5 สิ่งที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณอยากเป็นสุดยอดนักขาย
ตลอดทั้งชีวิตอาชีพนักขายของผมได้มีการพบเจอกับเหล่านักขายเก่งๆ มานับร้อยคนนับพันคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานเก่า ลูกน้อง ลูกศิษย์ ผมขอบอกเลยว่านักขายที่ดีและเก่งนั้นมีอยู่มากมาย แต่นักขายที่ถือว่าเป็นสุดยอดนั้น บอกตรงๆ ว่าทั้งชีวิตผมแทบไม่เคยเจอเลยล่ะครับ แล้วคนที่มีคุณสมบัติที่ว่านั้นก็คือ “ผมคนนี้นี่แหละครับ”
พูดตามตรงว่าเดี๋ยวจะหาว่าโม้หรืออวยตัวเอง ผมเป็นนักขายที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างโดยเฉพาะความมั่งคั่งกับการได้เงินด้วยการเป็นแค่ลูกจ้างอย่างเดียวจากค่าคอมมิชชั่นมาสร้างธุรกิจใหม่ๆ และลงทุนกับตัวเองจนกลายเป็นที่ปรึกษาด้านการขายระดับองค์กรขนาดใหญ่และกลายเป็นผู้บริหารระดับสูงที่มีค่าตัวหลักหลายแสนต่อเดือน
คนที่รุ่นราวคราวเดียวเท่าผมและมีความสามารถขนาดนี้ โดยเฉพาะการคุมทีมและสร้างทีมขายใหม่ที่ต้องเข้าพบลูกค้าระดับ CEO หรือ C-Level จนถึงวันนี้ผมกล้าพูดเลยว่าแทบไม่มีเลยครับ ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ Head of Sales ของบริษัท Google (Thailand) เท่านั้นที่มีโปรไฟล์ใกล้เคียงกับผมมากทีเดียว
ผมจึงอยากให้คุณนักขายที่กำลังเป็นนักขายได้ก้าวขึ้นมาเหนือกว่าผมจาก 5 สิ่งที่คุณต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้ รับรองว่าคุณกลายเป็นสุดยอดนักขายที่มีแต่คนต้องการตัวและประสบความสำเร็จได้แน่นอนครับ
1. นำเสนอขายแต่ลูกค้า “ที่มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น”
สุดยอดนักขายจะทำเกมเข้าถึงลูกค้าระดับสูงและลูกค้าตัวท็อประดับผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจ หรือแม้แต่ระดับเจ้าของกิจการ MD, CEO เท่านั้น ระดับเล็กกว่านั้นพวกเขาจะไม่ค่อยเสียเวลาคุย ถ้าคุยก็คุยเพียงนิดหน่อยเพื่อให้ระดับผู้จัดการเป็นคนทำนัดกับคนระดับสูงให้ด้วยซ้ำ การคุยกับคนไม่มีอำนาจฯ คือสิ่งที่เสียเวลา แถมยังต้องติดตามงานบ่อยๆ โคตรเซลส์ที่เก่งมากๆ จะต้องเป็นคนที่สร้างคอนเนคชั่นเข้าถึงคนระดับสูงได้ด้วยตัวเอง มีความน่าเชื่อถือสูง มีความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพที่จะเอาลูกค้าระดับสูงให้อยู่หมัด โอกาสชนะงานจึงเหนือกว่าคนอื่น
2. โฟกัสการทำงานเฉพาะสิ่งที่ทำให้ตัวเองได้เงิน
กิจกรรมการขายที่ทำให้คุณได้เงินก็คือการเข้าพบลูกค้า ตั้งแต่การนำเสนอขาย ตอบข้อโต้แย้ง ปิดการขาย เรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญที่สุด อะไรที่ทำให้เสียเวลาคุณจะต้องตัดทิ้งเพื่อเอาเวลากลับมาให้มากที่สุด เช่น งานเอกสาร งานทำใบเสนอราคา งานประชุมภายใน งานวางบิล เก็บเช็ค ฯลฯ งานพวกนี้ถ้ามีลูกน้องหรือแอดมินช่วยทำก็ควรโยนให้พวกเขาทำแทนทั้งหมด ผมถึงขั้นแทบไม่เข้าประชุมภายในบริษัทเลยด้วยซ้ำครับ (ถ้าไม่สำคัญจริงๆ) เพราะมันเสียเวลามากและไม่ได้เงิน ผมจะอ้างหรือทำนัดลูกค้าคนสำคัญก่อนเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าประชุมนั่นเอง (ฮา) ที่สำคัญคือคนอื่นก็ต้องหลีกทางให้ เพราะกิจกรรมที่ผมทำนั้นได้เงินเข้าบริษัท แม้แต่เจ้าของก็ต้องหลีกให้ผมครับ
3. มุ่งเน้นการขายที่มีดีลมูลค่าสูง ไม่ใช่เน้นจำนวนลูกค้ามากไว้ก่อน
นักขายระดับเทพย่อมมีเวลาที่จำกัด จงเล็งเป้าใหญ่เอาไว้ก่อนเพื่อโอกาสในการได้งานมูลค่าสูงเช่น โครงการขนาดใหญ่ โครงการมูลค่าสูง ที่ต้องเข้าถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจ นักขายระดับเทพจึงมักจะเข้าพบลูกค้ารายใหญ่ให้ครบก่อนแล้วค่อยเข้าพบลูกค้าที่ “รวยรองลงมา” เพราะผลที่ตามมาคือค่าคอมมิชชั่นจากโครงการขนาดใหญ่ที่มีเยอะกว่าการขายลูกค้าปลาซิวปลาสร้อยที่กว่าจะได้ค่าคอมฯ หลักล้านก็จะต้องวิ่งหาลูกค้าจนเหนื่อย นักขายขั้นเทพจะเล็งลูกค้าตัวใหญ่ที่ถึงแม้จะยากหรือมีคู่แข่งเจ้าถิ่นคุมอยู่ยังไงก็ไม่กลัว พวกเขาต้องได้งานวันใดก็วันหนึ่งแน่นอน
4. ยกระดับชีวิตตัวเองด้วยโอกาสจากการขาย
นักขายที่ดีกับนักขายขั้นเทพต่างกันที่นักขายที่ดีจะทำงานได้อย่างดีและทำตามเป้าหมายเพื่อได้ค่าคอมมิชชั่นตามที่ตัวเองต้องการ แต่โคตรนักขายจะคิดไกลกว่านั้น พวกเขาจะมองหาโอกาสการเติบโตไปสู่อีกระดับหนึ่งหลังจากการขายด้วยการสะสมผลงานเอาไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตเสมอ เช่น สะสมฐานข้อมูลลูกค้าระดับสูง สะสมพอร์ทโครงงานที่มีความยาก เป็นต้น เพื่อเอาไว้ใช้ต่อยอดให้ตัวเองกลายเป็นผู้จัดการหรือผู้บริหารฝ่ายขาย หรือแม้แต่ “เจ้าของธุรกิจ” ในอนาคตที่ทำธุรกิจที่มีฐานข้อมูลลูกค้าจากการทำงานที่ผ่านมา ทำให้มีคอนเนคชั่นและความสัมพันธ์ที่ดีในการกลับเข้าไปขายลูกค้าเก่าที่รู้จักกันได้เลย หรือแม้แต่การถูกบริษัทอื่นมาซื้อตัวด้วยค่าเหนื่อยสูง
5. ลงมือทำงานหนักกว่านักขายที่ดี
นักขายขั้นเทพก็เหมือนกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่กว่าเขาจะเป็นนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกได้นั้นเป็นเพราะเขาลงมือซ้อมและทำงานหนักกว่าใคร แถมเขาเองไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้วยซ้ำ แสดงว่าการเป็นนักขายหมายเลขหนึ่งของวงการไม่ได้มาจากคำว่าฟลุ้กเป็นอันขาด คุณจะต้องลงมือทำงานให้หนักกว่าเหล่านักขายที่ดี กิจกรรมการขายทุกอย่างของคุณต้องมีวินัยสูงและมีผลการทำงานที่เหนือกว่าระดับคนธรรมดา เช่น คนอื่นทำนัดวันละ 2-3 นัด คุณทำนัดเป็น 4-5 นัด ทำให้มีโอกาสได้รับงานและส่งใบเสนอราคามากกว่าคนอื่น 2-3 เท่า โอกาสปิดการขายจึงเพิ่มขึ้นและมียอดขายกับค่าคอมมิชชั่นสูงกว่า แถมผลงานก็มากกว่าคนอื่นเลยล่ะครับ
นี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องทำถ้าอยากเป็นสุดยอดนักขายหมายเลขหนึ่งในวงการจากผมครับ
Comments
0 comments