8 เหตุผลที่คุณควรถามตัวเองและเปลี่ยนงานเป็นนักขาย
บทความนี้สำหรับหลายๆ คนที่ทำงานอื่นๆ นอกจากการขาย หรือแม้แต่คุณเองที่เป็นนักขายอยู่แล้ว จงอ่านบทความของผมดีๆ ว่าตัวคุณเองว่าตัวคุณเหมาะสมกับงานขายหรือไม่นะครับ
สำหรับผมเองนั้นค่อนข้างชัดเจนกับการอยากทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ “ก่อนเรียนจบ” แล้ว เพราะผมรู้ดีว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ผมน่าจะทำได้ มีคุณสมบัติหลายๆ อย่างในตัวผมที่เหมาะสมกับอาชีพนี้ และสุดท้ายก็มีทุกวันนี้โดยปริยาย
ก็ต้องบอกว่าผมเองนั้น “คิดไม่ผิด” จริงๆ ที่เริ่มต้นทำงานไต่เต้าจากตำแหน่งนักขาย ความสำเร็จและการเติบโตในสายงานนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง ได้เป็นผู้บริหารฝ่ายขายตั้งแต่อายุยังน้อย เงินเดือนทะลุหลักสองแสนบาทตั้งแต่อายุ 30 ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีโปรไฟล์ด้านการศึกษาเริดหรูขนาดนั้น ทุกอย่างเป็นเพราะผมทำอาชีพนี้
ผมจึงมีเหตุผลดีๆ ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณกำลังประกอบอาชีพอื่นที่ไม่ใช่งานขาย แต่ก็ไม่เสียหายที่จะลองเปลี่ยนงานมาทำงานสายการขายดูบ้าง รับรองครับว่าอนาคตของคุณจะต้องรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน
1. ควรทำงานขายเพราะคุณอยากรวย
เป็นเหตุผลง่ายๆ และตรงไปตรงมาที่สุด เพราะคุณรู้ตัวดีว่าคุณไม่ได้เรียนจบด้านอาชีพพิเศษที่เงินเดือนสูงและมั่นคง เช่น แพทย์ ทันตะ ผู้พิพากษา นักบิน ฯลฯ อะไรทำนองนี้ และตัวคุณเองก็ไม่ได้มีต้นทุนทางบ้านที่ดีเหมือนคนอื่น (บ้านรวย) เช่น บ้านมีกิจการใหญ่โต ไม่ขัดสน เป็นต้น การเริ่มทำธุรกิจเองทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ก็เสี่ยงเกินไป คุณจึงเลือกอาชีพนี้เพราะคุณรู้ดีว่าการเป็นนักขายนั้น “ทำมากได้มาก” โดยได้รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าคอมมิชชั่น สุดยอดอาชีพนักขายค่าคอมฯ สูงๆ และเห็นเงินกับตาแบบชัดเจน อาทิ เช่น ขายประกัน ขายตรง ขายที่ดิน ขายสินค้าที่กำไรสูงๆ เป็นต้น ที่สำคัญคือคุณอยากทำอาชีพสุจริตและไม่รวยทางลัด
2. ควรทำงานขายเพราะคุณชอบพบปะผู้คน (ที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจ)
อยากรวยอย่างเดียวคงไม่พอ การขายเป็นงานที่ต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ ต่อให้มีเทคโนโลยีเทพๆ ออนไลน์ก็ยังต้องมีการพบกันต่อหน้าอยู่ดี เช่น การทำสัญญาด้านการซื้อขาย การคุยธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ การขายสินค้ามูลค่าสูง เป็นต้น คงเป็นการยากที่คนที่รักสันโดษแบบสุดๆ ไม่ชอบยุ่งกับใคร ชอบทำงานคนเดียวถึงจะทำอาชีพนี้ได้ หรือต่อให้ไม่ชอบคุยกับคนอื่นมากก็ต้องหลอกตัวเองให้ไปคุยกับคนแปลกหน้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจให้ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องการพบปะผู้คน โดยเฉพาะคนแปลกหน้า เข้าสังคมได้ดี มีกาละเทศะและวุฒิภาวะสูง ขอบอกเลยว่าอาชีพนี้เหมาะสำหรับคุณแล้วล่ะครับ คุณจะได้เรียนรู้การขายจากของจริงร่วมกับลูกค้าแน่นอน
3. ควรทำงานขายเพราะคุณไม่ชอบทำงานจับเจ่าอยู่ในออฟฟิศ
ถ้าคุณนั่งทำงานอยู่ในคอกที่ออฟฟิศแบบออฟฟิศสมัยเก่าจนเบื่อแล้ว ลองออกตลาดเพื่อขับรถไปหาลูกค้านอกสถานที่ดูบ้างมั้ย สำหรับชีวิตผมเองคง “มืดมน” ถ้าวันๆ ต้องนั่งทำงานที่ออฟฟิศแบบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน หันไปทางไหนก็มีแต่เพื่อนร่วมงานหรือคอกที่โต๊ะทำงานตั้งตระหง่านอยู่ คงเป็นเรื่องที่เซ็งไม่น้อย อาชีพนักขายแบบองค์กรจะรับประกันการทำงานให้คุณแน่นอนเพราะคุณจะต้องไปออกตลาดหาลูกค้านั่นเอง นอกจากจะได้ออกไปข้างนอกทุกวันแล้ว คุณยังรู้สึก “อิสระ” และมีความยืดหยุ่นด้านเวลา สามารถทำงานนอกสถานที่ตามใจชอบ เช่น ร้านกาแฟ ปั้มน้ำมัน หรือแม้แต่ที่บ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานใหม่ๆ ได้อีกด้วย ขอให้มีตัวเลข (ฮา)
4. ควรทำงานขายเพราะคุณไม่ชอบทำงานตอกบัตร
จริงๆ แล้วผมเองก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยชอบระบบตอกบัตรเหมือนองค์กรยุคเก่าเท่าไหร่ครับ เพราะมองว่าระบบนี้เป็นการวัดผลคนจากเวลาการทำงาน ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะคนเราควรทำงานตามสัญญาที่ 8 ชั่วโมง แต่ระบบนี้มันวัดอะไรไม่ได้มากนักเรื่องผลงานโดยเฉพาะกับฝ่ายขาย การวัดผลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนักขายก็คือ “ยอดขาย” ที่หามาให้องค์กรนั่นเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้องค์กรยุคปัจจุบันให้ความยืดหยุ่นกับทีมขายในการออกตลาดโดยที่ไม่ต้องเข้ามาตอกบัตรที่บริษัทเลย หายหัวไปทั้งวันเพื่อขายของให้ลูกค้ายิ่งเป็นสิ่งที่ดี ขอให้มีตัวเลขเข้ามาเถอะครับ เจ้าของบริษัทคุณจะมองข้ามเรื่องมาสายหรือเรื่องหยุมหยิมไปเลย ถ้าคุณอยู่บริษัทที่ให้ความสำคัญกับงานขาย
5. ควรทำงานขายเพราะคุณอยากเป็นเจ้าของกิจการในอนาคต
ยุคนี้ใครหลายๆ คนก็อยากเป็นนักธุรกิจหรือเจ้าของกิจการที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จได้ เพราะการทำธุรกิจไม่ใช่ของง่าย ดังนัั้นการขายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะไม่มีตำราธุรกิจเล่มใดยอดเยี่ยมไปกว่า “การขายจากประสบการณ์จริง” ตำราธุรกิจในยุคนี้มันของกล้วยๆ ครับ คุณอยากรู้ศาสตร์ชั้นสูงก็สามารถคลิกอ่านในโลกออนไลน์หรือตามเพจธุรกิจได้ง่ายๆ เลยด้วยซ้ำ ความรู้มีเป็นกิโล หรือจะฟังโคตรเซียนธุรกิจพันล้านพูดเกี่ยวกับธุรกิจหลายๆ แบบฟรีจากทางยูทูปได้เลย แต่การฟังอย่างเดียวนั้นไม่พออยู่แล้ว การทำงานขายเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และสะสมฐานลูกค้ากับสร้างความเชี่ยวชาญทางธุรกิจจะเป็นสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ทุกวันจากการขายจริง
6. ควรทำงานขายเพราะคุณอยากเป็นใหญ่เป็นโตในองค์กรเร็วๆ
อาชีพแทบทุกอาชีพต้องอาชีพระยะเวลาและประสบการณ์จนกว่าจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นใหญ่เป็นโต รายได้ที่เพิ่มขึ้นมักสอดคล้องกับประสบการณ์การทำงานซึ่งบางทีคุณอาจจะรอไม่ไหวโดยเฉพาะเมื่อคุณยังเป็นแค่เด็กจบใหม่ แต่อาชีพนักขายนั้น “มีทางลัด” ที่ถ้าคุณอยากปีนบันไดทีละ 3 ขั้น เป็นเจ้าคนนายคนเร็วๆ จงขายให้เก่ง มีตัวเลขเป็นท็อปเซลล์แซงนักขายรุ่นพี่ให้ได้ รับรองว่าทำไปซักพักเจ้าของบริษัทอาจโปรโมตให้คุณขึ้นเป็นผู้จัดการเลยล่ะครับ
เพราะพวกเขากลัวว่าจะเสียดาวรุ่งตัวท็อปอย่างคุณไป จึงต้องกักคุณไว้ด้วยอำนาจและตำแหน่งที่สูงกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่อให้ที่บริษัทไม่เห็นค่า บริษัทอื่นย่อมปรารถนาที่จะดึงตัวคุณไปร่วมงานด้วยแน่อน ที่พวกเขาเลือกที่จะทำอย่างนี้เป็นเพราะภาคธุรกิจเอกชนแทบทั้งหมดจะมุ่งเน้นการแสวงหาผลกำไร คุณจึงเป็นบุคคลสำคัญที่นำเงินเข้าสู่องค์กร ตำแหน่งของคุณนั้นแทบจะสำคัญที่สุดเหนือแผนกอื่นในองค์กรเลยก็ว่าได้
7. ควรทำงานขายเพราะคุณอยากทำงานกลับบ้านตรงเวลา
อาจจะฟังแล้วดูแปลกๆ สำหรับการทำงานแล้วกลับบ้านตรงเวลาตามสัญญาจ้างงาน เพราะบางคนอาจสวนผมว่า “ทำไม่ได้หรอก” เพราะงานนักหรือเหตุผลอื่นๆ ว่าเจ้านายสั่ง งานยุ่ง ทำงานไม่ทัน อะไรก็ตามแต่ คุณจึงไม่สนเหตุผลเหล่านี้เพราะคุณเป็นนักขาย คุณรู้ดีว่าคุณจะกลับก่อนเวลาก็ได้ด้วยซ้ำถ้าทำยอดขายได้มหาศาล หรือไม่รู้ว่าจะทำงานหลังเวลาเลิกงานไปทำไมเพราะลูกค้าก็กลับบ้านกันหมดแล้วรวมถึงคุณเองก็อยากได้เวลาเอาไปทำอย่างอื่น เพราะฉะนั้นงานขายจึงเป็นงานที่ตอบโจทย์คุณในเรื่องเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นครับ
8. ควรทำงานขายเพราะคุณรักในงานขาย
เหตุผลข้อสุดท้ายนี้มันจบด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าคุณรู้ดีว่ารักในอาชีพนี้ คุณคงมีความสุขกับงานที่คุณทำมากอย่างแน่นอน งานขายเป็นงานที่ถ้าคุณหลงรักแล้วจะมอบสิ่งตอบแทนให้คุณมหาศาล นั่นก็คือเงินและความมั่งคั่งแบบสุดหยั่งถึง ถ้าคุณบอกว่าผมเป็นคนหน้าเงิน จงอย่าเลือกทำอาชีพนี้แล้วไปเป็นพนักงานล้างจานเถอะครับ เพราะคุณเลือกแล้วที่จะประกอบอาชีพในโลกแห่งทุนนิยม คุณหลีกหนีไม่ได้กับความกระหายในเงินตราแบบสุจริตแล้วไม่เดือดร้อนใครครับ
ถ้าคุณมีเหตุผลมากกว่า 4 ข้อขึ้นไป งานขายจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์สำหรับคุณแล้วล่ะครับ
Comments
0 comments