10 เหตุผลที่คุณควรเลือกทำงานในตำแหน่งนักขาย

เคยถามตัวเองบ้างมั้ยครับว่า “ทำไมถึงเลือกทำอาชีพนักขายกันครับ?”

.

คุณคงมีหลายเหตุผลที่อยู่ในใจ ถึงเลือกทำอาชีพนี้ แต่สำหรับคนที่ลังเลและต้องการค้นหาตัวเองใหม่ ถ้าคุณมีเหตุผลเพียง 1 ข้อ ที่ตรงกับ 10 เหตุผลที่คุณควรเลือกทำงานตำแหน่งนักขาย

.

ผมขอบอกเลยครับว่าคุณควรลองพิจารณางานด้านการขาย มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับอนาคตคุณดูนะครับ

1. คุณชอบ ‘รางวัล’ จากสิ่งที่ทำมาก ‘ต้อง’ ได้มาก 

.

ถ้าคุณไม่ชอบหรือเบื่อหน่ายงานที่หนัก ขยันหรือทุ่มเทมากเพียงใด ก็ยังได้เงินเดือนเท่าเดิม แถมยังต้องรอคอยความหวังโบนัสและขึ้นเงินเดือนทุกๆ สิ้นปี คุณมาถูกทางแล้ว

.

เพราะไม่มีงานไหนที่ได้ ‘รางวัล’ ตอบแทนเป็น ‘ตัวเงิน’ ได้มากเท่ากับงานขายอีกแล้ว มันเป็นความจริงที่ว่างานนี้มีกติกาที่ชัดเจน คือยิ่งคุณสร้างยอดขายได้มากเท่าไหร่ ค่าคอมมิชชั่นที่จะเข้ามาในกระเป๋าคุณก็มากตามเช่นกัน

.

เปรียบได้กับกองหน้าที่มีหน้าที่ ‘ยิงประตู’ ซึ่งไม่สำคัญว่าคุณจะใช้วิธีไหนในการยิง ขอให้เตะเข้าโกลคู่แข่งเป็นพอ นี่คือดัชนีชี้วัดเพียงอย่างเดียวของสุดยอดกองหน้าแล้วชัยชนะกับความสำเร็จก็จะตามมาเอง

.

2. คุณเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจและต้องการสืบทอดกิจการของครอบครัว (ถ้าไม่..จงผ่านข้อนี้ไปได้เลย)

.

ผมมีคำคำนึงอยากจะแชร์ให้คุณฟัง เป็นคำพูดของตระกูล ‘จิราธิวัฒน์’ เจ้าสัวเซ็นทรัล จากหนังสือ “กลยุทธ์สู่ความร่ำรวยตระกูล “มหาเศรษฐีอาเซียน” โดยคุณ ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์ ว่า…

.

“ธุรกิจครอบครัวจะมีอายุยั่งยืนเพียง 3 ชั่วอายุคนหรือ 3 รุ่นเท่านั้น”

.

หมายความว่าต่อให้ธุรกิจยิ่งใหญ่ไพศาลและยั่งยืนในรุ่นที่ 1 หรือรุ่นที่ 2 มากเพียงใด ก็อาจล่มสลายได้ในรุ่นที่ 3

.

นี่คือสิ่งที่ตระกูลจิราธิวัฒน์ได้ ‘วางรากฐาน’ ในการสืบทอดธุรกิจครอบครัวของตระกูล นั่นคือการมีกติกาครอบครัวให้ทายาทหรือผู้สืบทอดได้ร่ำเรียนในสาขาที่เกี่ยวกับธุรกิจ พร้อมกับ ‘ลงมือทำ’ จากการเริ่มเป็นลูกจ้างภายในกิจการของครอบครัว เพื่อเป็น ‘ตำราชีวิต’ ให้ลูกหลานได้ฝึกฝนของจริง สามารถนำพาธูรกิจให้ส่งผ่านไปสู่รุ่นต่อไป

.

ในฐานะที่คุณเป็นผู้สืบทอดกิจการของครอบครัวคุณเอง สิ่งที่คุณต้องลงมือทำคือการเริ่มสมัครงานเป็นลูกจ้างประจำในตำแหน่งนักขาย ซึ่งทักษะกับประสบการณ์ที่คุณเรียนรู้จากการขายจะทำให้คุณพัฒนาตัวเองโดยเฉพาะความรู้และการลงมือทำเชิงธุรกิจหลายด้าน เพื่อนำสิ่งที่ได้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณเองให้คงอยู่รักษาได้อย่างยั่งยืน

.

3. คุณอยากเป็นเจ้าของกิจการ

.

ขึ้นชื่อว่า ‘ทำธุรกิจ’ คุณคงหนีไม่พ้นคำว่าการขาย ถ้าคุณอยากทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านกาแฟเล็กๆ หรือธุรกิจโทรคมนาคมขนาดใหญ่ ทุกอย่างต้องไปจบที่ ‘การขาย’ ทั้งนั้น

.

ถ้าคุณอยากเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จ จงเรียนรู้ไว้เลยว่าคุณหนีไม่พ้นการขายแน่นอน คุณคงเคยได้อ่านประวัติผู้ที่ประสบความสำเร็จ เช่น คุณตัน อิชิตัน คุณจิ๊บ เจ้าของ JIB คอมพิวเตอร์ คุณไฟต์ แสนรู้ ฯลฯ ซึ่งทุกคนที่กล่าวมาไม่ได้มีต้นทุนทางสังคมใดๆ ไม่ได้เกิดมาบ้านรวย มีธุรกิจตั้งแต่เกิด การศึกษาสูง เป็น ‘Everyday People’ แบบพวกเราๆ ท่านๆ นี่แหละ

.

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหล่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคนที่ไม่รวยมาก่อน ส่วนใหญ่พวกเขาจะเคยเป็นลูกจ้างในตำแหน่งนักขายมาก่อน พอเริ่มทำธุรกิจก็นำทักษะการขายที่ได้จากงานประจำมาประยุกต์กับธุรกิจของตนเองจนประสบความสำเร็จ ถ้าคุณอยากสำเร็จแบบพวกเขา จงเดินตามเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาเช่นกัน

.

นี่คืออาชีพที่จะทำให้คุณเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการสร้างธุรกิจของคุณเองได้ดีที่สุด เพราะเป็นการเรียนรู้จากของจริง ที่สำคัญคือประสบการณ์ในการขายให้กับลูกค้าของจริงที่ไม่มีสอนในตำรา การเป็นนักขายที่ดีจะทำให้คุณมีทักษะ ‘ความเป็นเจ้าของกิจการ’ (Entrepreneurship) อยู่ในตัว จงรักษามันเอาไว้ให้ดีนะครับ

.

4. คุณชอบที่จะเรียนรู้ (ประสบการณ์) ของผู้อื่น โดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จ

.

นี่คือเหตุผลที่ตอบโจทย์สิ่งที่คุณต้องการมากๆ เพราะอาชีพนักขายจะทำให้คุณได้พบปะกับผู้คนใหม่ๆ ตำแหน่งเล็กใหญ่ มีประสบการณ์ ความรู้ มีความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน

.

คุณจะได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับบุคคลที่หลากหลาย โดยเฉพาะลูกค้าที่ประสบความสำเร็จระดับผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ คุณจะได้ความรู้ ‘ฟรีๆ’ จากคำถามและการฟังที่ดี โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จของพวกเขา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องหาจากในห้องเรียนปริญญาโท

.

ถ้าคุณเชื่อในกฎของแรงดึงดูดและต้องการพาตัวเองเข้าใกล้บุคคลที่ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ที่หลากหลาย งานขายจะนำพาตัวคุณไปเจอสิ่งนั้นได้แน่นอน เพื่อชีวิตที่ดีของคุณในอนาคต

.

5. คุณมีเกรดที่ไม่ดีเท่าไหร่ (เกรดดีก็ทำได้นะ ฮา..)

.

ผลการเรียน เป็นตัวเลขชี้วัดว่าคุณเรียนได้ดีแค่ไหน ในสาขาที่คุณจบมา สำหรับคนที่เกรดไม่ดี สิ่งนี้จะสร้างปัญหาให้คุณมากในการสมัครงานครั้งแรก เพราะแต่ละคนไม่มีประสบการณ์การทำงาน ดังนั้นการคัดเลือกคนจากเกรดจึงเป็น ‘ดัชนีชี้วัด’ ที่เป็นปัจจัยในการคัดเลือกคนได้มากที่สุด

.

ก็ถือว่าต้องรับกรรมกันไปสำหรับผลการเรียนที่คุณแก้ไขไม่ได้แล้ว การสมัครงานตำแหน่งที่ต้องคัดคนด้วยเกรดอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคุณ

.

แต่สำหรับอาชีพนักขาย กลับกลายเป็นข่าวดี เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของนักขายคือ ‘ความฉลาดทางอารมณ์’ (EQ) วินัย กิจกรรมทางการขาย และ ‘หัวใจ’ ที่อยากเป็นคนรวย เป็นนักธุรกิจ มีความทะเยอทะยานต่างหาก

.

งานขายจะมีที่ว่างให้คุณเสมอ ถ้าคุณมีคุณสมบัติที่ดีข้างต้น ซึ่งแต่ละอย่างไม่เกี่ยวกับ ‘ผลการเรียน’ ของคุณเลย สิ่งที่วัดผลนักขายได้คือ ‘ยอดขาย’ ต่อให้คุณติด F มา 10 ตัว จบมาเกรด 2.00 เกือบไทร์ แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าสามารถขายของได้ เคยมีผลงานดีๆ หรือมีแววที่จะเป็นนักขายที่ดีได้ จะไม่มีใครที่กล้ามองข้ามคุณแน่นอน

.

6. คุณอยากขึ้นสู่ที่สูง ขึ้นบันใดทีละสามขั้น เป็นใหญ่เป็นโตเร็วๆ

.

แต่ละอาชีพจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ’ (Career Path) ที่แตกต่างกันไป เช่น คุณทำงานอยู่ฝ่ายบุคคล ตำแหน่งสูงสุดในอาชีพคุณก็น่าจะไปจบที่ตำแหน่ง ‘HR Director’ เป็นต้น หรือเป็น IT Support ตำแหน่งสูงสุดในองค์กรก็ควรเป็น ‘CIO’ เป็นต้น

.

อาชีพนักขาย เป็นตำแหน่งสำคัญที่ ‘หาเงิน’ เข้าองค์กร ดังนั้นคุณจะมีความสำคัญสูงสุดไม่แพ้ฝ่ายการตลาดหรือการเงินเลย เพราะองค์กรเอกชนก่อตั้งมาเพื่อประกอบธุรกิจ ‘แสวงหาผลกำไร’ เข้ากระเป่ากันอยู่แล้ว (ฮา..)

.

ในเมื่อตำแหน่งนักขายมีความสำคัญที่สุด ถ้าคุณโชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม เป็นท็อปเซลล์ ผลงานเหล่านี้จะเข้าตาเจ้าของบริษัทหรือ CEO ได้ชัดเจนมาก พวกเขาจะดึงคุณไปสู่ตำแหน่งใหญ่โตพร้อมกับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น เหตุผลก็คือพวกเขาไม่อยากเสียคุณไปให้กับคู่แข่งหรือบริษัทอื่นนั่นเอง

.

คำว่าอายุและประสบการณ์จะมีผลน้อยมากๆ ถ้าคุณมียอดขายแซงหน้ารุ่นพี่ในทีมได้ คุณย่อมได้รับการจับตามองแน่นอน ถึงแม้ว่าองค์กรที่คุณทำงานจะเป็นองค์กรโบราณ เน้นระบบมาก่อนมาหลัง และคุณเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะยังไงก็มีบริษัทอื่นตามมาจีบคุณด้วยคำเหนื่อยและตำแหน่งที่ดีกว่าอยู่ดี

.

7. คุณชอบที่จะเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง

.

อาชีพนักขาย เป็นอาชีพที่ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจาก ‘ตัวคุณ’ เสมอ ถึงจะทำให้คุณขายของได้ ตั้งแต่เริ่มทำลีดรายชื่อ โทรทำนัดลูกค้า นำเสนอ เจรจา ปิดการขาย ดูแลหลังขาย ฯลฯ เห็นอะไรมั้ยครับว่าทุกขั้นตอนนั้น คุณต้องเป็นผู้ลงมือทำด้วยตัวเองทั้งหมด

.

สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมี ‘เครดิต’ ที่ดี ผลงานที่คุณสร้างมาสามารถพูดได้ว่าคุณเป็น ‘ผู้เริ่มต้น’ ลงมือทำให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นด้วยมือของคุณเองแทบจะ 100% มีบ้างที่การขายบางรูปแบบต้องพึ่งทีมงานหลายฝ่าย แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนที่ต้องเริ่ม ‘เขี่ยลูก’ ก่อนเสมอและต้องเริ่มติดตามลูกค้าก็คือนักขายนั่นเอง

.

แถมบางบริษัท นักขายบางท่านสามารถทำงานได้แบบ ‘หมาป่าเดียวดาย’ (Lone Wolf) ได้เลย ถ้าองค์กรเอื้อประโยชน์ให้นักขายเปิดและปิดการขายได้ด้วยต้นเอง สิ่งนี้จะทำให้คุณทำงานได้อย่างอิสระ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องคน เพราะมากคนก็มากความ มีอิสระในการทำงานและใช้ชีวิตมากขึ้นเลยทีเดียว

.

8. คุณเบื่อสิ่งที่เรียนจบเฉพาะทางและคุณไม่ได้อยากทำงาน ‘ตรงสาย’ ที่จบมา

.

ความคิดในวัยเด็กสมัย ม.ปลาย อาจจะไม่ได้เป็นความคิดที่ถูกต้องนัก เพราะตอนนั้นคุณขาดประสบการณ์ บางทีคุณอาจจะตัดสินใจพลาดในการเลือกเข้าเรียนมหาลัย ซึ่งมาค้นพบตัวเองทีหลังว่าคุณไม่ได้ชอบสาขาที่จบมา เช่น เรียนตามเพื่อน ตามสาว พ่อแม่บังคับ คะแนนแอดมิชชั่นไม่ถึง คิดไปเองว่าเรียนคณะนี้แล้วดี ฯลฯ

.

สิ่งนี้สร้างความทุกข์ใจให้กับใครหลายๆ คน จนโตมาก็ต้องอุทานว่า “รู้งี้…” (รู้อะไรไม่สู้รู้งี้เนอะ) เพราะใจไม่ได้รักจริงแต่เรียนจบสาขาเฉพาะทางมาแล้ว เช่น วิศวกรรม เภสัช วิทยาศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ เกษตรศาสตร์ ฯลฯ

.

เชื่อผมไหมครับว่าสาขาเฉพาะทางที่กล่าวมานั้น มีตำแหน่งนักขายอยู่ทุกศาสตร์เลย แถมยังเป็นข่าวดีให้กับคนที่ไม่อยากทำงานเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนมาได้ด้วย เพราะการขายมุ่งเน้นไปที่การถามคำถาม นำเสนอให้ตอบโจทย์ แก้ปัญหาให้ลูกค้า โดยที่ความรู้ของคุณจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการขาย และคุณไม่จำเป็นต้องรู้ลึกมากเกินไปจนทำให้สิ่งที่คุณเบื่อมันกลับมาหลอกหลอนคุณ

.

อาชีพนักขายจะเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะหลายๆ บริษัทต้องการนักขายที่มีวุฒิที่จบมาเหมือนกับธุรกิจที่พวกเขาประกอบกิจการ เช่น ด้านไอที ก็ต้องการคนจบคอมพิวเตอร์ ด้านรถยนต์ ก็ต้องการคนจบวิศวะ ด้านเคมีเกษตร ก็ต้องการคนจบเกษตรศาสตร์ เป็นต้น แถมค่าตอบแทนก็ยังสูงตามผลงานอีกด้วย ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ

.

9. คุณชอบงานที่ตื่นเต้น ท้าทาย

.

“ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต เราไม่รู้ว่าเปิดมาจะได้เจอกับอะไร” — Forrest Gump

.

การขายเองก็ไม่ผิดไปจากประโยคอมตะจากหนังเรื่อง Forrest Gump เท่าใดนัก เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าลูกค้าคนใหม่ที่คุณกำลังไปพบ เป็นคนอย่างไร จะซื้อสินค้าจากคุณมั้ย จะชอบคุณรึเปล่า?

.

คุณคิดว่ามันน่าตื่นเต้นและท้าทายความสามารถของคุณเองไหมครับ? เปรียบได้กับเวลาที่เพื่อนสุดห่ามของคุณ ท้าให้คุณลองเข้าไปจีบสาวสวยๆ ขอเบอร์สาวให้ได้แถวสยาม สมัยที่คุณยังเรียนอยู่ ม.ปลาย

.

ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทั้งตื่นเต้นและท้าทาย ถ้าคุณเอาชนะความกลัว ความอาย และกล้าเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ รางวัลที่คุณได้รับกลับมาคือ ‘เบอร์โทรให้คุณได้จีบเธอต่อ’ ในขณะที่คนอื่นแห้วรับประทาน (ฮา..)

.

แต่การขายมีข่าวดีคือไม่จำเป็นต้องกล้าๆ กลัวๆ ขนาดนั้น เพราะลูกค้ายินดีที่จะรับฟังคุณเสมอถ้าคุณนำเสนอในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ที่สำคัญคือรางวัลที่ได้จะทำให้คุณ ‘เป๋าตุง’ เพิ่มขึ้นนั่นเอง ถ้าคุณขายของได้สำเร็จ

.

10. คุณชอบงานขาย

.

ถ้าคุณรักและชอบงานขายอยู่แล้ว ทุกข้อที่กล่าวมาคงไม่จำเป็นอีกต่อไป ในเมื่อคุณรู้ตัวเองแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ จงตัดสินใจเป็นนักขายเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องรอ

สำหรับใครที่ ‘รักงานขาย’ อยู่แล้ว ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องหามาให้อ่านอีกต่อไป เพราะพวกคุณเลือกเส้นทางให้กับตัวเองได้ถูกต้องแล้วครับ อาชีพนี้จะนำพาตัวคุณไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการได้อย่างแน่นอน

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น