ชีวิต

การทำงานที่หนักหน่วงเกินไปอาจไม่ใช่คำตอบ แต่การใช้ชีวิตให้ “สมดุล” กับงาน (Work-Life Balance) ต่างหากที่เป็นคำตอบของการใช้ชีวิตในยุคนี้ อะไรที่มันมากไปย่อมไม่ดี หย่อนไปก็ไม่เวิร์ก จงอย่าลืมแบ่งเวลาการทำงานแบบมืออาชีพด้วยกฎ “8 ชั่วโมง” แล้ววางงานทุกอย่างทันที จากน้นหันมาใส่ใจคนรอบข้าง รวมถึง “ตัวเอง” ด้วยการลงทุนให้ตัวเองมีวิชาความรู้ที่เฉียบคมขึ้น มีสุขภาพที่ดีมากขึ้น ฝึกทักษะการจีบสาวหรือดูแลเพศตรงข้ามให้มากขึ้น (ฮา) เช่น การลงทุนเรียนต่อปริญญาโทด้านธุรกิจจากสถาบันชื่อดัง การเข้าฟิตเนสที่เข้มข้น เป็นต้น

5. ตั้งเป้าหมายว่า “ข้าจะเป็นเบอร์หนึ่งของวงการ”

เป็นเป้าหมายที่แสนจะท้าทายและเปี่ยมไปด้วย “ความหิวกระหาย” ความทะเยอทะยานคือหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดของนักขายที่เป็นนักล่าระดับมืออาชีพ คุณจะต้องกล้าคิดและกล้า “ประกาศให้โลกรู้” ว่าคุณกำลังลงมือทำอะไรอยู่ ถ้าคุณเป็นนักขายระดับลูกกระจ๊อกของบริษัท จงจินตนาการภาพที่ตัวเองเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัท หรือก้าวไปเป็นเบอรืหนึ่งของธุรกิจที่คุณทำเลยยิ่งดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีแรงขับดันและมองเห็นภาพของตัวเองที่ชัดเจนมากขึ้น ผมกำลังให้คุณตั้งเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพที่สุจริต รู้อย่างนี้แล้วทำไมคุณถึงไม่กล้าประกาศเป้าหมายให้ชัดเจนกันไปเลยครับ

การตั้งเป้าหมายนั้นไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเลย ขอเพียงแค่เป้าหมายต้องยิ่งใหญ่ เกือบเอื้อมไม่ถึง ท้าทาย และทุกอย่างต้องวัดผลการกระทำของตัวเองได้ อะไรที่วัดเป็นตัวเลขได้ย่อมหมายถึงความเป็นไปได้ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จมากขึ้น เมื่อทราบแล้วก็ลุยไปด้วยกันกับเซลล์ร้อยล้านเลยครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น