5 สิ่งที่คุณ ‘ไม่มีทาง’ สอนคนอื่นได้
ผมได้อ่านหนังสือและเจอบทความดีๆ ของ Mary Cantando ซึ่งพูดถึงการสอนคนอื่น โดยเฉพาะทีมงานและลูกน้องของคุณได้อย่างน่าสนใจ จึงได้แปลส่วนหนึ่งของบทความให้ทุกท่านฟังกันครับ
การสอนต่างๆ โดยเฉพาะการสอนการทำงาน ถึงแม้ว่าจะมีตำราหรือหลักสูตรมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการอบรมสั่งสอนนั้นจะทำให้ทุกคนสามารถปฎิบัติตามได้ ขนาดคุณเองนั่งเรียนหนังสือที่ใช้ตำราเล่มเดียวกับเพื่อนๆ ในสมัยมหาวิทยาลัย คุณยังทำเกรดได้ไม่ดีเท่าคนอื่นเลย สอบตกเหมือนเดิม ถูกไหมครับ (ฮา)
แนวคิดในเรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจ ‘ต้นทุน’ ของทีมงานแต่ละคนได้อย่างถ่องแท้ มองเห็นขีดความสามารถของคนอื่นอย่างทั่วถึง ทำให้เกิดความรู้สึก ‘เข้าใจ’ และ ‘เห็นอกเห็นใจ’ พร้อมทั้งสามารถประยุกต์การฝึกอบรมหรือสอนงานให้กับทีมงานแต่ละคนได้อย่างดียิ่งขึ้น
ลองอ่านและคิดตามกันเลยครับ
1. คอมมอน เซนส์ หรือ ‘การใช้ความคิดเบื้องต้น’
เป็นคำที่คุณได้ยินและเรียกทับศัพท์อยู่บ่อยๆ (ขอเรียกว่าคอมมอน เซนส์ ไปเลยนะครับ) ตัวอย่างของการมีคอมมอน เซนส์ เช่น คุณถูกลูกค้าต่อราคาพอสมควร ถ้ามีคอมมอน เซนส์ จะรู้ว่าลูกค้าอยากซื้อสินค้าแล้ว เหลือแค่เรื่องผลประโยชน์ที่สามารถต่อรองได้ แต่คนที่ไม่มีคอมมอน เซนส์ ก็อาจจะ ‘ปากไว’ รีบลดราคาให้ทันที ไม่รักษาผลประโยชน์ไว้ก่อน หรืออ้างไปว่าบริษัทไม่มีนโยบายลด นายสั่งมา อะไรทำนองนี้ ทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อแล้ว เป็นตน ภาษาชาวบ้านก็คงเรียกว่า ‘กึ๋น’ หรือ ‘ไหวพริบ’ มั้งครับ
ผมไม่แน่ใจว่าคอมมอน เซนส์ นั้นถูกสร้างหรือมีพื้นฐานมาได้อย่างไร บางคนก็มี แต่บางคนก็ไม่มี แต่ละคนเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ อุปนิสัยต่างการ การอบรมสั่งสอนไม่เหมือนกัน จบมาคนละสถาบันกัน ประสบการณ์ในการทำงานต่างกัน ฯลฯ ซึ่งคุณต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ แต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอน แถมยัง ‘วัดไม่ได้’ เหมือนคะแนนสอบเสียด้วย แต่ผมมีเทคนิคเล็กน้อย ถ้าคุณเป็นผู้คัดเลือกเด็กจบใหม่ที่ไร้ประสบการณ์เข้ามาทำงาน คุณสามารถทำการทดสอบคอมมอน เซนส์ โดยสร้างสถานการณ์ให้พวกเขาแก้ไข แล้วมองดู ‘กึ๋น’ ของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร
2. ความมั่นใจ
อาจจะแปลกที่ผมมองว่าเรื่องนี้นั้นสอนกันไม่ได้นะครับ เพราะมีหลายหลักสูตร หลายสถาบัน หลายบทความที่บอกวิธีสร้างความมั่นใจให้คุณมากขึ้น ความมั่นใจเป็นหนึ่งในบุคลิกที่สำคัญของการเป็นเซลล์เลยก็ว่าได้ ประเด็นก็คือความมั่นใจจะถูกสร้างจากประสบการณ์หรือนิสัยส่วนตัวตั้งแต่เด็กอีกเช่นเคย ไม่เชื่อลองดูพนักงานในบริษัทคุณก็ได้ครับ จะต้องมีคนที่มีบุคลิก ‘เก็บตัว’ (Introvert) ซึ่งพูดน้อย ไม่ชอบงานสังคม งานออกหน้า อย่างแน่นอน การจะเปลี่ยนแปลงตัวตนของพวกเขานั้นจะเป็นสิ่งที่ยากมาก ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ คุณควรคัดคนที่มีความมั่นใจ ในกรณีที่คุณรับผิดชอบงานด้านการขายเป็นหลัก
3. ประสบการณ์
เห็นด้วย 100% ว่าประสบการณ์เป็นเรื่องที่สอนกันไม่ได้อย่างแน่นอน เปรียบได้กับคนที่ตีกอล์ฟไม่เป็น ต่อให้คุณสอนเก่งอย่างไร การสอนพวกเขาด้วยคำพูดอย่างเดียวนั้นไม่มีทางทำให้พวกเขาตีกอล์ฟได้เลย และยังต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรในการสอนพื้นฐาน จนกว่าพวกเขาจะตีได้ เปรียบได้กับ ‘การสอนงานลูกน้องด้วยปาก’ เช่น สอนวิธีการขาย วิธีการนำเสนอ วิธีการปิดการขาย ฯลฯ ลูกน้องก็อาจจะปฎิบัติตามได้ยากมาก วิธีการสอนที่ดีที่สุดคือการสอนด้วยประสบการณ์พร้อมกับลงมือทำให้ดู จากนั้นให้พวกเขาทำให้คุณดูต่อหน้า จนกว่าจะเชี่ยวชาญนั่นเอง
4. สอนอะไรก็ตามที่พวกเขาไม่อยากเรียนรู้
เรื่องนี้เป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่ผมได้รับจากลูกค้าแบบองค์กรหลายที่ นั่นคือพนักงานที่ทำงานมานานเริ่มไม่พัฒนาทักษะด้านการทำงานให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เริ่มทำงานไปวันๆ หัวแข็ง ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่ทำงานไม่ดีขึ้นเลย ทั้งๆ ที่บริษัทมีโปรแกรมส่งเสริมความรู้มากมาย ที่เห็นชัดเจนก็คือยุคที่องค์กรเริ่มเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์ และมีโปรแกรม ‘ไมโครซอฟท์ เอ็กเซลล์’ (Microsoft Excel) ซึ่งกลายเป็นปัญหาให้กบพนักงานยุคโบราณหลายคน ใครที่ไม่ปรับตัว ไม่เปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็กลายเป็นคนตกยุค สาเหตุเป็นเพราะพวกเขาไม่เปิดใจนั่นเองครับ ที่สำคัญคือเรื่องนี้คุณจะไปสอนหรือบังคับพวกเขาก็ไม่ได้ด้วย
5. สอนอะไรก็ตามที่พวกเขาคิดว่า ‘รู้หมดแล้ว’
เรื่องใหญ่แน่นอนสำหรับใครก็ตามที่คุณต้องการสอน บอกคุณว่า “เรื่องนี้ผมรู้หมดแล้ว” ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท ญาติพี่น้อง ลูกศิษย์ ลูกน้อง ฯลฯ ทั้งๆ ที่คุณต้องการบอกเขาด้วยความหวังดี คนประเภทนี้จะถูกเรียกว่า “น้ำเต็มแก้ว” ที่ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ สอนไปก็ทำเป็นหูทวนลม ถ้าคุณเป็นหัวหน้าและพบกับคนที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว สอนไปก็ไม่ทำตาม แถมยังมีทัศนคติที่แย่ เถียงคุณกลับมาอีกต่างหาก อย่างนี้คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้วนอกจาก ‘ปลดเขาออก’ และสรรหาคนใหม่ที่เปิดใจและทำตัวเป็น ‘น้ำครึ่งแก้ว’ ดีกว่าครับ
สรุปก็คือการที่คุณจะสอนอะไรใครก็ตามนั้น คุณจะต้องคำนึงถึงบริบทต่างๆ ที่แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่ประสบการณ์ กึ๋น หรือแม้แต่ทัศนคติของพวกเขาเองว่าเปิดใจและทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วกับคุณมากแค่ไหน เพราะต่อให้มีข้อดีทุกอย่างครบ แต่ไม่ฟังคุณเลย สอนไปก็ไร้ประโยชน์นั่นเองครับ
ติดตามกูนี่แหละเซลล์ร้อยล้านได้ที่
Website – sales100million.com
Blockdit – blockdit.com/sales100million
Facebook – facebook.com/sales100million
Instagram – instagram.com/sales100million
YouTube – youtube.com/@sales100million
TikTok – tiktok.com/@sales100million
LinkedIn – linkedin.com/company/sales100million
Comments
0 comments